Second Life ตลกร้ายของนักการตลาด

4 ปีหลังจากถูกสร้างขึ้น โลกเสมือนจริงออนไลน์ “Second Life” อาจเป็นโลกที่แปลกและอันตรายสำหรับสินค้าในโลกจริง

ในเดือนเมษายน เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินชนอาคารของ Nissan ทำให้เกิดเพลิงไหม้และมีผู้เสียชีวิต แต่เหตุการณ์ดังกล่าวมิได้เป็นเหตุการณ์จริง หากแต่เกิดขึ้นที่ Altima Island ใน Second Life โลกเสมือนจริงออนไลน์บนเว็บ ซึ่งผู้ใช้สามารถสร้างตัวเอง ที่มีลักษณะเป็นตัวการ์ตูน ขึ้นในโลกสมมตินั้นได้ตามใจชอบ ซึ่งเรียกว่า Avatar การบินชนตึกดังกล่าวของ Nissan ในโลกเสมือนจริงออนไลน์ อาจเป็นอุบัติเหตุหรือตลกร้ายที่จงใจให้เกิดขึ้น

แต่แน่นอนว่า ผลที่เกิดขึ้นย่อมไม่ใช่การส่งเสริมภาพลักษณ์ของ Nissan เป็นแน่ ตัวแทนซึ่งเป็น Avatar ของ Nissan ใน Second Life ต้องจัดงานศพ (เสมือนจริง) และเก็บกวาดปัญหาเสมือนจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากเฮลิคอปเตอร์ชนตึกดังกล่าว

นักการตลาดพากันตบเท้าเข้าสู่โลกของ Second Life นับตั้งแต่โลกเสมือนจริงแห่งนี้เปิดตัวในปี 2003 ไม่ว่าจะเป็น Coca-Cola, H&R Block, IBM และ Toyota จากบริษัททั้งหมด 80 แห่งที่ได้จัดตั้งบริษัทหรือห้างร้านของตนใน Second Life ซึ่งโอ่ว่า ขณะนี้ โลกเสมือนจริงแห่งนี้มีประชากรหรือผู้ใช้ที่ลงทะเบียนถึง 1.7 ล้านคน และเป็นสถานที่ทดลองการสร้างแบรนด์บนโลกออนไลน์ โดย Second Life คิดราคาถูกมากเพียง 1,675 ดอลลาร์ + 295 ดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อการเป็นเจ้าของเกาะหรือ Island ในโลกเสมือนจริงแห่งนี้ ส่วนคนที่เข้ามาดูเฉยๆ ไม่ต้องเสียสตางค์

แต่ดูเหมือนว่า Avatar จำนวนมากในโลกเสมือนจริง จะสนใจแต่เรื่องเพศและทำแต่เรื่องตลกวิตถาร มากกว่าจะสนใจสินค้าจากโลกจริง ที่เข้าไปทำตลาดใน Second Life อย่างที่ David Churbuck ผู้บริหารที่ดูแลด้าน Web-marketing ของ Lenovo ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์กล่าวว่า ไม่มีอะไรเลยใน Second Life นอกจากเรื่องเซ็กซ์ Lenovo ไม่เคยสนใจเข้าไปมีตัวแทนใน Second Life

ต้นปีที่ผ่านมา ผู้ใช้ Second Life คนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า NBC Universal ได้ตั้งสถานบริการทางเพศ S&M แล้วยังมีการจับกุมอันธพาลที่เรียกตัวเองว่า Bush’08 ซึ่งเอาของเสียไปละเลงสำนักงานใหญ่เสมือนจริงของ John Edwards ที่อยู่ใน Second Life แถมยังเอาสีดำละเลงรูปของ Edwards ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสนอตัวเป็นตัวแทนพรรค Democrats ในการลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีหน้า

นอกจากนี้ ยังมีเรื่อง “ของลับบิน” ที่บินว่อนขัดจังหวะขณะที่นักข่าวของ CNET กำลังสัมภาษณ์ Anshe Chung ตัว Avatar ใน Second Life ของ Ailin Graef ซึ่งเป็นนักซื้อขายที่ดินสมมติใน Second Life พฤติกรรมวิตถารเหล่านี้เรียกกันว่า Griefing ตามสำนวนที่ใช้กันในโลก Second Life

Gregory Verdino ผู้บริหารที่ดูแลช่องทางสื่อยุคใหม่ของ Digitas เอเยนซี่โฆษณาออนไลน์ชี้ว่า หากแบรนด์ใดคิดจะเข้าไปทำตลาดในสถานที่อย่าง Second Life ก็คงต้องเบิ่งตาให้กว้างๆ ไว้ตลอดเวลา เพื่อเตรียมรับมือกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับแบรนด์

นักการตลาดบางคนรู้สึกผิดหวังที่ผู้ใช้ Second Life มิได้มีจำนวนมากอย่างที่หวัง จากสถิติ ในช่วงเวลา 1 สัปดาห์ “ผู้อยู่อาศัย” ใน Second Life ที่เข้าไปในโลกเสมือนจริงแห่งนี้ จะมีประมาณ 360,000 คน แต่บางขณะก็มีผู้ใช้น้อยมากเพียง 30,000 คนเท่านั้น

Starwood Hotels & Resorts ซึ่งเคยนำต้นแบบเสมือนจริงของการออกแบบเชนโรงแรม Aloft ของตน ไปลงไว้ใน Second Life เพื่อดูปฏิกิริยาตอบรับจากผู้ใช้ Second Life และได้เพิ่มวิทยุในห้องน้ำของโรงแรมตามคำแนะนำที่ได้รับผู้ใช้ Second Life โดยขณะนี้ Starwoodk กำลังจะเปิดตัว Aloft ในโลกจริง กำลังคิดจะขายต่อที่ดินที่มีอยู่ใน Second Life ให้คนอื่น

ขณะที่ American Apparel ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกร้านแรก ที่เข้าไปตั้งร้านค้าเสมือนจริงในโลก Second Life เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2006 เกือบจะยกเลิกร้านค้าทั้งหมดที่มีอยู่ใน Second Life ไปหมดแล้ว เพราะมีแต่คนเข้าไปด่าว่ามากกว่าจะมีคนซื้อ ก่อนหน้านี้ หลังจากที่ American Apparel เพิ่งจะเปิดร้านใน Second Life ได้ไม่นาน กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Second Life Liberation Army ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้ Second Life ที่ไม่พอใจที่มีการทำการค้าใน Second Life และยังรณรงค์ต่อต้านเรื่องอื่นๆ ในโลกเสมือนจริงแห่งนี้ ได้ยิงลูกค้าของ American Apparel ด้วยปืนเสมือนจริง อย่างไรก็ตาม Rasmus Schionning ซึ่งเป็น Web Director ของร้านค้าปลีกเสื้อผ้าดังกล่าว ให้เหตุผลการปิดร้านใน Second Life ว่า เพราะผิดหวังในยอดขายที่มีเพียงเล็กน้อยที่ได้จาก Second Life

ด้าน Catherine Smith ผู้อำนวยการการตลาดของ Linden Lab เจ้าของผู้สร้าง Second Life กล่าวว่า หากเจ้าของสินค้ายังไม่คิดที่จะสละอำนาจในการควบคุมออกไปบ้าง Second Life ก็อาจไม่เหมาะสำหรับพวกเขา

ส่วน Nissan ซึ่งถูกเฮลิคอปเตอร์ชนสำนักงานเสมือนจริงใน Second Life ไม่ได้รู้สึกกลัวที่จะอยู่ในโลกเสมือนจริงแห่งนี้ต่อไป Stephen Kerho ผู้บริหารที่ดูแลสื่อ Interactive ของ Nissan ในอเมริกาเหนือยักไหล่กับเหตุการณ์ดังกล่าว เขาเข้าใจดีว่าในโลกเสมือนจริงอย่าง Second Life ผู้ใช้เป็นผู้ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น

ด้านสถาบันการเงิน Wells Fargo หยุดใช้เทคโนโลยีที่ใช้ยากของ Linden Lab ในการดูแล Stagecoach Island อสังหาริมทรัพย์สมมติของ Wells Fargo ที่อยู่ใน Second Life ผ่านเว็บไซต์ของ Wells Fargo หลังจากใช้ไปเพียง 4 เดือน นับตั้งแต่ซื้อเกาะดังกล่าวใน Second Life เมื่อเดือนกันยายน 2005 และขณะนี้ Wells Fargo ไม่มีสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับ Second Life อีกแล้ว Erik Hauser ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Swivel Media เอเยนซี่โฆษณาออนไลน์ของ Wells Fargo เตือนว่า การเข้าไปทำตลาดใน Second Life ขณะนี้ ไม่ผิดอะไรกับการเข้าไปทำตลาดในสนามรบอย่างอิรัก**

เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์ แปลและเรียบเรียง
นิตยสารฟอร์บส์ กรกฎาคม 2550