โนเกียเริ่มสีสันการตลาดโทรศัพท์มือถือของปี 2008 อย่างไม่ธรรมดา เพราะเป้าหมายที่โนเกียจะเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของคนในชนบท และกลุ่มคนที่เป็น New Entry หรือผู้ที่เริ่มใช้โทรศัพท์มือถือเป็นครั้งแรก ด้วยโนเกียรุ่น 2600 ที่สเป็กเครื่องมีทั้งกล้องถ่ายรูป วิทยุเอฟเอ็ม เกม GPRS พร้อมหน้ากากสีให้เลือก ในราคาไม่เกิน 3,000 บาท เอื้อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถหาซื้อมาใช้งานได้
“วิภู ซาบาวาล” ผู้จัดการทั่วไป โนเกีย ประเทศไทย ชาวอินเดียที่ย้ายมาประจำในไทยเมื่อกลางปี 2550 บอกว่า โนเกียเปิดตัวรุ่น 2600 พร้อมกันทั่วโลก ด้วยสีสันคล้ายกัน โดยเฉพาะในตลาดเติบโตใหม่ (Emerging Market) ในอินเดีย จีน เวียดนาม ซึ่งมีพฤติกรรมใช้โทรศัพท์มือถือร่วมกันในครอบครัว
สำหรับเมืองไทย ผู้ใช้โทรศัพท์ในชนบทยังมีเพียงแค่ประมาณ 30% เท่านั้น ในขณะในเมืองมีถึง 80% จึงเป็นโอกาสที่โนเกีย จะมุ่งเน้นขยายตลาดในชนบท และกลุ่ม New Entry ซึ่งมีความต้องการใช้โทรศัพท์ที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพของตัวเอง และฟังก์ชันที่ให้ความบันเทิง
จากโจทย์นี้ทำให้โนเกียพัฒนาให้ 2600 มี Multi Phonebook ที่แม้คนในครอบครัวจะใช้เครื่องเดียวกัน แต่มี Phone Book ส่วนตัว มีหน้ากากสีให้เปลี่ยน มีกล้อง VGA และ GPRS บลูทูธ สำหรับรับส่งรูปได้ เพื่อรับส่งภาพ สอดคล้องกับแนวโน้มของ Social Networking
ที่สำคัญโนเกียไม่ได้ต้องการเสนอโทรศัพท์มือถือสำหรับกลุ่ม New Entry ด้วยฟังก์ชันเพียงแค่โทรเข้าออกเท่านั้น แต่กลุ่มนี้จะได้ทดลองฟังก์ชั่นเพื่อความบันเทิงอื่นๆ และนี่คืออนาคตสำหรับโนเกียรุ่นต่อไปที่มีฟังก์ชัน และราคาสูงขึ้นกว่าเดิม
Positioning โทรศัพท์มือถือสำหรับ New Entry
Target Audience
-หญิง ชาย อายุ 18-25 ปี
-พื้นที่ปริมณฑลของกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
-คนที่ต้องการสร้างสีสันให้ตัวเอง และถ่ายทอดให้กับคนอื่น ด้วยฟังก์ชันกล้องและบลูทูธ
-คนที่ต้องการแสดงตัวตน ผ่านหน้ากากสีให้เลือก
Marketing Strategy
-สื่อสารการตลาด ผ่าน IMC ทั้งทีวีซี สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ และอีเวนต์ เพื่อให้คนได้สัมผัสประสบการณ์การใช้
Competitor
-โซนี่อีริคสัน K200i (ราคา 2,990 บาท เปิดตัว ก.พ. 2007)
-ซัมซุง 2990 (ราคา 2,990 บาท เปิดตัว ก.ค. 2007)
Did you know?
โนเกียสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเมื่อตุลาคม –พฤศจิกายน 2007 พบ 50% ของคนในอินเดีย และปากีสถาน และเวียดนาม 30% ใช้โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวกันในครอบครัว สำหรับไทยไม่ได้สำรวจโดยตรง แต่คาดว่าอยู่ในระดับ 30% ที่ใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวกัน
