คนไทยยังไม่มั่นใจเศรษฐกิจ

จากผลสำรวจของมาสเตอร์การ์ด ดร.ยุวะ เฮ็ดริก หว่อง ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ สรุปผลจากการทำเซอร์เวย์พบว่า ผู้บริโภคในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ยังมีความมั่นใจต่อเศรษฐกิจภายในประเทศของตัวเอง แม้ว่าจะรับรู้ถึงปัญหาซับไพร์มในสหรัฐอเมริกา ปัญหาราคาน้ำมัน และอัตราเงินเฟ้อ โดย 10 ใน 13 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีคะแนนความมั่นใจสูงขึ้น

ทั้งนี้ ดร.หว่อง มีข้อแนะนำว่า แม้หลายประเทศจะยังคงมีความมั่นใจสูง แต่จากภาวะเศรษฐกิจที่มี ส่งผลต่อการบริโภคทั่วโลกที่ลดน้อยลง โดยเฉพาะอาจจะส่งผลกระทบต่อประเทศจีนได้ เพราะปัจจุบันจีนเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญที่สุดในเอเชียซึ่งแม้จะมีแนวโน้มเติบโตสูง แต่หากประเทศคู่ค้าของจีนมีปัญหาจีนก็อาจจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจทางอ้อม ซึ่งถ้าใครคาดหวังการเติบโตจากเศรษฐกิจจีนมากเกินไปก็ต้องระวังผลกระทบทางอ้อมที่จะเกิดขึ้นด้วย

คนในเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่มั่นใจไม่ตกงาน
ตัวเลขความมั่นใจของคนในเอเชียแปซิฟิกจากการสำรวจครั้งล่าสุดส่วนใหญ่อยู่ในระดับใกล้เคียงกันในทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องรายได้ประจำที่มีคะแนนความมั่นใจโดดเด่นเป็นพิเศษ
– ด้านเศรษฐกิจ 68.3 คะแนน (67.3)
– ด้านรายได้ประจำ 81.0 คะแนน (80.6)
– ตลาดหลักทรัพย์ 66.5 คะแนน (65.1)
– คุณภาพชีวิต 66.7 คะแนน (62.5)
– การจ้างงาน 63.8 คะแนน (63.8)
หมายเหตุ : ใน (…) คือตัวเลขของปี 2550

เศรษฐกิจเวียดนามแรง ไม่หวั่นผลกระทบเศรษฐกิจโลก
ในการสำรวจครั้งนี้ พบว่า ประเทศ 5 อันดับแรกที่มีคะแนนความมั่นใจสูงสุดในผลสำรวจครั้งนี้ ได้แก่
อันดับ 1 เวียดนาม 94.3 คะแนน
อันดับ 2 ฮ่องกง 85.9 คะแนน
อันดับ 3 จีน 85.5 คะแนน
อันดับ 4 สิงคโปร์ 83.6 คะแนน
อันดับ 5 มาเลเซีย 72.5 คะแนน

ส่วนคนไทยฝากชีวิตกับงานประจำ

สำหรับตัวเลขความมั่นใจของผู้บริโภคไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านใด ล้วนมีคะแนนความมั่นใจไม่ถึงครึ่ง แม้ว่าผลการสำรวจของปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีก่อนอยู่มากก็ตาม โดยมีเพียงรายได้ประจำที่คนไทยรู้สึกมีความมั่นใจสูงสุด แต่สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2551 ตัวเลขความมั่นใจด้านรายได้ประจำกลับลดต่ำลง แม้ว่าความมั่นใจในด้านอื่นๆ จะสูงขึ้นก็ตาม

คะแนนความมั่นใจครึ่งปีแรก 2551 คะแนนปี 2550
การจ้างงาน 36.7 28.1
เศรษฐกิจ 42.1 32.1
รายได้ประจำ 56.1 73.2
ตลาดหุ้น 44.6 25.3
คุณภาพชีวิต 41.7 24.6
คะแนนโดยรวม 44.2 36.7

ทั้งนี้มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ เปิดเผยว่า คะแนนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคไทยอยู่ในอันดับที่ 12 จาก 13 ประเทศ หรือเป็นประเทศที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นรองอันดับสุดท้าย สวนทางกับหลายประเทศที่มองว่าเศรษฐกิจจะสดใสขึ้น

การสำรวจของมาสเตอร์การ์ดครั้งล่าสุดนี้จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 8-29 ตุลาคม 2550 โดยสำรวจจากจำนวนผู้บริโภคทั้งหมดจำนวน 5,411 คน จาก 13 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก
ที่มา:มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ และ www.masterintelligence.com

คนไทยยังเน้นออมไม่อยากจ่าย

ขณะที่ผลสำรวจออนไลน์ด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ของเอซีนีลเส็นรอบครึ่งปีหลังของปี 2550* พบว่า คนไทยมีระดับความเชื่อมั่นในระดับเดิม เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก ส่วนใหญ่ยังคงกังวลเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ มากกว่าครึ่งไม่ค่อยมั่นใจกับโอกาสในด้านการงาน และเกือบครึ่งวิตกกับสถานะทางการเงินของตัวเองในปี 2551 ส่งผลให้คนไทยเกิดการออมเงินมากขึ้น

การงานแย่ การเงินน่าเป็นห่วง

2 หัวข้อด้านความเชื่อมั่นที่คนไทยรู้สึกแย่ที่สุดในปีนี้ เป็นความรู้สึกที่ประมวลได้จากข่าวผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ

จากผลการสอบถามความคิดเห็นและความรู้สึกของผู้บริโภคชาวไทยเกี่ยวกับโอกาสด้านการงาน และสถานะทางการเงินของตัวเองใน 1 ปีข้างหน้าพบว่า

64% รู้สึกว่าโอกาสในด้านการงาน “ไม่ค่อยดี” และ “ไม่ดี”
44% มีความกังวลด้านสถานะทางการเงินตัวเอง

จากความกังวลที่เกิดขึ้น ทำให้คนไทย
66% เชื่อว่าขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการซื้อสินค้าที่ต้องการในอีก 1 ปีข้างหน้า
64% มีความต้องการจะเก็บเงินในส่วนที่เหลือหลังใช้จ่าย (คนไทยเคยครองอันดับหนึ่งในการเก็บเงินจากการสำรวจ 3 ครั้งติดต่อกันก่อนการสำรวจครั้งนี้ โดยครั้งนี้ถูกอินโดนีเซียและสิงคโปร์แซงเป็นที่ 1 ที่ 65% เท่ากัน) และมีคนไทยเพียง 6% ที่ไม่มีเงินเหลือเก็บเลย

ถ้าอยากใช้เงิน คนไทยจ่ายเรื่องเที่ยวเป็นอันดับ 1
กรณีที่จะใช้จ่ายเงิน 3 อันดับแรกที่คนไทยยอมจ่ายเพื่อความสุขของตัวเอง ได้แก่
อันดับ 1 เพื่อการท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจ 50%
อันดับ 2 เพื่อสินค้าด้านเทคโนโลยี 38%
อันดับ 3 เพื่อเสื้อผ้าใหม่ 30%

กังวลการเมืองฉุดเศรษฐกิจ
68% กังวลปัญหาด้านเศรษฐกิจ
โดยมีปัจจัยที่กังวลมากที่สุดในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมาจาก
47% ความไม่มั่งคงด้านการเมือง
43% ปัญหาการว่างงาน
28% ภาวะเงินเฟ้อ

*การสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลกของเอซีนีลเส็น จัดทำขึ้น 2 ครั้งต่อปี การสำรวจครั้งล่าสุดทำขึ้นช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน 2550 จากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประมาณ 26,312 คน ใน 48 ประเทศ ทั่วโลก