“ใส” ทั้งน้ำ และแบรนด์ บุษรินทร์ วุฒิธรรมาภรณ์

บุษรินทร์ วุฒิธรรมาภรณ์ สาวภูเก็ตร่างเล็ก บุคลิกปราดเปรียว ดูสดใสและร่าเริงตลอดเวลา ปัจจุบันเธอเป็น Brand Manager -เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ แบรนด์น้ำดื่มอันดับ 1 ของโลก และเป็นน้ำดื่ม Global Brand เพียงแบรนด์เดียวที่ทำตลาดในไทย ซึ่งรุกตลาดมานานเกือบ 10 ปี

เธอมีหลักคิดการทำงานในฐานะ Brand Manager มาบอกเล่ากับ POSITIONING

จากประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ฝ่ายขาย เป็นนักการตลาดดูแลช่องทางคอนวีเนียนสโตร์และโมเดิร์นเทรดของไอศกรีมเนสท์เล่ ทำให้เธอได้มุมมองการทำงานแบบ 360 องศา แม้เธอจะออกตัวว่าไม่ใช่ Expertise แต่หากพูดถึง Passion แล้ว เธอมีให้กับการทำงานเต็มที่

“เนื่องจากประสบการณ์แต่ละสายงานที่ผ่านมา เมื่อเรามาเป็น Brand Manager ทำให้เราสามารถทำงานร่วมกับฝ่ายอื่นๆ เป็นทีมเวิร์คได้ง่าย และทำให้เราไม่ได้รู้แค่ Consumer Insight แต่รู้ไปถึง Shopper Insight อีกด้วยว่าอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ”

“ฝ่ายการตลาดเป็นคนวางกลยุทธ์ ขณะที่ฝ่ายขายนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติให้เห็นผลจริง”

น้ำดื่มเป็นสินค้า Commodity ซึ่งผู้บริโภคมองว่าน้ำดื่มบรรจุขวดยี่ห้อไหนก็ไม่ต่างกันเพราะเป็นน้ำดื่มเหมือนกัน ไม่มีรสไม่มีสี ดังนั้นแบรนด์จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะแยกแยะความแตกต่างให้เกิดขึ้นในใจผู้บริโภค ให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อเพราะแบรนด์ ไม่ใช่เลือกอะไรก็ได้

“ทำยังไงให้เขารู้สึกว่าเป็น Brand for me ได้ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อยากให้ทุกครั้งที่ดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ แล้วรู้สึกภาคภูมิใจ”

แม้จะดูแล Global Brand ซึ่งมีกลยุทธ์ให้เดินตาม แต่กระนั้นการ Localize เป็นสิ่งสำคัญมาก “เราจะทำยังไงที่จะสื่อสารกับผู้บริโภค ให้เข้าใจด้วยภาษาง่ายๆ เพราะผู้บริโภคทุกวันนี้ไม่มีเวลามาตีความอะไรที่ซับซ้อน ยุ่งยาก”

เธอเข้ารับตำแหน่ง Brand Manager-เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ในห้วงเวลาที่มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดของแพ็กเกจจิ้ง เมื่อ 2 ปีเศษที่ผ่านมา ด้วยผลงานโฆษณาสะท้อนไลฟ์สไตล์ของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ทำให้ภาพลักษณ์ของเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ดูสดใสและทันสมัยกว่าแบรนด์คู่แข่ง

เธอเล่าว่าก่อนหน้าเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ จะเน้นกลยุทธ์ Brand Visibility เพื่อให้คนพบเห็นแบรนด์ให้มากที่สุด และเน้นขยายช่องทางจัดจำหน่าย เนื่องจากเป็นสินค้าแมส Distributor จึงเป็นเสมือนกระดูกสันหลังที่ต้องแข็งแกร่งและครอบคลุม

ผลจากแคมเปญดังกล่าวส่งผลให้ปัจจุบันเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในช่องทางคอนวีเนียนสโตร์ (CVS) และโมเดิร์นเทรด (MT) และมีส่วนแบ่งการตลาด 10% ในตลาดรวม ใกล้เคียงกับคริสตัล ขณะที่สิงห์ครองแชมป์ด้วยส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 19%

“ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่าเป็นน้ำดื่มสำหรับคนรุ่นใหม่ เพราะคอนวีเนียนสโตร์เป็นช่องทางที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่เน้นความสะดวกเป็นหลัก นอกจากนี้ยังอาจกล่าวได้ว่าเนสท์เล่ เพียวไลฟ์เป็นแบรนด์สำหรับครอบครัวรุ่นใหม่อีกด้วย”

ดังนั้น แคมเปญโฆษณาล่าสุดจึงสื่อสารถึงแนวคิด “การหยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้แก่กันในครอบครัว” เป็น Emotional Marketing ซึ่งทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท พูดถึงความรักความห่วงใยในครอบครัวทั้ง Caring และ Sharing เพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และเป็นการขยายฐานเข้าสู่กลุ่มครอบครัวให้เหนียวแน่นขึ้น

นอกจากนี้ยังเป็นการผลักดันยอดขายแพ็กเกจจิ้งขนาด 6 ลิตร สำหรับบริโภคในครัวเรือนอีกด้วย

กระนั้นการให้ความรู้กับผู้บริโภคก็เป็นสิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ “เราต้องการบอกกับผู้บริโภคว่าทำไมถึงควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ทุกคนรู้ เคยเรียนมาว่าควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว แต่ยังไม่มีใครมาสื่อสารอย่างจริงจังว่าทำไม ดังนั้นฉลากข้างขวดของเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ จึงเพิ่มเติมสัญลักษณ์ “เลข 8 บนแก้วน้ำ” เพื่อให้ผู้บริโภคดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน”

แม้ทุกวันนี้การขึ้นแท่นเป็นที่ 1 ใน 2 ช่องทางดังกล่าว แต่การเจาะตลาดร้านอาหารให้แข็งแกร่งมากขึ้น เป็นสิ่งที่เธอบอกว่าต้องเดินหน้าต่อไป เพราะช่องทางคอนวีเนียนสโตร์และโมเดิร์นเทรดคิดเป็นสัดส่วนเพียง 20% ของตลาดรวม ขณะที่ช่องทางร้านค้าปลีกย่อยคิดเป็น 30% และอีก 50% ซึ่งเป็นช่องทางใหญ่ที่สุดคือร้านอาหาร

ในแง่ของการทำงานท่ามกลางการขับเคี่ยวของตลาดมูลค่ามหาศาลกว่า 15,000 ล้านบาทนั้น เธอบอกว่า Commonsense เป็นสิ่งสำคัญ ช่วยในการเพิ่มสีสันของแบรนด์ แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยชี้วัดว่าแบรนด์นั้นมีความน่าเชื่อถือ เพราะสุดท้ายแล้วต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง

เมื่อให้เปรียบเทียบความเหมือนของแบรนด์ที่เธอดูแลกับตัวเธอเอง เธอบอกว่า

“เพียวไลฟ์ สื่อถึงความทันสมัย สดใส ร่าเริง และคิดบวก เหมือนกันกับบุคลิกและทัศนคติในการใช้ชีวิตของตัวเอง”

ขณะที่สิ่งสำคัญในการเป็น Brand Manager ในมุมมองของเธอคือ “อันดับแรก ต้องรักในแบรนด์ รักในผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริง ต้องรู้สึกรักเขาเหมือนคนในครอบครัว และต้องเข้าใจในแบรนด์ ถ้าจะจับเขาแต่งตัว ก็ต้องให้เหมาะกับคาแร็กเตอร์ของเขา”

และที่ขาดไม่ได้คือ “รักแบรนด์ รักในสิ่งที่เราทำ ตั้งใจศึกษาเรียนรู้ เพราะถ้ารักแล้วจะมีพลังมหาศาล กระตุ้นให้เราขวนขวายและอยากปลุกปั้นให้ประสบความสำเร็จที่สุด”

ด้านไลฟ์สไตล์ เธอบอกว่าไลฟ์สไตล์ของเธอคืองาน แต่เวลานอกเหนือจากนั้นสำหรับวันว่างเสาร์อาทิตย์ เธอจะใช้สำหรับพักผ่อน อ่านหนังสือ และท่องเที่ยวบ้าง และที่สำคัญเป็นช่วงเวลาในการดูแลรักษาสุขภาพอย่างจริงจัง เช่น ออกกำลังกายและทำสปา

เธอวางแผนเดินทางไปพักผ่อนต่างประเทศเป็นประจำทุกปี และกรุงปารีสคือสถานที่ท่องเที่ยวที่เธอชื่นชอบมาก

ถึงแม้ปัจจุบันเธอจะสนุกสนานและมีความสุขกับการดูแลเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ในฐานะลูกรัก แต่สุดท้ายแล้วในอนาคตเธอวางแผนที่จะกลับไปดูแลธุรกิจครอบครัวที่ภูเก็ต ซึ่งเปิดรีสอร์ตแบบLong Stay สำหรับชาวต่างชาติที่เกษียณอายุ

Profile
Name บุษรินทร์ วุฒิธรรมาภรณ์
Age 31 ปี
Education
-ปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ
-ปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค)
Career Highlights
2549-ปัจจุบัน Brand Manager – Nestle Pure Life & Minere หน่วยธุรกิจ น้ำดื่ม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด
Promotion Marketing Supervisor – MT หน่วยธุรกิจไอศกรีมและแดรี่ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด
Channel Marketing Supervisor – CVS & MT หน่วยธุรกิจไอศกรีม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด
Senior sale representative หน่วยธุรกิจไอศกรีม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด
Account Executive บริษัท Index Advertising จำกัด
Lifestyle สะสมตุ๊กตา อ่านหนังสือ ท่องเที่ยว ชอบแบรนด์ Louis Vuitton เนื่องจากมี เอกลักษณ์โดดเด่น นอกจากนี้ยังชื่นชอบแบรนด์เป๊ปซี่ กับโค้ก ที่สร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องและคนรู้จักทุกช่วงวัย ทำให้ทั้งเป๊ปซี่และโค้กกลายเป็น Generic Name
สำหรับน้ำดำไปแล้ว