“แคมเปญหมดห่วง” ของ กรุงเทพประกันภัย

นอกเหนือจากภาพยนตร์โฆษณาไร้ไอเดียแนว Back to school ที่เกลื่อนจอในเวลานี้

“กรุงเทพประกันภัย” ฉายความโดดเด่นตามแบบฉบับ “มุกเด็ด มุกฮา” ด้วยการนำเสนอแบบ Comedy ชั้นเซียนและสดใหม่ อันเป็นสไตล์ถนัดของ ครีเอทีฟ จูซ จีวัน ที่สร้างสรรค์งานโฆษณาของกรุงเทพประกันภัยมาตั้งแต่ต้นเมื่อปี 2548 จนสร้างชื่อติดทำเนียบบริษัทประกันภัยที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเป็นลำดับ และสามารถสร้างแบรนด์ให้มีความแตกต่างจากคู่แข่งที่มีกว่า 80 บริษัท ได้

ข้อมูลจากเว็บไซต์ www.bki.co.th อย่างเป็นทางการของกรุงเทพประกันภัย รายงานว่า เมื่อปี 2550 มีกำไรกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกำไรที่เติบโตขึ้นทุกปีนับจากมีการสร้างแบรนด์ผ่านการสื่อสารการตลาดอย่างจริงจัง

ธีรศักดิ์ ธนพัฒนากุล Executive Creative Director จาก CreativeJuiceG1 ให้รายละเอียดแคมเปญภาพยนตร์โฆษณา“Worry Free” แคมเปญบิ๊กลำดับที่ 3 ของกรุงเทพประกันภัย กับ POSITIONING
Brief

โจทย์ที่ส่งตรงมาจากลูกค้าผู้คุ้นเคย คือ การหยิบยกชื่อเสียงอันเป็นที่รู้กันในวงการประกันภัยว่า กรุงเทพประกันภัย เป็นบริษัทฯ ที่ให้ผลประโยชน์ที่จริงใจจากการเคลมอุบัติเหตุ เป็นคำบอกเล่าแบบปากต่อปาก มาสื่อสารภายใต้แคมเปญที่เป็นรูปธรรม

“คำว่า Worry Free ครอบคลุมทุกปัญหากังวลของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุแบบใด”

จุดแข็งถูกหยิบยกมาสื่อสาร เพื่อประโยชน์ 2 ด้าน คือ ดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่ และตอกย้ำความมั่นใจกับลูกค้าปัจจุบัน

Main idea มุกต้องแรง กระแทกโดนใจ

ด้านการนำเสนอเขาบอกว่า เนื่องจากคนไทยนิยมชมชอบหนังแนวตลกขบขัน บันเทิงใจ ดูง่าย เข้าใจง่าย ไม่ต้องผ่านการตีความ ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จึงไม่รีรอที่จะตอบสนองต่อความต้องการดังกล่าว ซึ่งสามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มแมสได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ด้วย

กระนั้นจะเป็นมุกตลกพื้นๆ ก็ดูจะไม่เข้าที เนื่องจากโปรไฟล์ที่ผ่านมาของกรุงเทพประกันภัยเรียกเสียงฮือฮามาโดยตลอดนับตั้งแต่ “โอกาสโชคดีแบบนี้ 0.0000001%” และ “ใจเขาใจเรา” และจากผลตอบรับที่ธีรศักดิ์บอกว่าเป็นปลื้มทั้งเอเยนซี่และลูกค้าและแน่นอนว่าตอกย้ำ Brand Awareness ให้เกิดขึ้นกับผู้บริโภคในวงกว้าง

3 เรื่อง 3 จุดขาย

แคมเปญนี้เปิดตัวด้วยภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง “ติดธุระ” ก่อนเป็นชิ้นแรก ซึ่งทำหน้าที่สื่อสารถึงการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ขณะที่เรื่องที่ 2 เกี่ยวกับประกันภัยอุบัติเหตุรถยนต์ และเรื่องที่ 3 เกี่ยวกับประกันอัคคีภัย ซึ่งเป็น 3 รูปแบบหลักของการประกันภัย”

โดยมี Key Messege ที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกันว่า “Worry Free”

“ไม่ว่าจะโดนเหล็กทับ รถชนกัน หรือเครื่องบินตกใส่บ้านพัง ก็หมดห่วง ไม่ต้องกลัวปัญหาจากการเคลม”

ทั้งนี้ แคมเปญ Worry Free ก็ย้อนกลับไปตอกย้ำสโลแกนของกรุงเทพประกันภัยที่ว่า “แคร์คุณทุกย่างก้าว” ได้เป็นอย่างดี

ธีรศักดิ์บอกว่า จากการศึกษา Consumer Insight พบว่าผู้บริโภครู้สึกเบื่อหน่ายและโดนเอาเปรียบ ต้องดีลกับบริษัทประกันภัยที่เคลมยาก หรือบริษัทที่ขาดความน่าเชื่อถือ ดังนั้นปัจจัยแรกที่ผู้บริโภคเลือกจะทำประกันภัยกับบริษัทใดก็คือ ประสิทธิภาพในการเคลมซึ่งเป็นปัจจัยที่เหนือกว่าราคาเบี้ยประกัน

ดังนั้น การจัดระบบไอเดียที่ยืดยาวมาขมวดเข้าเป็นไอเดียเด็ดเผ็ดร้อนแบบไม่กระมิดกระเมี้ยน ทำให้เกิด Impact ได้มาก

ด้วยความแรงของภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ทำให้ ไม่ช้าก็ขึ้นแท่น Most Viewed ใน www.adintrend.com และได้รับเสียงชมอย่างอื้ออึงถึงไอเดียอันบรรเจิดนี้

ตลกหน้าตาย

วิเคราะห์จากภาพยนตร์โฆษณาเรื่องแรก ด้วยบทสนทนาสมจริงสมจัง ระหว่างแฟนสาวผู้เกรี้ยวกราดและชายหนุ่มผู้ยียวน ทำให้เรื่องราวดูไหลรื่นและน่าติดตามว่าจะต่อมุกกันอย่างไร การเลือกใช้คำว่า “ติดเหล็ก” กับ “ติดเด็ก” ก่อให้เกิดเสียงหัวเราะกับเสียงปลายสายและต้นสายที่สื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง

ขณะที่คนช่วยยกเหล็ก 7 คน ต่างมีสีหน้าจริงจัง แต่ตัวคนเจ็บซึ่งเป็นหนุ่มออฟฟิศเองกลับไม่อนาทรร้อนใจใดๆ เหมือนเป็นปัญหาเล็กๆ ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงเปรียบเทียบกับบริการของกรุงเทพประกันภัยที่ทำให้ชีวิตเป็นเรื่องง่าย แม้เผชิญวิกฤตแต่ก็วางใจได้
เบื้องหลัง Worry Free

เนื่องจากเป็นภาพยนตร์โฆษณา 3 เรื่อง ต่างเหตุการณ์กัน จึงถ่ายทำในโลเกชั่น 3 แห่ง โดย เรื่องแรกซึ่งเกี่ยวกับอุบัติเหตุคานเหล็กทับตัว ถ่ายทำที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านชานเมือง ส่วนเรื่องต่อมาซึ่งเกี่ยวกับเครื่องบินตกใส่บ้าน เซตฉากถ่ายทำในสตูดิโอ ขณะที่เรื่องสุดท้ายรถชนถ่ายทำบริเวณตึกแถวแห่งหนึ่งแถบอโศก

โดยการถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่นเนื่องจากความชัดเจนของโจทย์ ด้วยฝีมือของธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับมือดีที่รู้ใจกรุงเทพประกันภัยมาตั้งแต่แรกเริ่ม

Credit
Campaign Worry Free
Duration 30 วินาที
Advertiser บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด
Advertising Agency ครีเอทีฟ จูซ จีวัน
Creative ธีรศักดิ์ ธนพัฒนากุล
Production House ฟีโนมีนา
Director ธนญชัย ศรศรีวิชัย