แอปเปิลแพ้คดีในจีน ศาลมังกรชี้แบรนด์ “Iphone” ใช้บนกระเป๋าถือได้

แฟ้มภาพทิม คุก ซีอีโอแอปเปิล ล่าสุดแอปเปิลแพ้คดีทรัพย์สินทางปัญญาในจีนอย่างหมดรูป

เรียกว่าตบหน้าแอปเปิล (Apple) อย่างแรง สำหรับคำตัดสินของศาลจีน ที่ระบุว่า แอปเปิลไม่มีสิทธิร้องเรียนให้ผู้ผลิตสินค้าจากหนังสัตว์ในจีนงดใช้ชื่อแบรนด์ “iphone” เท่ากับคำว่า iphone สามารถปรากฏบนกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าถือ รวมถึงเคสโทรศัพท์มือถือของผู้ผลิตจีนรายนี้ได้อย่างอิสรเสรี

ผู้ผลิตกระเป๋าถือยี่ห้อ “iphone” ในจีน คือ บริษัท Xintong Tiandi รายงานระบุว่า บริษัทได้จดทะเบียนคำว่า iphone เป็นเครื่องหมายการค้าในปี 2007 ก่อนจะผลิตสินค้ากลุ่มกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าถือ และเคสหนังสำหรับสวมใส่โทรศัพท์มือถือหลายรุ่นด้วยแบรนด์นี้นับแต่นั้นเป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม โลกรู้ดีว่าแอปเปิลนั้นเรียกชื่อสินค้าด้วยคำนำหน้าว่า “ไอ” (i-) มานานหลายปี และใช้เงินจำนวนมหาศาลสร้างแบรนด์ของตัวเองในตลาดโลก โดยไอโฟนรุ่นแรกก็ถูกเปิดตัวในปี 2007 จนเป็นที่โด่งดัง แม้จะไม่สามารถเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในจีนกระทั่งปี 2009

แอปเปิล จึงเดินหน้าร้องเรียนกรณี Xintong Tiandi ต่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าจีนในปี 2012 ก่อนจะยื่นฟ้องต่อศาล และได้รับความพ่ายแพ้ในที่สุด

เหตุผลที่ศาลจีนตัดสินให้แอปเปิลเป็นฝ่ายแพ้คดี คือ แอปเปิลไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า แบรนด์ iPhone นั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในจีน ก่อนที่บริษัทผู้ผลิตกระเป๋าหนังของจีนจะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้ ทำให้ Xintong Tiandi ไม่ถือว่าละเมิดกฎหมายเครื่องหมายการค้าของประเทศจีน

คำตัดสินนี้เกิดขึ้นในวันที่บริการ iTunes Movies และ iBooks ของแอปเปิลถูกสั่งงดให้บริการในจีนตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นการปิดฉากหลังจาก 2 บริการนี้เริ่มให้บริการในจีนเป็นเวลา 7 เดือน

หลังการตัดสินคดี บริษัท Xintong Tiandi ออกแถลงการณ์บนเว็บไซต์ ว่า “The “iphone” brand can blossom widely outside Apple.” เพื่อบอกโลกว่า ในที่สุดแบรนด์ iphone ก็สามารถเบ่งบานนอกร่มเงาของแอปเปิลได้ โดยเอสเอ็มอีจีนรายนี้ระบุว่า จะยืนหยัดสร้างสินค้าที่ดีให้แก่ชุมชนลูกค้า “iphone” ทุกคน

ด้านแอปเปิลไม่ออกมาให้ความเห็นใดต่อคำตัดสินที่เกิดขึ้น โดยข่าวล่าสุดของแอปเปิล คือ ซีอีโอ ทิม คุก (Tim Cook) ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อรายการ Mad Money ของสถานี CNBC ว่า ไอโฟนรุ่นต่อไป หรือ iPhone 7 จะทำให้ทุกคนอยากเปลี่ยนมาใช้ไอโฟนรุ่นใหม่แน่นอน

ที่มา: MGR Online