อนาคตกูเกิล! Google I/O 2016 งานรวมของเล่นที่ “ไม่ได้มาเล่นๆ”

โลโก้ของ Google I/O 2016

อาจกล่าวได้ว่า Google I/O Conference เป็นงานที่มาพร้อมไอเดียสนุกๆ ได้ทุกปี โดยการจัดงาน Google I/O Conference 2016 ในปีนี้จัดขึ้นที่ Shoreline Amphitheatre ณ เมาท์เทนวิว แคลิฟอร์เนีย ระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2559 ซึ่งหนึ่งในความพิเศษของงานในปีนี้คือ แม้จะใช้ชื่องานเดิมว่า Google I/O แต่เป็นการจัดงานโดยบริษัทแม่ของกูเกิลอย่างอัลฟาเบ็ท (Alphabet) แล้วนั่นเอง

แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนไปก็คือ ชื่อของ “แอนดรอยด์” ที่ยังคงมาเป็นเบอร์แรกๆ ของงานเสมอ โดยในปีนี้ทางทีมแอนดรอยด์นั้นมีข่าวว่ากำลังซุ่มทำบางอย่างที่ “แตกต่างอย่างสิ้นเชิง” สำหรับโชว์ในงาน Google I/O ซึ่งได้มีการคาดการณ์กันไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเผยโฉม Android N (นูเทลล่า?) เพราะจากกระแสเมื่อครั้ง Developers Preview ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้กูเกิลสามารถนำเรื่องราวของ Android N มาขยายความต่อในงาน Google I/O ได้อีกมาก โดยรายงานจาก Gizmodo อ้างว่า กูเกิลมีแผนจะทำการอัปเดตอีกอย่างน้อย 3 ครั้ง เพื่อให้ Android N มีความเสถียรเพียงพอต่อการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน ต่อจากนั้นก็อาจมีคิวของ Android TV และ Android Wear ซึ่งอยู่ในความสนใจไม่แพ้กันออกมาโชว์ตัวด้วย

559000005018103

ถึงเวลา Android VR แล้ว!!!

ในส่วนของ VR ก็มีการคาดการณ์ว่า กูเกิลน่าจะเปิดตัวโปรดักต์บางอย่างในงานปีนี้เช่นกัน เพราะเมื่อปี ค.ศ.2014 กูเกิล เคยสร้างความฮือฮาในงาน I/O ด้วยการเปิดตัว Cardboard ซึ่งเป็น VR ต้นทุนต่ำขึ้นมา และจนถึงปัจจุบัน Cardboard ก็มียอดจำหน่ายแล้วกว่า 5 ล้านชิ้น และกำลังออกไปทำตลาดในต่างประเทศแล้วด้วย (เริ่มจำหน่ายใน 4 ประเทศอย่างแคนาดา, อังกฤษ, ฝรั่งเศส และเยอรมนี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา)

แต่นั่นเป็นของเล่นเมื่อ 2 ปีก่อน ประกอบกับสถานการณ์ VR โลกตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงเข้มข้น จากการเปิดตัว Oculus Rift จากเฟซบุ๊ก (Facebook) และ Vive จาก HTC หากกูเกิลไม่อยากพลาดที่จะสร้างชื่อ การลงมาลุยในเวลานี้จึงเหมาะสมที่สุด โดยข่าวลือเมื่อช่วงต้นสัปดาห์จากวอลล์สตรีท เจอร์นัล คือ การส่งระบบปฏิบัติการ Android สำหรับ VR ออกมา ขณะที่การคาดการณ์ของผู้สื่อข่าว Peter Rojar ผ่านทวิตเตอร์ @peterrojar กลับเชื่อว่า กูเกิลน่าจะเปิดตัว Headset แบบสแตนด์อะโลน (ไม่ต้องพ่วงกับคอมพิวเตอร์)

และเมื่อช่วงปลายสัปดาห์นี้ รายงานของ Android Police ซึ่งพบความเคลื่อนไหวบน Google Play Developer Console น่าจะเป็นตัวยืนยันได้ดีแล้วถึงสิ่งที่กำลังจะปรากฏใน Google I/O 2016 เพราะมีการพบไอคอน Android VR ปรากฏขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ เพียงแต่ยังไม่สามารถคลิกได้เท่านั้น หลังจากนี้ คงมีเพียง Clay Bavor หัวเรือใหญ่เบื้องหลังทีมงาน VR ของกูเกิลเท่านี้ที่จะทราบว่าข่าวลือนั้นเป็นจริงหรือไม่

Chrome อาจรวมร่างกับ Android

ข่าวลืออีกชิ้นหนึ่งก็คือ การรวมร่างเป็นหนึ่งเดียวของระบบปฏิบัติการ Chrome กับ Android ซึ่งต้นตอข่าวลือมาจาก Ars Technica ที่พบว่ามีการนำ Play Store เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Chrome OS แล้ว และหากข่าวลือนี้เป็นจริงเราก็อาจได้เห็นระบบปฏิบัติการตัวใหม่ที่ใช้งานได้ทั้งบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด (เดสก์ท็อป สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต)

สำหรับยูทูปเองก็คาดว่า จะมีการนำแผนของบริการทีวีออนไลน์อย่าง “Unplugged” มานำเสนอ โดย Unplugged มีกำหนดเปิดตัวในปี ค.ศ.2017 เช่นเดียวกับบริการจากค่าย Hulu ซึ่งจากการรายงานก่อนหน้า บริการดังกล่าวจะให้บริการรายการทีวีแบบ Live โดยมีรายการดังจากช่องต่างๆ เช่น Disney Channel, ESPN, Fox News ให้เลือกชม

559000005018104

ขณะที่ Driverless Car บางกระแสอาจมองว่ารถอัจฉริยะไร้คนขับจะมีบทบาทเด่นในงาน Google I/O ปีนี้ หลังมีการจับมือกับเฟียต ไครสเลอร์ (Fiat Chrysler) ในการนำเทคโนโลยีรถขับเคลื่อนตัวเองอัตโนมัติของกูเกิลลงไปติดตั้งในรถตู้รุ่นเล็ก “แปซิฟิกา” (Pacifica) จำนวน 100 คัน เนื่องจากกูเกิลอาจไม่สามารถทดสอบรถไร้คนขับได้เร็วพอหากต้องลงมือปรับแต่งรถทั้ง 100 คันด้วยตัวเอง อีกทั้งความร่วมมือนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ทีมของกูเกิลสามารถแบ่งปันประสบการณ์ และข้อมูลกับผู้ผลิตรถตัวจริงอีกด้วย

สำหรับรถ Pacifica ที่กูเกิลจะนำมาปรับให้เป็นรถไร้คนขับนั้น เป็นรถตู้ขนาดเล็ก ซึ่งจะต้องมีการฝังเรดาร์ เลเซอร์ และกล้องดิจิตอลหลายตัวเพื่อให้รถขับเคลื่อนตัวเองโดยสมบูรณ์

จุดพลุ Project Tango

การจับมือกับเลอโนโว (Lenovo) และอินเทล (Intel) เมื่อช่วงต้นปีเพื่อเดินหน้าผลิตสมาร์ทโฟนภายใต้ “โปรเจกต์แทงโก้” นั้น อาจเป็นแค่ความสำเร็จเล็กๆ ของโปรเจกต์ดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ และปีต่อๆ ไป เพราะแท็บเล็ตตัวต้นแบบที่กูเกิลเคยนำมาโชว์นั้นเป็นเทคโนโลยีที่สามารถแสดงผลการเคลื่อนไหวของวัตถุรอบด้านได้ในรูปแบบ 3D แบบเรียลไทม์อย่างแม่นยำ ซึ่งการนำมาใช้งานในอนาคตจึงเหมาะทั้งในด้านแผนที่สามมิติที่นำทางได้รอบด้านกว่าเดิม หรืองานด้านออกแบบภายใน ระบบติดตามตัวบุคคลในอาคาร หรือแม้กระทั่งระบบช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา

โดย Project Tango นั้นมีการเปิดตัวต่อสาธารณชนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2014 จุดยืนของ Project Tango คือ การเป็นโครงการพิเศษที่เป็นผลผลิตจากการซื้อหน่วยธุรกิจโมโตโรลา โมบิลิตี (Motorola Mobility) โดยกูเกิลตัดสินใจนำทีมงานพิเศษซึ่งรับผิดชอบการค้นคิดเทคโนโลยีก้าวหน้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท

จุดเด่นของแทงโก้เมื่อเทียบกับ VR ระบบอื่น คือ แทงโก้ ไม่ต้องการอุปกรณ์เสริมภายนอกใดๆ อีกแล้วสำหรับการสร้างภาพสามมิติ

กูเกิล หวังว่า แทงโก้จะช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชัน และบริการด้าน VR ได้อีกมากมาย เช่น การพัฒนาเกมให้ตัวคาแร็กเตอร์สามารถซ่อนอยู่หลังวัตถุของจริงได้ พัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับพิพิธภัณฑ์ที่สามารถแสดงผลแอนิเมชันสามมิติขึ้นมาเมื่อผู้เยี่ยมชมเดินเข้ามาในฮอลล์ หรือร้านค้าปลีกที่สามารถแสดงเส้นทางให้ผู้ซื้อไปหาสินค้าที่ต้องการได้อย่างถูกต้อง

Sundar Pichai ซีอีโอกูเกิลผู้ที่บอกว่าโลกจะเข้าสู่ยุค AI-First
Sundar Pichai ซีอีโอกูเกิลผู้ที่บอกว่าโลกจะเข้าสู่ยุค AI-First

Google Chirp

เปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้กับการมาถึงของคู่แข่ง Amazon Echo อย่าง Chirp จากกูเกิล ซึ่งกูเกิลเชื่อว่า จะเปลี่ยนโฉมหน้าของคอมพิวเตอร์ในอนาคตอย่างสิ้นเชิง เพราะ Chirp จะรับคำสั่งด้วยเสียงเพื่อนำไปปฏิบัติตาม ไม่จำเป็นต้องสั่งงานผ่านเมาส์ หรือคีย์บอร์ดอีกต่อไป ซึ่ง Chirp จะทำให้สิ่งที่ซีอีโออย่าง Sundar Pichai เคยกล่าวไว้ว่า “คอมพิวเตอร์จะกลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่คอยช่วยเหลือในการทำงานของมนุษย์ในทุกๆ ด้าน เรากำลังจะเปลี่ยนจากโลก Mobile-first ไปสู่โลกของ AI-First” ใกล้เข้าสู่ความจริงมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ความเห็นจาก Mark Bergen แห่ง Recode เชื่อว่า Chirp อาจยังพัฒนาไม่เสร็จสิ้น และไม่สามารถขึ้นเวทีงาน Google I/O ในปีนี้ได้ทันด้วย

โฉมหน้าของแอปพลิเคชัน Google I/O
โฉมหน้าของแอปพลิเคชัน Google I/O

เตรียมตัวเข้างานผ่าน Google I/O 2016 App

สำหรับใครที่สนใจงาน Google I/O 2016 นี้ ไม่ว่าจะมีบัตรเข้างานในมือหรือไม่ การดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Google I/O 2016 มาติดตั้งในสมาร์ทโฟนก็เป็นตัวช่วยให้เข้าถึงบรรยากาศของงาน Google I/O Conference ได้ดี เพราะในแอปดังกล่าวจะรวบรวมกำหนดการจัดสัมมนาตลอด 3 วัน พร้อมรายละเอียดต่างๆ เช่น หัวข้อ ผู้บรรยาย สถานที่จัด ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้จัดตารางเข้าฟังการบรรยายตามหัวข้อที่สนใจได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยแอปจะทำการแจ้งเตือนเมื่อเซสชันนั้นๆ กำลังจะเริ่มให้ด้วย

แต่ความสามารถของแอปยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ เพราะหากคุณหลงทาง ไปห้องสัมมนาไม่ถูก ก็สามารถเปิดแผนที่จากแอปให้ช่วยนำทางไปยังห้องสัมมนาได้อีกเช่นกัน

หรือในกรณีที่คุณไม่สะดวกจะไปร่วมงาน แต่มีเซสชันที่สนใจอย่างมากก็จะมีบริการ Live Streamimg ให้ได้รับชมผ่านแอปกันอย่างจุใจ หรือจะเปิดย้อนกลับไปดูคลิปของงาน I/O ในปีก่อนหน้าก็ยังได้

ทั้งนี้ คงต้องยอมรับว่า เจ้าภาพอย่างอัลฟาเบ็ทนั้นมีโปรเจกต์มากมาย การคาดเดาว่า โปรเจกต์ใดบ้างจะถูกนำขึ้นมาโชว์จึงทำได้ไม่ง่ายนัก แต่จากความเคลื่อนไหวของกูเกิลในช่วงที่ผ่านมากับบรรดาผลิตภัณฑ์ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ก็อาจเป็นตัวช่วยในการทำนายอนาคตของ Google I/O 2016 ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ทางหนึ่ง

ที่มา: http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000048724