แน่ใจนะว่าไม่พลาดโอกาสสื่อสารกับคนยุค Gen C ?

คุณกำลังพลาดโอกาสติดต่อกับคนยุคเจนเนอเรชั่นซีอยู่หรือไม่ ? เป็นคำถามที่ บริษัท แอมดอกซ์ ผู้ให้บริการโซลูชั่นซอฟต์แวร์และบริการสำหรับผู้ให้บริการทางด้านการสื่อสาร, เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และมีเดีย ได้เปิดเผยถึงผลวิจัย เกี่ยวกับกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2524 ถึง 2543 หรือที่เราเรียกกันว่า กลุ่มมิลเลนเนียล ซึ่งเกิดและใช้ชีวิตในช่วงเริ่มต้นของยุคดิจิตอล โดยไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้จะถูกเชื่อมต่อกับโลกดิจิตอลตลอดเวลา ทำให้พวกเขาถูกนับเป็นปัจจัยสำคัญในการทำกิจกรรมทางการตลาดสำหรับแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก

แต่เมื่อมองอีกมุมหนึ่ง หากมีกลุ่มคนที่ไม่ได้เกิดในช่วงเวลานั้น แต่มีไลฟ์สไตล์ที่คล้ายกับกลุ่มมิลเลนเนียล สิ่งนี้อาจจะทำให้หลายๆแบรนด์ต้องพลาดโอกาสในการเข้าถึงคนกลุ่มนี้ไปเลยก็เป็นได้ ซึ่งสาเหตุข้างต้นก็นำไปสู่คำถามที่ว่า ทำไมเราจึงไม่แบ่งประเภทของกลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรมการบริโภค แทนการจำแนกตามช่วงปีที่พวกเขาเกิดอย่างที่นิยมทำกันอยู่ในปัจจุบัน

จากผลสำรวจโดย กูเกิล พบว่า กว่า 35% ของกลุ่มคนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มมิลเลนเนียล ยังคงมีความต้องการรับข้อมูลข่าวสาร และมีความสนใจในการค้นหาข้อมูลที่มาจากโลกออนไลน์เช่นเดียวกันกับกลุ่มมิลเลนเนียลแต่กลับถูกจัดให้อยู่ในอีกกลุ่มผู้บริโภค

Gen C ทั้งเสพและสร้างคอนเทนต์

ปัจจุบันการจัดแยกประเภทลูกค้าตามพฤติกรรมแทนอายุ จึงกลายเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับผู้ให้บริการ หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเจนเนอเรชั่นซี (Generation C) หรือ เจนเนอเรชั่นที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อจำแนกกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์ ความคิด และพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกับกลุ่มมิลเลนเนียล ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ต้องการเข้าถึงเนื้อหาที่เหมาะสมกับพวกเขา และยังสามารถเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มได้ตลอดเวลาไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน

จากผลสำรวจอีกฉบับของกูเกิล พบว่า กว่า 65% ของคนกลุ่มเจเนอเรชั่นซีอัพเดตข้อมูลบนโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นประจำทุกวัน และกว่า 90% เลือกที่จะสร้างคอนเทนต์บนโลกออนไลน์อย่างน้อยเดือนละครั้ง แทนการเสพข้อมูลเฉยๆ

85% ตัดสินใจจากกระแสและคนรอบข้าง

ถึงแม้ว่าคนกลุ่มเจนเนอเรชั่นซีจะถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ แต่พวกเขาหลายๆ คนไม่ยึดติดกับความคิดที่ว่า โครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย และการให้บริการเครือข่ายต้องถูกจัดการโดยคนกลุ่มเดียวกัน จึงทำให้พวกเขาเลือกที่จะให้ความสำคัญในสองด้านนี้แตกต่างกันออกไป โดยเจาะจงไปที่ใครสามารถให้บริการและตอบสนองความต้องการได้ดีกว่ากัน โดยไม่สนใจว่า ผู้ให้บริการเป็นเจ้าของเครือข่ายหรือไม่ ทั้งการที่พวกเขามองว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคม จึงทำให้ทุกคนในกลุ่มนี้ใส่ใจผลประโยชน์ของส่วนรวม และมีการตัดสินใจโดยอ้างอิงจากกระแสในสังคมเป็นหลัก ซึ่ง นีลสันพบว่า กว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าในกลุ่มเจนเนอเรชั่นซีเลือกที่จะถามความเห็นจากผู้คนรอบข้างก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ

ใครคือคนในกลุ่มเจนเนอเรชั่นซี

ในฐานะผู้ให้บริการเครือข่าย การเข้าใจพฤติกรรมและความคิดของคนกลุ่มเจนเนอเรชั่นซีถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เราลองมาดูห้าสิ่งสำคัญในการเข้าหาและตอบสนองต่อความต้องการของคนกลุ่มนี้กัน

• การสร้างคอนเทนต์เฉพาะกลุ่ม

ข้อมูลที่กว้างและไม่เจาะจงอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในการเข้าถึงคนกลุ่มนี้ ดังนั้นกุญแจสำคัญเพื่อให้การให้บริการประสบความสำเร็จ ผู้ให้บริการควรคำนึงถึงประสบการณ์และผลลัพธ์ที่อยากให้ลูกค้าได้รับเป็นจุดเริ่มต้น

• ถ่ายทอดเรื่องราวอย่างเหมาะสม/ไม่ต้อต้านโฆษณา

หน้าเพจและข้อมูลที่กว้างไม่สามารถดึงดูดความสนใจของคนกลุ่มเจนเนอเรชั่นซีได้อีกต่อไป แต่เป็นการสร้างคอนเทนต์ขึ้นมาโดยเฉพาะโดยไม่ต้องคำนึงถึงช่องทางการสื่อสาร ซึ่งรวมไปถึงการโฆษณาด้วย จากผลสำรวจพบว่า 39% ของคนในเจนเนอเรชั่นซีจะไม่ต่อต้านโฆษณาบนโลกออนไลน์ หากโฆษณานั้นสามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้

• เป็นผู้นำความคิด

โซเชียลมีเดียกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มเจนเนอเรชั่นซี เพราะพวกเขาส่วนใหญ่เชื่อมต่อกับทุกสิ่งบนโลกผ่านหน้าต่างโซเชียลมีเดีย และเลือกใช้ช่องทางนี้เพื่อสื่อสารถึงความเป็นตัวเอง ดังนั้นผู้ให้บริการควรสนับสนุนให้เกิดการแชร์บนโลกออนไลน์ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาเพื่อเป็นเวทีให้พวกเขาใช้สื่อความเป็นตัวเองให้ทุกคนบนโลกได้เห็น เพราะคนในกลุ่มเจนเนอเรชั่นซีมักมองว่าตนเองเป็นผู้นำทางความคิดมากกว่าคนกลุ่มอื่นถึง 1.8 เท่า ทั้งยังชอบคิดว่า “มีหลายคนเข้ามาขอคำแนะนำจากเขาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า

• ต้องสื่อสารด้วยแบรนด์

สำหรับคนกลุ่มนี้ การมีสินค้าและบริการที่ดีอาจจะไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญเสมอไป เพราะการทำให้คนกลุ่มเจนเนอเรชั่นซีมีความสนใจได้นั้น ผู้ให้บริการควรสื่อสารผ่านแบรนด์ไปพร้อมๆ กัน ดังนั้น จุดยืนของแบรนด์จึงควรมีจุดมุ่งหมายเพื่อบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญต่อคนกลุ่มนี้ อาทิ ประเด็นที่กำลังเป็นที่สนใจในสังคม

• เศรษฐกิจแบบผนึกกำลัง หรือ we economy

ผู้บริโภคกลุ่มนี้คาดหวังว่า ผู้ให้บริการจะรับรู้และเข้าใจความต้องการของตัวเองเป็นอย่างดี และสามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ เนื่องจากผู้บริโภคตระหนักว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนี้ รวมไปถึงสามารถที่จะแสดงความคิดเห็นแทนคนอื่นๆ ได้ด้วย ดังนั้น สิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ให้บริการ คือการเข้าใจและสื่อสารกับผู้บริโภคโดยมองพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

แนะต้องมองให้ลึกกว่าเรื่องอายุ

คนในเจนเนอเรชั่นซีถือเป็นกลุ่มคนที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน จาก ผลการศึกษาพบว่า คนยุคเจนเนอเรชั่นซี มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าและบริการสูงขึ้นถึง 3.6 เท่า หากสินค้านั้นมีความน่าสนใจ และมากกว่าครึ่งเลือกที่จะพิจารณาสินค้าและบริการนั้นหลังจากที่ได้ดูโฆษณาบนยูทูป ดังนั้นการจัดกลุ่มผู้บริโภคโดยไม่มองอายุจึงมีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่เต็มไปด้วยความกระตืนรือร้นอย่างกลุ่มเจนเนอเรชั่นซีได้เป็นอย่างดี