แบรนด์ซุปไก่ อิงกระแสกีฬาฟีเวอร์ ดึง 3 นักกีฬาดัง นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์ เอาใจสาวๆ

ถือเป็นกลยุทธ์หลักของกลุ่มเซเรบอส กับการใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นกลยุทธ์การตลาดหลักมาใช้กับสินค้าเพื่อสร้างการจดจำ และในการสื่อสารกับผู้บริโภคเป้าหมาย โดยเฉพาะแบรนด์ซุปไก่สกัด สินค้าหลักที่จัดเต็มในการนำคนดังที่อยู่ในกระแสมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อเนื่อง

หลังจากปีที่แล้วแบรนด์ซุปไก่สกัดได้จับกระแสฟุตบอลไทยฟีเวอร์ด้วยการดึง “ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง” เป็นพรีเซ็นเตอร์ พร้อมกับแคมเปญ “ทุ่มเทไม่หยุด…สู่ทุกจุดหมาย กับแบรนด์ซุปไก่สกัด”

ในปีนี้แบรนด์ซุปไก่สกัด ได้สานต่อแคมเปญเดิม แต่เพิ่มเติมคือจำนวนพรีเซ็นเตอร์กลุ่ม โดยนำนักกีฬาทีมชาติไทยอย่างซิโก้, ชนาธิป, สารัช และปลื้มจิตร์ มาพร้อมกับแคมเปญ “ทีมกัปตัน.. ท่มเทสู่ทุกจุดหมาย”  เพื่อให้เข้ากระแสของกีฬาฟีเวอร์ทั้งฟุตบอล และได้เพิ่มวอลเลย์บอล ซึ่งเป็นกีฬายอดนิยมของคนไทยเวลานี้

1_brands

โดยเปลี่ยนมาใช้คอนเซ็ปต์ของคำว่า “กัปตัน” เพื่อเป็นตัวแทนของความสำเร็จที่แบรนด์ต้องการสื่อสารกับผู้บริโภค จึงได้รวมกัปตันนักกีฬาทีมชาติ 4 คน ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โค้ช และอดีตกัปตันฟุตบอลทีมชาติไทย, เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ กัปตันทีมชาติไทยชุด U23 ชิงแชมป์เอเชีย 2559, สารัช อยู่เย็น กัปตันทีมชาติไทยชุดเหรียญทองซีเกมส์ที่ประเทศสิงคโปร์ และปลื้มจิตร์ ถินขาว กัปตันทีมวอลเลย์บอลไทย

สาเหตุที่แบรนด์ยังเลือกจับกระแสของนักกีฬาทีมชาติไทยนั้น เพราะมองว่าผู้บริโภครู้จักคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว มีการแข่งันอย่างต่อเนื่อง ทำให้สื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย และความสำคัญของแคมเปญนี้ที่ทางแบรนด์ได้เสริมนักกีฬาอีก 3 คน ทั้งชนาธิป, สารัช และปลื้มจิตร์ ซึ่งทั้ง 3 คน มีฐานแฟนคลับที่เป็นผู้หญิงอยู่เป็นจำนวนมาก และอยู่ในกระแสความสนใจของคนที่ชื่นชอบกีฬา จึงเชื่อว่าจะช่วยขยายฐานผู้บริโภคในกลุ่มของผู้หญิงที่ปัจจุบันมีอยู่ในสัดส่วน 35% เพิ่มเป็น 40% ในปีนี้

3_brands

“นักกีฬาทั้งสามคนนี้มีแฟนคลับที่เป็นผู้หญิงเยอะ และมีอายุน้อยเป็นวัยรุ่น เป็นอีกเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการโฟกัสกลุ่มผู้บริโภคที่เด็กลงจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ จากเดิมที่ใช้เพียงแค่ซิโก้ที่จะได้กลุ่มผู้ใหญ่มากกว่า” พุดตาน พงศ์พัฒนาไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด

2_brands

จุดประสงค์หลักของทุกแคมเปญที่แบรนด์ก็เพื่อต้องการกระตุ้นการบริโภคของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง แต่ในครั้งนี้เสริมเข้าไปอีกเรื่องก็คือต้องการขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้หญิงให้มากขึ้น เพราะมีโอกาสเติบโตสูง จากเดิมกลุ่มผู้หญิงจะมองหาเครื่องดื่มประเภทบิวตี้มากกว่า แต่ด้วยสังคมยุคนี้ผู้หญิงเป็นเวิร์คกิ้ง วูแมนกันมากขึ้น และต้องการบำรุงร่างกายและบำรุงสมอง จึงต้องมีการกระตุ้นคนกลุ่มนี้

แบรนด์ได้ทุ่มงบ 90 ล้านบาทสำหรับแคมเปญนี้ ในการอัดกิจกรรมการตลาด และการสื่อสารให้ครอบคลุมทุกช่องทาง พร้อมกับตั้งเป้าว่ารายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้น 7-10% ภายในสิ้นปีนี้

plan_brands