จะวัยใส หรือสูงวัย ซิมเพนกวินขอแชร์ตลาดด้วยนะ

สภานการณ์ของธุรกิจ MVNO หรือผู้เสมือนให้บริการเครือข่าย เป็นการเช่าเครือข่ายมาให้บริการต่ออีกที ในตอนนี้มีอยู่ราว 20 รายในประเทศไทย แต่มีรายใหญ่ๆ อยู่ 2-3 รายเท่านั้น การที่ซิมเพนกวินลงมาสู่สมรภูมินี้เพราะเชื่อว่ายังมีช่องว่าง และโอกาสอีกเยอะอยู่

ซิมเพนกวินได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้อาศัยจุดแข็งจากที่เป็นทีมผู้บริหารเก่าจากดีแทค ซึ่งอยู่ในแวดวงเทเลคอมมาหลาย 10 ปี ทำให้เห็นภาพตลาด และเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างดี แต่อย่างไรแล้วก็ยังเป็นน้องใหม่ และเป็นรายเล็กในตลาดอยู่ ยิ่งถ้าพูดถึงเรื่องงบลงทุนคงเทียบไม่ได้กับผู้เล่นรายใหญ่ที่กระหน่ำโปรโมชั่น แจกเครื่อง แจกซิมกัน

กลยุทธ์ของซิมเพนกวินจึงเลือกที่ทำการเจาะเซ็กเมนต์เป็นกลุ่มๆ เพราะมองว่าไปเป็นตลาดแมสก็สู้รายใหญ่ไม่ได้ ในขณะเดียวกันรายใหญ่ก็ยากที่จะลงมาโฟกัสตลาดเล็ก ซิมเพนกวินเลือกเจาะกลุ่มที่มีโอกาสสูง จึงได้กลุ่มลูกค้าฮีโร่ 2 กลุ่มก็คือผู้สูงอายุและวัยรุ่นและเป็นกลุ่มคนต่างจังหวัด

โดยที่ทำการออกซิมใหม่ 2 ซิมซิมวัยเก๋าและซิมวัยโจ๋เหตุผลที่เปิดตัวในช่วงเดือนนี้ก็เพราะว่าช่วงไตรมาส 4 เป็นช่วงสำคัญของธุรกิจเทเลคอม เป็นในเรื่องของเทศกาล และความรู้สึกของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อของใหม่ จึงมองว่าเป็นโอกาสสำคัญ

เรื่องแพ็กเกจค่าโทร ค่าเน็ตราคาถูกเป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องทำการสื่อสารอยู่แล้ว เพราะผู้บริโภคยุคนี้ยังคงมองเรื่องราคาเป็นสำคัญอยู่ แต่นอกจากนั้นได้ทำการเอาพฤติกรรมผู้บริโภคของแต่ละกลุ่ม หรือความต้องการต่างๆ มาดีไซน์เป็นแพ็กเกจ

เริ่มจากกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มนี้จะมีพฤติกรรมโทรน้อย เติมเงินเป็น แต่ซื้อโปรเสริมไม่เป็น ใช้สมาร์ทโฟนเป็นแต่ไม่เชี่ยวชาญ แพ็กเกจซิมวัยเก๋าจึงคิดค่าโทรวินาทีละ 1 สตางค์ ค่าอินเทอร์เน็ตตามจริง 1 MB/ 0.25 บาท สามารถคุมค่าใช้จ่ายไม่เกิน 300 บาท/เดือน อุดปัญหาที่ไม่ต้องสมัครโปรเสริม และปัญหาที่ใช้งานเกินวงเงิน

1_sim

ส่วนกลุ่มวัยรุ่นมีพฤติกรรมส่วนใหญ่ รู้เยอะ ชอบหาข้อมูล อยากได้แพ็กเกจเยอะๆ แต่มีงบจำกัด ชอบโปรเสริม และไม่แคร์ซิมหลักเท่าไหร่ แต่จะสนใจ FUP หรือความเร็วของอินเทอร์เน็ตหลักจากหมดโปร ถ้าแพ็กเกจไหนเยอะก็สนใจอันนั้น ซิมวัยโจ๋จึงออกแบบมาเน้นดาต้าอินเทอร์เน็ต และมีโปรเสริม พร้อมทั้งถ้าหมดโปรก็มีความเร็วอินเทอร์เน็ต 384 Kbps จะสูงกว่ารายอื่น

แต่ที่เป็นไฮไลต์สำคัญนอกจากตัวแพ็กเกจแล้ว ยังสร้างกิมมิกด้วยการซื้อซิมแล้วประกัน หรือลุ้นศัลยกรรม ถ้าซื้อซิมวัยเก๋าจะแถมฟรีประกันอุบัติเหตุจาก LMG Insurance ส่วนซิมวัยโจ๋ลุ้นทำศัลยกรรมที่ รพ.บางมด หรือทัวร์ที่เกาหลี เป็นการเอามาจากอินไซต์ผู้บริโภคว่าต้องการอะไร

2_sim

ดร. ชัยยศ จิรบวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซิมแพนกวิน กล่าวว่าตลาด MVNO ยังมีโอกาสไปได้อีกเยอะ เพียงแต่ต้องโฟกัส ใช้กลยุทธ์ต้นทุนต่ำแต่ได้ผลรุนแรง เจาะกลุ่มคนแก่ที่ค่ายอื่นยังไม่มี และออกโปรวัยรุ่นที่ค่ายอื่นไม่มีเช่นกัน ต้องเลี่ยงชนกับตลาดใหญ่ และเราเป็นเจ้าเล็กๆ ทำให้ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตลอด นี่คือข้อดี

ในฐานะที่อยู่ในวงการนี้มานาน และต้องปั้นแบรนด์ใหม่ ชัยยศ มองว่า ความท้าทายของซิมแพนกวินตอนนี้มีอยู่ 4 อย่างด้วยกัน 1.การสร้างแบรนด์ ที่ต้องสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภค และต้องต่อสู้กับรายใหญ่ในตลาด 2.เรื่องความน่าเชื่อถือ ต้องทำอย่างไรให้ลูกค้าเชื่อถือว่าไม่ใช่ซิมเล็กๆ แต่มีความโชคดีของทีมงานที่อยู่ในธุรกิจนี้มานาน ทำให้พันธมิตรคู่ค้ามั่นใจได้ 3. การแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้ง 3 ค่ายใหญ่ และในธุรกิจ MVNO เอง แต่ก็ยังมีโอกาสและช่องว่างให้ไปได้ และ 4.การปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี ตอนนี้มีแค่เครือข่าย 3G แต่ในอนาคตก็หวังที่จะอัพเกรดเป็น 4G ได้ ถ้าทาง CAT อัพเป็น 4G

ปัจจุบันหลังจากที่เปิดให้บริการมาแล้ว 6 เดือนซิมเพนกวินมีลูกค้ารวม 300,000 ราย มียอดการใช้งาน ARPU เฉลี่ย 140 บาท/เดือน แบ่งสัดส่วนเป็นใช้ดาต้า 85% โทรศัพท์ 15% มีการตั้งเป้าผู้ใช้งานในสิ้นปีนี้ 500,000 ราย สัดส่วนลูกค้าแบ่งเป็นต่างจังหวัด 80% กทม. 20%

วางงบการตลาดทั้งปีอยู่ที่ 100 ล้านบาท ตอนนี้ใช้ไปแล้ว 60%