อิชิตัน ได้ฤกษ์ส่ง “ไบเล่” ลุยตลาดน้ำผลไม้พรีเมียม หวังปั๊มยอดขาย 500 ล้านบาท

กู้ตลาดชาเขียวซบ เพื่อรับมือกับตลาดชาเขียวที่อยู่ในภาวะซบเซา ค่ายอิชิตันจึงส่ง “ไบเล่” เข้าลุยตลาดน้ำผลไม้ 100% ขยับจากตลาดอีโคโนมีสู่ตลาดพรีเมียม ตั้งเป้ายอดขาย 500 ล้านบาท

นอกจากตลาดชาเขียว และน้ำจับเลี้ยงแล้ว ค่ายอิชิตันยังมีอาวุธอีกตัว คือ น้ำส้มไบเล่ (Bireley’s) ที่ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ควักกระเป๋าซื้อกิจการมาเมื่อปี 2557 มาในราคา 1,800 ล้านบาท เพื่อต้องการขยายพอร์ตเครื่องดื่มและกระจายความเสี่ยง

ไบเล่ โฉมใหม่ ภายใต้ร่มเงาของอิชิตัน ได้ถูกส่งเข้าสู่ตลาดอีกครั้งในปี 2558 โดยประเดิมที่ตลาด น้ำผลไม้ 10% ซึ่งยังเป็นตลาดดั้งเดิมของไบเล่ โดยการปรับแพ็กเกจจิ้งจากขวดแก้วมาเป็นขวด PET และเพิ่มรสชาติใหม่ๆ

เมื่อตลาดชาเขียวต้องประสบกับภาวะซบเซาต่อเนื่องมาในช่วง 2-3 ปี มีการจับตากันว่า เมื่อไหร่ที่ ไบเล่ที่อิชิตันซื้อมานั้น จะสร้างรายได้ และผลกำไร มากกว่าแค่สร้างสีสันในช่วงที่ตันประกาศซื้อกิจการมา

จนมาถึงต้นปี ตันได้ขยับขยายการทำตลาดไบเล่ จากตลาดอีโคโนมี ไปสู่ตลาดพรีเมียม และมีเดียม หรือน้ำผลไม้ 100% เพื่อรับกับเทรนด์สุขภาพมาแรง ซึ่งกลุ่มน้ำผลไม้พรีเมียมและมีเดียมนั้นมีขนาดตลาด 6,447 ล้านบาท และมีการเติบโตถึง 6% ในปีที่ผ่านมา

1_bireley

ไบเล่ ฟรุต ครีเอชั่น น้ำผลไม้พรีเมียม 100% “ไม่เติมน้ำตาล” ออกมาเพื่อจับกลุ่มคนเมืองรักสุขภาพ และไบเล่ ฟรุตทูโก สแน็กดริ้งค์ จับกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงาน เพื่อครอบคลุมตลาดทุกเซ็กเมนต์ โดยตั้งเป้ายอดขายรวม 500 ล้านบาท ในปี 2560

โดยวิธีการ คือ ยังใช้ “น้ำส้ม” ซึ่งเป็นภาพจำของไบเล่ไปผสมกับผักหรือผลไม้ยอดนิยมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มะม่วง แครอท มะเขือเทศ ภายใต้ในคอนเซ็ปต์ “น้ำส้มผสมกับอะไรก็อร่อย” 3 รสชาติ ได้แก่ ส้มผสมมะเขือเทศ ส้มผสมแครอท และส้มผสมมะม่วง พร้อมกับปล่อยหนังโฆษณาเพื่อสร้างความจดจำในชื่อ “ทั้งรักทั้งเกลียด”

ส่วนแพ็กเกจจิ้ง เลือก 2 ขนาดบรรจุ คือขนาด 1 ลิตร ราคา 69 บาท และขนาด 230 มล. ราคา 20 บาท วางขายในช่องทางโมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ พร้อมกัน

อิชิตัน คาดว่า ไบเล่ ฟรุต ครีเอชั่น จะสร้างยอดขายได้ 120 ล้านบาท ภายในปี 2560

สำหรับ ไบเล่ ฟรุตทูโก (Bireley’s Fruit To Go) น้ำผลไม้เยลลี่พร้อมดื่มจากน้ำผลไม้เข้มข้น 20% ให้วิตามิน จับกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานในช่วงอายุ 15-25 ปี ซึ่งอิชิตันประเมินว่า ตลาดรวมของน้ำผลไม้ประเภทนี้มีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท

นอกจากจุดขายของเซ็กเมนต์นี้คือเครื่องดื่มผสมเยลลี่ ซึ่งเห็นผลตอบรับมาตั้งแต่ชาเขียวผสมวุ้นมะพร้าวแล้ว การทำตลาดในกลุ่มนี้ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชอบทดลองอะไรใหม่ และเน้นความสนุก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Go with Joy โดยจะวางขาย 2 รสชาติ ส้ม องุ่น บรรจุในซองเพาช์ขนาด 150 กรัม ราคา 10 บาท ในช่องทางเทรดิชันนัลเทรด

โดยคาดว่าจะสร้างยอดขาย 140 ล้าน จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท

สำหรับ ไบเล่ น้ำผลไม้ 10% นอกจากขายในช่องทางโมเดิร์นเทรด และเพิ่มช่องทางเทรดิชันนัลเทรดมากขึ้น โดยปีที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายได้ 211 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และทำยอดขายได้ 240 ล้านบาท

ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

word_icon

การขยายพอร์ตแบรนด์ไบเล่ เป็นไปตามแผนที่วางไว้ที่จะสร้างแบรนด์ไบเล่ให้เป็นน้ำผลไม้ที่ครอบคลุมตลาดผู้บริโภคทุกเซ็กเมนต์ และเป็นการขยายอิชิตัน กรุ๊ปให้ครอบคลุมการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มอื่นนอกเหนือจากกลุ่มชาพร้อมดื่ม และเครื่องดื่มสมุนไพร

word_icon2

โดยมองว่าตลาดน้ำผลไม้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และตอบสนองเทรนด์การบริโภคสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยการขยายพอร์ตสินค้าในเครืออิชิตัน กรุ๊ป ไปสู่ตลาดน้ำผลไม้อย่างเต็มรูปแบบในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้อิชิตัน กรุ๊ปมียอดขายรวม 7,450 ล้านบาทในปี 2017