นับเป็นอีกหนึ่งในความเคลื่อนไหวธุรกิจอาหารที่ทยอยตบเท้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระดมเงินทุนมาในการขยายสาขาหรือสร้างการเติบโต

หลังจากปลายปีที่แล้ว ร้านขนมหวานอาฟเตอร์ยูเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นมาได้ไม่นาน ตามมาด้วย บริษัท มัดแมนกำลังเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เพื่อต้องการระดมเงินทุนมาใช้ในการชำระเงินกู้ยืมและขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ

โดยมัดแมนจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 210 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 20% ของจำนวนหุ้น ที่มีทุนจดทะเบียน 1,054.9 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยทุนที่ออกและชำระแล้วจำนวน 843.9 ล้านบาท

มัดแมนเป็น Holding Company ที่ได้รับสิทธิ์บริหารแบรนด์ใน 2 ธุรกิจหลัก 1. ธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม เป็นแบรนด์ที่เป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์กับต่างประเทศ ได้แก่ ดังกิ้น โดนัท, โอ ปอง แปง และบาสกิ้น ร็อบบิ้นส์ รวมถึงแบรนด์เกรฮาวด์ ที่ได้ซื้อกิจการมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ได้แก่ เกรฮาวด์ คาเฟ่ และครัวเอ็ม ซึ่งบริหารศูนย์อาหารในโรงพยาบาล 2. ธุรกิจไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์เกรฮาวด์ ออริจินัล ที่เป็นแบรนด์เสื้อผ้า

คุณนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี
คุณนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี

นาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มัดแมน กล่าวว่า

word_icon

ธุรกิจอาหารในประเทศไทยมีการเติบโตสูงอยู่ และภาพรวมตลาดมีความสนุก เพราะมีคู่แข่ง มีการแข่งขันกันต่อเนื่อง ธุรกิจอาหาร หรือรีเทลต้องมีการพัฒนา ปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภค เป้าหมายของมัดแมนก็คือเพื่อต้องการนำแบรนด์ตนเองไปโตที่ต่างประเทศ การที่มัดแมนเข้าตลาดหลักทรัพย์จะช่วยให้ไปไวขึ้น

word_icon2

เขาบอกว่า นี่คือ จุดประสงค์หลักของการที่มัดแมนเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่การเพิ่มสปีดในการขยายสาขาในประเทศ แต่เป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนในต่างแดนได้มากขึ้น โดยมีทั้งหมด 3 ข้อ ดังนี้

  1. เข้าตลาดฯ เพื่อต้องการเคลียร์หนี้สินต่างๆ ของบริษัท ให้มีสภาพการเงินที่คล่องตัวมากขึ้น
  2. นำเงินทุนมาพัฒนาธุรกิจได้มากขึ้น พัฒนาโมเดลธุรกิจของแบรนด์ต่างๆ
  3. นำเงินลงทุนเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศ โดยใช้แบรนด์เกรฮาวด์ คาเฟ่เป็นหัวหอกหลัก จะเริ่มจากในเอเชีย และขยายไปยังยุโรป

มัดแมนมองว่ามีศักยภาพสูง และเป็นแบรนด์ของตัวเอง ในขณะที่แบรนด์อื่นเป็นมาสเตอร์ แฟรนไชส์ จะมีการขยายสาขาไปต่างประเทศมากขึ้น โดยที่ผ่านมาได้มีสาขาที่ประเทศมาเลเซีย จีน และฮ่องกง ซึ่งเป็นโมเดลของการขาย   แฟรนไชส์ให้นักลงทุนท้องถิ่น

แต่สำหรับในปีนี้จะขยายสาขาไปยังเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ 1 สาขา ซึ่งมัดแมนลงทุนเอง เพื่อเป็นการปักธงในโซนยุโรป และสร้างการรับรู้แก่คนยุโรปให้รู้จักแบรนด์เกรฮาวด์ คาเฟ่ก่อน จากนั้นค่อยขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ทั้งหมดทั้งในยุโรป และสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบันธุรกิจในเครือมัดแมนมีสาขารวมทั้งหมด 439 สาขา ได้แก่ ดังกิ้น โดนัท 296 สาขา โอ ปอง แปง 71 สาขา บาสกิ้น ร็อบบิ้นส์ 31 สาขา เกรฮาวด์ คาเฟ่ 24 สาขา (ในประเทศไทย 13 สาขา ต่างประเทศ 11 สาขา) ครัวเอ็ม 1 สาขา และร้านเสื้อผ้าเกรฮาวด์ 16 สาขา

ในปีนี้ได้ใช้งบลงทุน 200 – 220 ล้านบาท ปีก่อนๆ ก็ใช้งบลงทุนเฉลี่ยเท่านี้ จะมีการขยายสาขาของดังกิ้น โดนัท 10 สาขา โอ ปอง แปง 5 สาขา บาสกิ้น ร็อบบิ้นส์ 5 สาขา และเกรฮาวด์ คาเฟ่ 4 สาขา

รายได้ช่วง 9 เดือนของปี 2559 จำนวน 2,237 ล้านบาท เติบโต 4.4% แบ่งสัดส่วนรายได้เป็น ดังกิ้น โดนัท 886 ล้านบาท หรือ 39.61% เกรฮาวด์ คาเฟ่ 562 ล้านบาท หรือ 25.12% โอ ปอง แปง 553 ล้านบาท หรือ 24.72% เกรฮาวด์ ออริจินัล 139 ล้านบาท หรือ 6.21% บาสกิ้น ร็อบบินส์ 78 ล้านบาท หรือ 3.49% และครัวเอ็ม 19 ล้านบาท หรือ 0.85%

โครงสร้างผู้ถือหุ้นหลังจากเข้าตลาดฯ

หลังจากที่มัดแมนเข้าตลาดแล้วเรียบร้อย โครงสร้างผู้ถือหุ้นจะมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม บมจ.ทรัพย์ศรีไทย ถือหุ้นใหญในสัดส่วน 80.33% บมจ. น้ำตาลขอนแก่น 9.33% และอื่นๆ 10.34%

จะเปลี่ยนเป็น บมจ. ทรัพย์ศรีไทย เหลือ 64.27% บมจ. น้ำตาลขอนแก่น 7.46% ประชาชน 10% หุ้นสามัญเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้น SST ตามสัดส่วนการถือหุ้น 10% และอื่นๆ 8.27%