ออกเพื่อโต

บริษัทจีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ GMMM กลายเป็นหุ้น “น้ำนิ่ง” ในกระดานมาตลอดกว่า 5 ปี เพราะโปรเจกต์ไม่เพิ่ม บริษัทไม่โต แต่หลังจากที่ GMMM ออกจากตลาดหุ้นและบริษัทแม่อย่างจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เข้าถือหุ้น 100% แกรมมี่เชื่อว่า ” ธุรกิจสื่อ” ซึ่งเดิมเคยแยกอยู่กับ GMMM จะโตไม่หยุด และดันหุ้นแม่ให้คึกคักมากกว่าเดิม โดยเฉพาะจากบิ๊กโปรเจกต์ ”ทีวีดาวเทียม”

งานนี้ “อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” ประธานกรรมการ แกรมมี่ บอกว่า ไม่ได้ “โม้” อีกต่อไป เพราะเตรียมเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้แล้ว ถือว่าเวลาเปลี่ยน แผนเปลี่ยน เพื่อฝันเป็นจริง คือแกรมมี่ได้เป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์สักช่อง

แกรมมี่เคยคาดว่าภาครัฐจะเปิดเสรีสื่อ จึงนำ GMMM การเข้าตลาดหุ้นเมื่อปี 2545 เพื่อระดมทุนทำทีวี เพราะสมัยก่อนต้องใช้เงินลงทุนเป็นหมื่นล้านบาท แต่การเปิดเสรีไม่เกิดขึ้น แต่ “อากู๋” บอกว่า ถือเป็นความโชคดีที่ไม่ใช่จังหวะของแกรมมี่ในการเป็นเจ้าของทีวีช่วงนั้น ทำให้ไม่สูญเสียเงินลงทุนอย่างทีวีบางช่องที่ขาดทุนอยู่ แต่ขณะนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปมาก ทีวีดาวเทียมลงทุนเพียงช่องละ 100 ล้านบาทเท่านั้น และกฎหมายก็อนุญาตให้ผู้ประกอบการมีโฆษณาได้ GMMM จึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในตลาดหุ้นเพื่อพึ่งเงินลงทุนอีกต่อไป

ที่สำคัญ ”อากู๋” เห็นแนวโน้มตลาด และร่ายยาวตัวเลขให้ฟังว่า คนไทยนิยมทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีมากขึ้น มียอดถึง 5.5 ล้านครัวเรือน เป็นจานซีแบนด์ 3 ล้าน และสมาชิกเคเบิลทีวีอีก 2.5 ล้าน และทีวีดาวเทียมช่องแกรมมี่จะเป็นสื่อสำคัญที่แกรมมี่สามารถต่อยอดรายได้จากคอนเทนต์ที่มีอยู่มากมาย

ครั้งนี้ “อากู๋” บอกว่าจะทำมากกว่า 1 ช่อง แต่จะเป็นจำนวนกี่ช่องขอเป็นความลับจนกว่าจะถึงเดือนตุลาคมนี้ แต่แผนธุรกิจแน่นอนคือภายในปีแรกจะสามารถรับรู้รายได้เพราะ “คอนเทนต์” ที่แข็งแกร่งไล่เรียงตั้งแต่เพลง หนัง ละครทีวี ละครเวที ซิทคอม การประกวดร้องเพลง ภายใต้ความเชื่อมั่นของ 2 ประสาน คือ “สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ที่หลังยุบ GMMM แล้วต้องมาแชร์เก้าอี้เป็น Co-CEO กับ “บุษบา ดาวเรือง” ในแกรมมี่ โดย “สายทิพย์” ยังรับหน้าที่ดูแลธุรกิจสื่อ ส่วน “บุษบา” บริหารศิลปิน และคอนเทนต์เหมือนเดิม

ทีวีดาวเทียมเป็นบิ๊กโปรเจกต์เพราะใช้งบลงทุนมากสุดภายใต้เงินลงทุนที่เตรียมไว้ลงทุนในเครือแกรมมี่ปีหน้า 500-600 ล้านบาท เป็นการลงทุนเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 2551 ที่ใช้เพียง 300 ล้านบาท

และแน่นอน ลงทุนมากก็หวังกำไรมากขึ้น หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน “อากู๋” บอกว่าจะทำให้อัตราส่วนการทำกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากเดิมที่ทำได้เพียง 7-8% นับจากนี้ “อากู๋” จึงกล้ายืนยันว่าแกรมมี่จะดีขึ้นเรื่อยๆ

Profile

รายได้กลุ่มแกรมมี่ ไตรมาส 2 ปี 2551 (หน่วย : ล้านบาท)
แกรมมี่
ธุรกิจเพลง 880.7
ธุรกิจหนัง 75.1
ทีวี 434.4

จีเอ็มเอ็ม มีเดีย
วิทยุ 188.4
อีเวนต์ 250.6