เทรนด์ไหนจะมา เทรนด์ไหนจะเท มาดูกันเทรนด์ออกแบบโดนใจในปี 2560

เมื่องานออกแบบมีการพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า จำเป็นอย่างยิ่งที่ธุรกิจจะต้องก้าวให้ทัน บริษัท อะโดบี ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโปรแกรมกราฟิกรายใหญ่ รวบรวมทรนด์ใหม่ๆ ของ “งานออกแบบ” ที่ธุรกิจควรจับตามองในปี 2560

แน่นอนว่าธุรกิจไม่จำเป็นต้องก้าวตามทุกเทรนด์ แต่ต่อไปนี้คือเทรนด์สำคัญที่ควรค่าแก่การจับตามองในช่วงปี 2560

  • ภาพประกอบเน้นเรียบง่าย MonolineIllustration

เทรนด์การออกแบบ Flat Design (แนวทางการออกแบบที่เรียบง่าย ดูสะอาดตา ประกอบด้วยพื้นที่ว่างและขอบที่คมชัด) ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และ MonolineIllustration เป็นการพัฒนาต่อยอดสำหรับปี 2560 สไตล์ของ Monoline เข้าถึงได้ง่ายและดึงดูดใจ เพราะมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงแนวคิดที่ซับซ้อนในรูปแบบที่เข้าใจง่ายโดยใช้ภาพประกอบที่ดูแปลกตา แบรนด์ต่างๆ เช่น Samsung และ Casper กำลังใช้เทรนด์การออกแบบนี้อยู่ และเชื่อว่าจะมีแบรนด์อื่นๆ ตามมาในช่วงปี 2560

โฆษณาขนาดยาว (ที่บอกเล่าเรื่องราว)

ในยุคของวิดีโอ 10 วินาที และสปอตโฆษณา 15 วินาที โฆษณาขนาดยาวได้กลายเป็นกระแสที่แปลกใหม่ ที่จริงแล้ว เมื่อก่อนนี้บริษัทต่างๆ มักจะหลีกเลี่ยงการใช้โฆษณาขนาดยาว เพราะความสนใจของผู้บริโภคสั้นลงเรื่อยๆ แต่ทางออกก็คือ การสร้างโฆษณาที่บอกเล่าเรื่องราว

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือโฆษณาสำหรับเทศกาลคริสต์มาสของ H&M ซึ่งกำกับโดยเวส แอนเดอร์สัน (Wes Anderson) สำหรับ H&M นอกเหนือจากการสวมใส่เสื้อผ้าจากแบรนด์ H&M แล้ว ไม่มีการเอ่ยถึงชื่อแบรนด์ดังกล่าวเลย ผู้ชมเพลิดเพลินกับเรื่องราวของผู้โดยสารรถไฟที่ประสบปัญหาความล่าช้าเนื่องจากพายุหิมะระหว่างที่เดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

เวอร์ชวลเรียลลิตี้ (Virtual Reality) และระบบอักเมนต์เรียลลิตี้หรือเออาร์ (Augmented Reality)

นวัตกรรมทางเทคโนโลยีส่งผลให้ ‘เวอร์ชวลเรียลลิตี้’ และ ‘อักเมนต์เรียลลิตี้’ หรือเออาร์ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าชุดแว่นตา VR จะเพิ่งได้รับการปรับใช้งานเมื่อไม่นานมานี้ เนื้อหาคอนเทนต์ AR/VR มีลักษณะดึงดูดใจ ชวนดื่มด่ำ นำเสนอความท้าทายใหม่ๆ สำหรับผู้สร้างสรรค์ และมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่แก่ผู้บริโภค

  • ภาพที่ถ่ายจากมุมสูง (Aerial Views)

ออนไลน์วิดีโอเติบโตในอัตราที่รวดเร็วมาก และสิ่งที่มาพร้อมกับการเติบโตดังกล่าวก็คือ ความต้องการสำหรับมุมมองที่แปลกใหม่ อากาศยานไร้คนขับหรือโดรน (Drone) คือปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยีในช่วงปี 2559 และตอนนี้ ด้วยความสะดวกในการใช้งานและการเข้าถึงที่เพิ่มมากขึ้นของภาพถ่ายและวิดีโอจากโดรน ถึงเวลาแล้วที่แบรนด์ต่างๆ ควรจะนำเสนอประสบการณ์สุดเร้าใจให้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ต่อไปนี้คือแนวโน้มด้านการออกแบบที่สำคัญที่สุดสำหรับปี 2560 ตามความคิดเห็นของนิค บาบิช นักพัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่สนใจเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้ใช้ (User Experience – UX)

ต้องเรียบง่าย งานออกแบบ Minimalist จะกลับมา

ในช่วงปี 2560 จะมีการใช้เลย์เอาต์แบบมินิมอล (Minimal) อย่างต่อเนื่อง และแนวทางการลดความซับซ้อนจะได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง งานออกแบบ Minimalist มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ใช้ผ่านการสื่อสารด้วยภาพที่ชัดเจน โดยมุ่งเน้นการนำเสนอเนื้อหาคอนเทนต์สำหรับผู้ใช้ แทนที่จะเป็นเน้นเรื่องอินเทอร์เฟซสำหรับผู้ใช้ (UI)  อินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย บวกกับประโยชน์ใช้สอยที่เหนือกว่า จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม แอปที่เรียบง่าย เข้าถึงคำสั่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย นับเป็นสื่อกลางที่ทรงประสิทธิภาพสำหรับการติดต่อสื่อสาร

ปฏิสัมพันธ์ในระดับจุลภาคเพิ่มมากขึ้น (More Microinteractions)

บนอินเทอร์เน็ต มีการพูดถึงปฏิสัมพันธ์ในระดับจุลภาค (Microinteraction) กันอย่างกว้างขวางในช่วงปี 2559 และประเด็นนี้จะยังคงเป็นเทรนด์สำคัญในปี 2560  ทั้งนี้ Microinteraction ซึ่งมักจะอยู่ในรูปแบบของแอนิเมชั่นที่ลึกซึ้ง มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนอุปกรณ์มือถือ ซึ่งเรามีส่วนร่วมใน Microinteraction หลายพันรายการในทุกๆ ครั้งที่เราใช้แอพต่างๆ Microinteraction ช่วยสร้างประสบการณ์สุดประทับใจ ด้วยการสื่อสารถึงสถานะและความเปลี่ยนแปลง การดึงดูดความสนใจไปยังบางเรื่อง และการให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการที่เสร็จสิ้น

  • วิดีโอครองเมือง

การมองเห็นคือประสาทสัมผัสที่มีอานุภาพมากที่สุดสำหรับมนุษย์ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ภาพถือเป็นแก่นสำคัญในการออกแบบอินเทอร์เฟซสำหรับผู้ใช้ และความสำเร็จในการใช้ภาพเพื่อการสื่อสารได้กรุยทางให้กับสื่อประเภทใหม่ที่ตามมา นั่นคือ วิดีโอ  ดังคำกล่าวที่ว่าภาพหนึ่งภาพบอกเล่าเรื่องราวได้มากกว่าคำพูดหนึ่งพันคำ และวิดีโอก็ยังมีประสิทธิภาพในการสื่อสารได้มากกว่าภาพถึง 10 เท่า และนั่นคือเหตุผลที่ภาพแบบเดิมๆ เป็นสื่อที่หยุดนิ่ง ขณะที่วิดีโอมีลักษณะปรับเปลี่ยนอย่างยืดหยุ่น

แชทบ็อต การเติบโตของอินเทอร์เฟซแบบสนทนา

“แชทบ็อต” (Chatbot) เป็นคำศัพท์หนึ่งที่ฮ็อตที่สุดในแวดวงอุตสาหกรรมในปัจจุบัน เราได้เห็นเทคโนโลยีแชทบ็อตที่ถูกผนวกรวมเข้ากับแอปต่างๆ สำหรับผู้บริโภคมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว โดยแชทบ็อตแบ่งเบาภาระของผู้ใช้สำหรับการทำงานทั่วไป เช่น การสั่งพิซซ่า และในช่วงปี 2560 เราจะเห็นการปรับใช้เทคโนโลยีแชทบ็อตและอินเทอร์เฟซการสนทนาในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น นับเป็นโอกาสที่ดียิ่งสำหรับการพัฒนาโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ที่รองรับการสนทนาอย่างครบวงจร เช่น Google Home และ Siri ซึ่งจะเป็นพัฒนาการขั้นถัดไปสำหรับแชทบ็อต

  • Augmented/Virtual Reality[AR/VR]

นอกเหนือจากอินเทอร์เฟซการสนทนาที่จะได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในช่วงปี 2560 แล้ว ยังมีเทคโนโลยี Augmented Reality และ Virtual Reality ซึ่งจะได้รับความนิยมอย่างมากจากนักออกแบบ เพราะเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถยกระดับการสร้างความประทับใจและความดื่มด่ำให้แก่ลูกค้า และขณะเดียวกัน ก็นับเป็นความท้าทายที่แปลกใหม่อย่างแท้จริงในการออกแบบอินเทอร์เฟซผู้ใช้ (UI) สำหรับโลกเสมือนจริง

การเกิดขึ้นของแพลตฟอร์ม Augmented Reality [AR] และ Virtual Reality [VR] จะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อรูปแบบการติดต่อสื่อสารที่ทันสมัย รวมถึงการออกแบบทัศนศิลป์ โดยจะมีการให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับเรื่องของท่าทาง กล่าวคือ ท่าทางที่เป็นธรรมชาติซึ่งสื่อความหมายในโลกแห่งความเป็นจริงจะนำไปสู่การดำเนินการที่เกิดขึ้นในโลกเสมือนจริง อย่างไรก็ตาม ปี 2560 ยังไม่ใช่ “ปีทอง” ของ Virtual Reality แต่จะเป็นช่วงเวลาที่มีการตัดสินใจว่ามีสิ่งใดบ้างที่เราควรหรือไม่ควรออกแบบสำหรับ VR

โดยทั่วไปแล้ว มีเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางเทรนด์ก็ยังคงอยู่และกลายเป็นมาตรฐาน ขณะที่เทรนด์อื่นๆ เริ่มเลือนหายไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน นั่นคือ ปี 2560 จะเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจอย่างมากในแง่ของเทคโนโลยีและการออกแบบอินเทอร์เฟซ ที่จะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า ได้อย่างเหนือชั้น คุณมีแผนที่จะผนวกรวมเทรนด์ใดเข้ากับธุรกิจของคุณในปีนี้แล้วหรือยัง