ทรูเบียดดีแทคขึ้นเบอร์ 2 แล้ว

ทรู ประกาศผลดำเนินงานปี 2559 ปั๊มยอดมือถือใหม่เพิ่ม 5.4 ล้านราย ด้วยฐานลูกค้ารวม 24.53 ล้านราย ขึ้นอันดับ 2 ผู้ให้บริการมือถือ ครองส่วนแบ่งตลาดรายได้ 28.24.8%

ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะกรรมการบริหาร กล่าวว่า ปี 2559 ถือเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มทรูเติบโตได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งมีการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค 4G และดิจิทัล (Digitalization) อย่างรวดเร็ว ผลักดันให้รายได้จากการให้บริการของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทั้งอุตสาหกรรมเติบโตถึงร้อยละ 5.4 ในปี 2559

ทรูมูฟ เอช มีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากปีก่อนหน้า ในขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ของอุตสาหกรรมอยู่ที่ร้อยละ 3.8 ต่อปี

ปี 2559 ที่ผ่านมา กลุ่มทรูได้โครงข่ายมือถือทรูมูฟ เอช ทั้ง 4.5G/4G 3G และ 2G ครอบคลุมแล้วกว่าร้อยละ 98 ของประชากรไทย และโครงข่ายบรอดแบนด์ของทรูออนไลน์ ให้ครอบคลุม 10 ล้านครัวเรือน

ที่สำคัญในปีที่ผ่านมา ทรูมีรายได้และฐานลูกค้ามือถือทั้งในระบบเติมเงินและรายเดือน เพิ่มขึ้น 5.4 ล้านราย ในปี 2559 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 75 ของจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิในอุตสาหกรรม

ทำให้ฐานลูกค้าทรูมูฟ เอช เพิ่มขึ้นเป็น 24.53 ล้านราย ส่งผลให้ทรูมูฟ เอช ก้าวเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับ 2 ของประเทศในปัจจุบัน โดยรายได้จากการให้บริการของทรูมูฟ เอช ในไตรมาส 4 ปี 2559 เติบโตร้อยละ 4.7 จากไตรมาสก่อนหน้า และร้อยละ 27.1 จากไตรมาส 4 ปี 2558

ทำให้ส่วนแบ่งตลาดรายได้ของทรูมูฟ เอช เพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ 24.8 เมื่อเทียบกับร้อยละ 20.9 ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยทั้งปี 2559 ทรูมูฟ เอช มีรายได้จากการให้บริการที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญถึงร้อยละ 28.4 ในขณะที่รายได้จากการให้บริการของผู้ประกอบการใหญ่รายอื่นในอุตสาหกรรมมีจำนวนรวมกันลดลงร้อยละ 0.2 จากปีก่อนหน้า

ทรูออนไลน์ 2.8 ล้านราย

มีรายได้จากการให้บริการบรอดแบนด์สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไปเติบโตร้อยละ 13.6 จากปีก่อนหน้า และมีลูกค้ารายใหม่สุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 381,000 ราย ในปี 2559 ส่งผลให้ฐานลูกค้าบรอดแบนด์ของกลุ่มเติบโตเป็น 2.8 ล้านราย

ทรูวิชั่นส์ สมาชิก 3.9 ล้านราย

ปี 2559 ทรูวิชั่นมีจำนวนสมาชิกรายใหม่สุทธิและสมาชิกในระบบค่าบริการสมาชิกจำนวน 3.9 ล้านราย

รายได้รวมปี 2559

  • มีรายได้จากการให้บริการโดยรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.7 จากปี 2558 เป็นจำนวน 88.1 พันล้านบาท
  • ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตอย่างโดดเด่นของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งในกลุ่มลูกค้าระบบเติมเงินและรายเดือน
  • บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต สำหรับลูกค้าทั่วไป ยังคงเติบโตในอัตราเลขสองหลักที่ร้อยละ 13.6 จากปีก่อนหน้า
  • ส่งผลให้ EBITDA ของกลุ่มเติบโตถึงร้อยละ 33.3 จากปีก่อนหน้า เป็น 25.1 พันล้านบาท ซึ่งไม่รวมกำไรจากการโอนเสาโทรคมนาคมใหม่เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) ในปี 2558

สำหรับปี 2560 นายศุภชัย กล่าวว่า “กลุ่มทรูจะยังคงรักษาการเติบโตอย่างเข้มแข็ง พร้อมเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จจากปีก่อนหน้า และเสริมความแข็งแกร่งให้กับการเป็นผู้นำคอนเวอร์เจนซ์แบบครบครันอย่างแท้จริง โดยมุ่งเน้นในการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายและการให้บริการให้ดีมากยิ่งขึ้น การนำเสนอแพ็กเกจ คอนเวอร์เจนซ์ ที่คุ้มค่าและแตกต่าง การพัฒนาโซลูชั่นในรูปแบบดิจิทัลและนวัตกรรมที่ทันสมัย การต่อยอดความเป็นผู้นำและความเชี่ยวชาญในด้าน IoT (Internet of Things) พร้อมวิเคราะห์และปรับตัวเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยีได้อย่างต่อเนื่อง พัฒนาการเหล่านี้ เมื่อรวมกับความมุ่งมั่นในการเพิ่มประสิทธิภาพภายในองค์กรทุกด้าน จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับกลุ่มทรู ในขณะเดียวกัน ยังช่วยวางรากฐานให้กับกลุ่มทรูในการก้าวเป็นแนวหน้าในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Thailand 4.0 พร้อมสนับสนุนให้กลุ่มทรูเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป