‘ส.ขอนแก่น’ เปิดเกมรุกร้าน แซ่บคลาสสิก เดลิเวอรี่ เป็นหัวหอกปั้นรายได้ ปูพรมขยายสาขาเพิ่มพื้นที่ให้บริการ – เสริมเซ็ตเมนูใหม่ ดันยอดขาย QSR สิ้นปี 160 ล้านบาท

ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ – SORKON ปูพรมผุด ‘แซ่บคลาสสิก เดลิเวอรี่’ รับพฤติกรรมผู้บริโภคนิยมที่สั่งซื้อสินค้ากลับไปทานที่บ้าน เดินหน้าขยายสาขาเพิ่ม 5 แห่งทั้งที่ลงทุนเองและเปิดขายแฟรนไชส์ เจาะกลุ่มลูกค้าในโซนสุขุมวิทและฝั่งธนฯ หลังยอดสั่งซื้อสินค้าต่อครั้งเพิ่มเป็น 500 บาทต่อบิล เล็งเสริมเซ็ตเมนูอาหารใหม่ ๆ คาดทำยอดขายจาก ธุรกิจ QSRในปีนี้ 160 ล้านบาท

นายจรัสภล รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่ สายงาน QSR บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า จากนโยบายการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ที่บริษัทฯ จะเน้นรุกกลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนให้มากขึ้น เพื่อผลักดันการเติบโตหลังจากบรรยากาศภาพรวมเศรษฐกิจของไทยดีขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นและมีกำลังซื้อที่ดีขึ้น รวมถึงยังมีการรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่นิยมสั่งซื้อสินค้าไปรับประทานที่บ้านมากขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดร้านแซ่บคลาสสิก เดลิเวอรี่ เพิ่มเติมในปีนี้อีก 5 สาขา ใช้เงินลงทุนสาขาละ 2 ล้านบาท และขึ้นระบบ Call Center สั่งอาหารเบอร์เดียว 02-082-8000 เพื่อเพิ่มความสะดวกในการสั่งให้ลูกค้า โดยจะเลือกทำเลที่เน้นขยายพื้นที่ให้บริการเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ได้แก่ ทำเลย่านสุขุมวิทและย่านฝั่งธน จากปัจจุบันที่มี 15 สาขา ในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น สาขาบางพลี อารีย์ Maxvalu หลักสี่ โซโห เอ็มควอเทียร์ ทาวน์อินทาวน์ เป็นต้น  ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างมาก

สำหรับรูปแบบการลงทุนนั้น จะมีทั้งที่บริษัทฯ ลงทุนเองและเปิดขายแฟรนไชส์ให้แก่ผู้ที่สนใจ พร้อมกันนี้ มีแผนเพิ่มเมนูอาหารที่จัดเป็นเซ็ตเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการบริการแก่ลูกค้า จากเดิมที่มีเมนูกลุ่มส้มตำ อาหารจานเดียวและของทานเล่น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพิ่มยอดสั่งซื้ออาหารต่อครั้งต่อบิลจากปัจจุบันอยู่ที่ 500 บาทต่อครั้งต่อบิล และผลักดันยอดขาย แซ่บคลาสสิก เดลิเวอรี่ เป็น 160 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ คิดเป็นสัดส่วน 80% จากธุรกิจ QSR ทั้งหมด

“ในปีนี้ จะเห็นการรุกขยายร้านแซ่บคลาสสิก เดลิเวอรี่จากกลุ่มธุรกิจ QSR ของ ส.ขอนแก่น ที่จะเป็นหนึ่งในหัวหอกที่สร้างรายได้ให้เราในปีนี้ โดยคาดว่าจากเป้าหมายรายได้ปีนี้ จะมาจากสาขาที่บริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนเอง 80% และอีก 20% มาจากร้านแฟรนไชส์” นายจรัสภล กล่าว