โตชิบายื่นล้มละลายธุรกิจนิวเคลียร์ในสหรัฐฯ หวังกู้ชีพธุรกิจหลักในญี่ปุ่น

สื่อมวลชนญี่ปุ่นเกาะติดการฟื้นฟูกิจการของโตชิบา ที่ส่งผลกระทบต่อพนักงาน 190,000 คน

บริษัทเวสติ้งเฮาส์ บริษัทในเครือโตชิบา ซึ่งดำเนินธุรกิจนิวเคลียร์ในสหรัฐฯ ได้ยื่นขอรับการคุ้มครองตามมาตรา 11 แห่งกฎหมายล้มละลายของสหรัฐ หลังประสบผลขาดทุนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์กว่า 9,000 ล้านดอลลาร์

บริษัทโตชิบา ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ตั้งใจที่จะถอนตัวออกจากธุรกิจนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ โดยสิ้นเชิง โดยยื่นขอรับการคุ้มครองตามมาตรา 11 แห่งกฎหมายล้มละลายของสหรัฐ

การล้มละลายแบบมาตรการ 11 คือ การขอฟื้นฟูกิจการ โดยขออำนาจศาลคุ้มครองให้หยุดพักการชำระหนี้ไว้ชั่วคราว และเปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถฟื้นตัวได้ด้วยการลดภาระหนี้สินกับเจ้าหนี้ มาตรการ 11 นี้จะไม่ต้องขายทรัพย์สินเพื่อเอาเงินใช้เจ้าหนี้ แต่จะพยายามรักษาสินทรัพย์ที่ยังมีแนวโน้มที่ทำรายได้ให้กิจการนั้นไว้ ทำให้กิจการยังคงเดินหน้าต่อไปได้ ฝ่ายบริหารยังคงอยู่และควบคุมกิจการนั้นๆ ได้ เพื่อฟื้นฟูกิจการขึ้นมาใหม่

บริษัทโตชิบาต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อตัดลดผลขาดทุนของธุรกิจนิวเคลียร์ในสหรัฐฯ ลงเพื่อฟื้นฟูสถานะด้านการเงินของบริษัท หลังจากต้นทุนค่าใช้จ่ายของโตชิบาพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากต้องปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยของเตาปฏิกรณ์ 4 แห่งในสหรัฐฯ ที่บริษัทเวสติ้งเฮาส์ได้รับงานสร้างเตาปฏิกรณ์เมื่อปี 2551

ทั้งนี้ เพียงสองสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารของโตชิบาประกาศว่า จะนำผลประกอบการของบริษัทเวสติ้งเฮาส์ออกจากรายงานการเงินรวมของบริษัท โตชิบาระบุว่าอาจขาดทุนสุทธิในปีงบประมาณปัจจุบันกว่า 9,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขขาดทุนมากที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัทของญี่ปุ่น

นายซะโตะชิ สึนะกะวะ ประธานบริษัทโตชิบากล่าวในแถลงข่าวว่า การยื่นขอรับความคุ้มครองตามมาตรา 11 แห่งกฎหมายล้มละลายสหรัฐจะช่วยขจัดความเสี่ยงจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ของตนเองในต่างประเทศได้

นายสึนะกะวะกล่าวว่า แม้ว่ายังมีความเป็นไปได้ของการขาดทุนเพิ่มเติมอยู่ โตชิบาจะระดมเงินทุนจากภายนอกมาใส่ให้กับธุรกิจชิปหน่วยความจำ รวมทั้งจะขายสินทรัพย์บางส่วน

ผู้บริหารของโตชิบาระบุว่า การยอมขายหุ้นในธุรกิจชิปหน่วยความจำจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของฐานการเงิน และมั่นใจว่าจะมีกำไรที่สม่ำเสมอจากธุรกิจสาธารณูปโภคมาทดแทน

อย่างไรก็ตาม การขายหุ้นนี้สร้างความกังวลให้กับวงการธุรกิจของญี่ปุ่นว่าสุดยอดเทคโนโลยีนี้จะตกไปอยู่ในมือของต่างชาติ เพราะเทคโนโลยีของ “โตชิบา” ถือเป็นผู้นำในวงการ เป็นรองเพียง “ซัมซุง” ของเกาหลีใต้เท่านั้น.

อ่านข่าวประกอบ : มหาเศรษฐีไต้หวันเสนอซื้อ “โตชิบา” หลังเทคโอเวอร์ “ชาร์ป” ไปก่อนหน้านี้
ผ่าแผนกู้ “โตชิบา” ยื่นล้มละลาย จำใจขายสุดยอดเทคโนโลยี

ที่มา : http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9600000032247