ยังสู้ต่อ ! รัฐบาลญี่ปุ่นผลักดัน บริษัทญี่ปุ่นลงขันซื้อหุ้น “โตชิบา” ป้องกันเทคโนโลยีไหลสู่มือต่างชาติ

กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหรรมของญี่ปุ่นพยายามผลักดันให้บริษัทญี่ปุ่นร่วมมือกัน เพื่อซื้อหุ้นกิจการผลิตเซมิคอนดักเซอร์ของบริษัทโตชิบา ที่จำต้องขายหุ้นเพื่อกอบกู้กิจการที่ขาดทุนมหาศาล และมีความเสี่ยงที่จะทำให้สุดยอดเทคโนโลยีตกอยู่ในมือของบริษัทต่างชาติ

รัฐบาลญี่ปุ่นและสมาพันธ์ภาคธุรกิจแห่งญี่ปุ่น หรือ ไคดันเรน แสดงความกังวลว่า การขายหุ้นกิจการผลิตเซมิคอนดักเซอร์ของบริษัทโตชิบาถือเป็นความเสี่ยงทางความมั่นคงของประเทศญี่ปุ่น เพราะเทคโนโลยีชั้นนำและข้อมูลต่างๆ จะถูกถ่ายทอดไปยังผู้ถือหุ้นใหม่ ที่อาจเป็นบริษัทต่างชาติ

กระทรวงเศรษฐกิจของญี่ปุ่นพยายามติดต่อบริษัทชั้นนำต่างๆ ของญี่ปุ่น เพื่อให้ร่วมมือกันป้องกันเทคโนโลยีของโตชิบา ทั้งบริษัทฟูจิสึ, ฟูจิฟิล์ม และบริษัทอื่นๆ อีกกว่า 10 บริษัท ระดมเงินทุนบริษัทละ 10,000 ล้านเยน จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อร่วมประมูลซื้อหุ้นของโตชิบา โดยรัฐบาลญี่ปุ่นก็จะสนับสนุนเงินทุนด้วยผ่านทาง บรรษัทเครือข่ายนวัตกรรมแห่งญี่ปุ่น หรือ Innovation Network Corp. of Japan และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งญี่ปุ่น

บริษัทร่วมทุนนี้จะเข้าร่วมการประมูลซื้อหุ้นของโตชิบารอบที่สอง หลังจากการประมูลรอบแรกไม่มีบริษัทของญี่ปุ่นเข้าร่วมเลย บริษัทที่เสนอราคาสูงที่สุดในรอบแรก คือ หงไห่ พริซิชั่น อินดัสตรี จากไต้หวัน ซึ่งได้ซื้อกิจการของชาร์ปไปก่อนหน้านี้ และได้เสนอซื้อหุ้นในกิจการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของโตชิบาด้วยมูลค่า 3 ล้านล้านเยน

โตชิบาขาดทุนมหาศาลจากธุรกิจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในสหรัฐฯ ทำให้ต้องยื่นขอล้มละลายกิจการในสหรัฐฯ และขายหุ้นในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหัวใจของโตชิบา เพราะเทคโนโลยีนี้มีเพียงบริษัทซัมซุงของเกาหลีใต้ และโตชิบาของญี่ปุ่นที่ครองตลาดอยู่

อย่างไรก็ตาม ความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จะปกป้องเทคโนโลยีของโตชิบาด้วยการลงขันของบริษัทญี่ปุ่นต่างๆ อาจสำเร็จได้ยาก เพราะบริษัททั้งหลายล้วนแต่กำลังเผชิญความยากลำบากทางการเงิน

ก่อนหน้านี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นก็เคยร่วมทุนกันมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด เช่น การร่วมทุนของ NEC, ฮิตาชิ และมิตซูบิชิ อิเล็คทริกส์ จัดตั้ง Elpida Memory Inc. เพื่อผลิตแผงความจำ DRAM แต่สุดท้ายก็ล้มละลายในปี 2012 และถูกซื้อต่อไปโดยบริษัทของสหรัฐฯ

ขณะที่ Japan Display Inc. ที่ก่อตั้งในปี 2012 เพื่อผลิตจอ LCD โดยการร่วมทุนของโตชิบา โซนีและฮิตาชิ ก็สู้บริษัทจากเกาหลีใต้ไม่ได้ จนต้องร้องขอให้บรรษัทเครือข่ายนวัตกรรมแห่งญี่ปุ่น ช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง.

ที่มา : http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9600000036168