ไทยพาณิชย์คว้าแชมป์ ธนาคารแห่งปี 2560 กสิกรไทย รั้งที่ 2

เผยผลจัดอันดับธนาคารแห่งปี Bank of the Year ธนาคารไทยพาณิชย์ ครองแชมป์ ธนาคารแห่งปี 2560 Bank of the Year 2017 ธนาคารกสิกรไทย นั่งอันดับ 2 ธนาคารกรุงเทพ รั้งอันดับ 3 เผยแบงก์พาณิชย์ไทยทำกำไรปี 59 รวมกว่า 1.99 แสนล้านบาท

การเงินธนาคาร ฉบับเดือนเมษายน 2560 ประกาศผลการจัดอันดับ ธนาคารแห่งปี 2560 หรือ Bank of the Year 2017 โดยใช้ผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ 14 แห่งในรอบปี 2559 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2559 มาพิจารณาจัดอันดับ ปรากฏว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ครองแชมป์ธนาคารแห่งปี 2560

โดยธนาคารไทยพาณิชย์ สามารถสร้างผลประกอบการในปี 2559 ได้อย่างโดดเด่น มีกำไรสุทธิสูงเป็นอันดับ 1 ของระบบธนาคารพาณิชย์ถึง 47,612.23 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่เพิ่มขึ้น ขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ลดลงมาอยู่ที่ 2.67% จากการปรับตัวที่ดีขึ้นของคุณภาพสินเชื่อกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ ส่วนลูกค้าเอสเอ็มอี และลูกค้าบุคคล NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวอย่างช้าๆ นอกจากนี้ ยังมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) สูงเป็นอันดับ 1 ที่ 29.02% อัตราผลตอบแทนจากส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูงเป็นอันดับ 1 ที่ 14.84% และอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) อยู่ในอันดับ 2 ที่ 2.08%

ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ที่มุ่งสู่การเป็น “ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด” (The Most Admired Bank) โดยปี 2560 ธนาคารจะมุ่งมั่นเดินหน้าภารกิจ “SCB Transformation” ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 3-4 ปี ด้วยเงินลงทุน 30,000-40,000 ล้านบาท โดยมีแผนการดำเนินงานที่มุ่งเน้นการลงทุนเพื่อพัฒนารากฐานขององค์กร และสร้างขีดความสามารถใหม่ๆ รวมถึงจะเดินหน้าปรับรูปแบบและแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีอยู่

ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้มีการวางแผน และเริ่มดำเนินการปรับปรุง และพัฒนา 4 รากฐานหลักขององค์กร ได้แก่ 1.ด้านทรัพยากรบุคคล มีการเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรบุคคล เพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวไปพร้อมกับยุคดิจิตอล ผ่านโครงการ SCB Academy 2.ด้านกระบวนการทำงาน ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานโดยยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลางมากขึ้น โดยการออกแบบกระบวนการทำงานต่างๆ ของธนาคารที่คำนึงถึงประสบการณ์ของลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 3.ด้านผลิตภัณฑ์ เพิ่มศักยภาพของผลิตภัณฑ์เพื่อมอบคุณค่าสูงสุดให้ลูกค้า โดยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น สร้างความแตกต่างในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท รวมถึงลดเวลาในการพัฒนาเพื่อทำให้สามารถนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้น และ 4.ด้านเทคโนโลยี เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของธนาคารอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการสร้างความสามารถของธนาคารให้ตอบสนองต่อสภาวะการแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา

ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย โดยมีกำไรสุทธิ 40,174.10 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 และมีกำไรสุทธิต่อหุ้นสูงเป็นอันดับ 1 ที่ 16.79 บาท สำหรับทิศทางในระยะ 3 ปีข้างหน้า ธนาคารกสิกรไทยได้กำหนดยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นการสร้างขีดความสามารถในการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทน และความเป็นผู้นำธุรกิจที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยการผสานเทคโนโลยี รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตร และธุรกิจสตาร์ตอัปเพื่อสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงิน และการยกระดับคุณภาพการขาย และการบริการที่เป็นเลิศ

อันดับ 3 ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ โดยยังเป็นธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์สูงสุดเป็นอันดับ 1 คือ 2,944,229.79 ล้านบาท และมีมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value) สูงเป็นอันดับ 1 ที่ 194.30 บาท ในปี 2559 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 31,814.84 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารยึดมั่นในเจตนารมณ์ของการเป็น “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” ทำให้ธนาคารสามารถรักษาสายสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างยาวนาน

อันดับ 4 ปีนี้ มี 2 ธนาคารที่ได้ครองตำแหน่งร่วมกัน คือ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเกียรตินาคิน อันดับ 6 ธนาคารทิสโก้ อันดับ 7 ธนาคารธนชาต อันดับ 8 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา อันดับ 9 ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ อันดับ 10 มี 2 ธนาคาร คือ ธนาคารทหารไทย และ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) อันดับ 12 ธนาคารยูโอบี อันดับ 13 ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย และอันดับ 14 ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย

ที่มา : http://manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9600000036470