“คนไต้หวัน” อึ้ง! ชี้ “อี-คอมเมิร์ซ” จีน จ่อแซงหน้าเป็นผู้นำโลก

“นักวิชาการไต้หวัน” ชี้ “จีน” น่ากลัว ในอนาคตเทคโนโลยีด้าน อี-คอมเมิร์ซ จ่อพุ่งแซงเป็นผู้นำโลก ระบุ ทุกวันนี้พัฒนาไวมากเป็นแบบ “พุ่งแซงจากข้างหลัง” ปลุกคนในประเทศเลิกความเชื่อจีนล้าหลังได้แล้ว

วันนี้ (21 เม.ย.) ทางเพจเฟซบุ๊ก “ลุยจีน Shoot2China” ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ที่มีนักวิชาการไต้หวัน พยากรณ์จีนในอนาคต ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทำให้คนในห้องส่งฮือฮา เพราะจีนพัฒนาเทคโนโลยีด้าน อี-คอมเมิร์ซ อย่างรวดเร็วมาก และในอนาคตจะต้องก้าวล้ำแซงทุกประเทศกลายเป็นผู้นำโลกอย่างแน่นอน

เนื้อหาคลิปดังกล่าวมีรายละเอียดว่า … “แจ็คหม่าพูดไว้ … ตลาดหุ้น ระบบชำระเงิน ระบบขนส่ง ระบบคลาวด์ และบิ๊กดาต้า ทั้งหมดเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ถ้าคุณจะทำการค้าในยุคอินเทอร์เน็ต ถามว่า โครงสร้างพวกนี้ในไต้หวันพัฒนาหรือยัง จะเห็นว่าด้านนี้ไต้หวันยังไปไม่ถึงไหน จริงๆ คนไต้หวันไม่ได้โง่ แต่ทำไมถึงยังไม่มีระบบที่สมบูรณ์แบบเหมือนจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะว่าตลาดของเราเล็กมาก ถ้าคุณพัฒนาระบบทั้งหมดนี้ขึ้นมา มันเป็นไปไม่ได้เลย แต่ที่จีนแผ่นดินใหญ่ตลาด 1,300 ล้านคน ในการประชุม Internet Conference ที่จัดที่ Wuzhen ที่ผ่านมา มีการทดลองระบบ E-Commerce ทั้งเมือง ที่ Wuzhen ก็คือ คุณซื้อของได้แค่ผ่านปลอกข้อมือที่เก็บข้อมูล แล้วทุกอย่างก็จะผ่านระบบคลาวด์เข้าบิ๊กดาต้า ไม่ต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือมือถือเลย เค้าทดลองกันอยู่

แล้วที่ผ่านมา ยังทดลองระบบ VR (Virtial Reality) กับการซื้อขายออนไลน์อีก คือคุณอยู่บ้านแล้วมองสินค้าที่จะซื้อผ่านเครื่อง VR ได้ แล้วยังเริ่มใช้ระบบ AR (Additional Reality) ชอปปิ้งแบบไลฟ์สด ที่เอามาบูรณาการกับเรื่องขนส่งอีก มีเคสที่เกิดขึ้นคือ คนคนหนึ่งกดซื้อของออนไลน์ การประมวลผลทุกอย่างเสร็จได้ใน 0.59 วินาที แล้วไม่ถึงชั่วโมง ของก็มาส่งถึงบ้านแล้ว เพราะฉะนั้น จีนแผ่นดินใหญ่เขาไปเร็วขนาดนี้ คุณไม่กลัวหรือ

จากนั้นนักวิชาการอีกราย ได้พูดเสริมว่า ยังมีความเข้าใจผิดๆ อยู่ในกลุ่มคนที่ยังไม่มีโอกาสไปจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่ก็รับข้อมูลที่เอนเอียงจากสื่อกระแสหลักจนเคยชิน ทำให้คนส่วนใหญ่ยังมองจีนแบบผิดๆ อยู่ แล้วมันทำให้เกิดปัญหาใหญ่เลยนะ คือ ทุกคนยังไม่เข้าใจว่าจีนไม่ได้ล้าหลัง แบบ 10 15 20 ปีที่แล้ว ตอนนี้จีนเรื่องเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตไปเร็วมาก แน่นอนตัวแทนก็คงเป็นอาลีบาบากรุ๊ป แล้วยังมี Tencent และอีกหลายยักษ์ใหญ่เลย

คุณรู้มั้ยตอนนี้ทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ มีคำนึงอธิบายปรากฏการณ์พัฒนาแบบก้าวกระโดด ก็คือ “พุ่งแซงจากข้างหลัง” ตอนนี้เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ต, การเงิน และธุรกรรมอื่นๆ แทบทั้งหมด ไม่ได้แค่ก้าวล้ำกว่าแค่ไต้หวัน หรือเอเชีย แต่จีนเป็นผุ้นำเทคโนโลยีพวกนี้ของโลกแล้ว นี่ไงที่มาของคำว่า “พุ่งแซงจากข้างหลัง” ตอนนี้ใครๆ ก็ต้องพกสมาร์ทโฟน ดูเท่ ดูโก้ แล้วมาดูชาวนาของจีน ที่เมื่อก่อนสายโทรศัพท์ยังเข้าไม่ถึง อยู่ดีๆ ก็กระโดดมาใช้สมาร์ทโฟนเลย นี่ไงคือการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยี

มีครั้งนึง มีศาสตราจารย์จากปักกิ่ง จะไปวิจัยในท้องถิ่นทุรกันดารที่ชนบท ตอนแรกเขาคิดว่าคุณลุงคุณป้าที่บ้านนอกจะถกเรื่องปากท้องกับเขา เปล่าค่ะ ลุงๆ ป้าๆ เข้ามาถกกับแกเรื่องเลือกตั้งอเมริกาที่จะกระทบจีน ก็เพราะพวกเขาดูข่าวสารผ่านสมาร์ทโฟน ที่บ้านก็ไม่ต้องติดเคเบิลอะไร ดูผ่านมือถือได้เลย

มาดูกันอีกว่านี่น่ากลัวขนาดไหน เอางี้คุณลองคิดภาพของคนจีนรุ่นใหม่ เจน Z ที่เกิดหลังปี 2000 คนของเขารุ่นเดียวกันกับคนไต้หวัน เกิดมาก็สัมผัสกับประสบการณ์ที่ต่างกันมาก อย่างที่ไต้หวัน ตอนนี้เรายังต้องพกเงินสด หรือไม่มีเศษเงินจะจ่ายค่าจอดรถยังไง พอคนจีนแผ่นดินใหญ่รุ่นนี้มาถึงไต้หวัน เขาก็ตะลึง บอกทำไมล้าหลังขนาดนี้ เพราะปกติเขาใช้มือถือเครื่องเดียวก็จัดการได้หมดทุกปัญหาแล้ว ย้ำนะ แก้ได้ จ่ายได้หมดทุกอย่าง

ท้าเลย ถ้าตอนนี้ไปเมืองเอกของจีนแผ่นดินใหญ่ ถ้าจะโบกแท็กซี่แล้วจ่ายเงินสด ยากมาก เพราะตอนนี้ที่จีนใช้ระบบแอปจ่ายเงินผ่านบุคคลที่สามอย่างวีแชตเพย์แล้ว คุณแค่เรียกแท็กซี่ผ่านแอป ทำทุกอย่างผ่านอินเทอร์เน็ตหมด ตอนนั้นฉันก็นั่งแท็กซี่แบบนี้ ตอนรถใกล้ถึง แอปก็จะเด้งหน้าต่างมาให้ประเมินคนขับด้วย แป๊บเดียวก็ประเมินเสร็จหมดแล้ว ถึงได้บอก เรายังติดภาพคนจีนแผ่นดินใหญ่ว่าไม่มีวัฒนธรรมบ้างล่ะ บริการห่วยบ้างล่ะ ตอนนี้เข้าอาจยังบริการแย่ เพราะอยู่ในขั้นปรับตัวอยู่ แต่ลองคิดดู จีน “พุ่งแซงจากข้างหลัง” ด้วยตลาดใหญ่มหึมา แล้วก็เทคโนโลยีที่เร็วขึ้นขนาดนี้ อีกไม่นานภาคบริการจะยกระดับถึงขนาดไหน ไม่อยากจะนึกภาพ อย่างนั่งแท็กซี่สามารถประเมินคนขับได้ทันที คนขับจะกล้าทะเลาะกับคุณไหม กล้าขับอ้อมไหม กล้าไม่สุภาพไหม เพราะฉะนั้นจีนกำลังโตและเปลี่ยนแปลงตัวเองเร็วขนาดนี้ สำคัญมาก เราต้องตื่นมามองจีนใหม่ได้แล้ว

ที่มา : http://manager.co.th/OnlineSection/ViewNews.aspx?NewsID=9600000040562