งานเข้า ‘หัวเว่ย’ กลุ่มผู้ใช้ Mate 9 เตรียมรวมตัวฟ้อง

สืบเนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ริชาร์ด หยู ซีอีโอ ของหัวเว่ย ได้ออกมายอมรับว่า ในการผลิต Huawei P10 และ P10 Plus ได้มีการนำหน่วยความจำหลายรุ่นมาใช้งาน จากปัญหาชิ้นส่วนหน่วยความจำที่เป็นแบบ UFS 2.1 ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดขาดตลาด ส่งผลต่อการผลิตเครื่อง

ส่งผลให้มีการนำหน่วยความจำแบบ UFS 2.0 และ eMMC มาใช้งาน ทำให้เครื่องมีความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูลช้าลงกว่าที่ควรจะเป็น โดยทางซีอีโอของหัวเว่ย กลับระบุว่า เมื่อได้ทดลองใช้งานแล้วให้ความรู้สึกในการใช้งานไม่แตกต่างกัน ทำให้ผู้ใช้งานหัวเว่ยทั่วโลกเริ่มเกิดความไม่พอใจ

โดยในกลุ่มผู้ใช้งานหัวเว่ย P10 / P10 Plus ทั้งในและต่างประเทศ ต่างเริ่มมีการนำตัวเครื่องมาทดสอบผ่านโปรแกรมทดสอบในแอนดรอยด์สโตร์อย่าง AndroBench ที่เป็นโปรแกรมทดสอบการอ่านเขียนข้อมูลของหน่วยความจำ

ทำให้พบว่า ถ้าเป็นรุ่นที่ใช้หน่วยความจำแบบ UFS 2.1 RAM DDR4 จะได้คะแนนอ่านข้อมูล (Sequential Read) อยู่ราว 700 Mbps ส่วน UFS 2.0 จะอยู่ราว 400 – 500 Mbps และ eMMC จะอยู่ที่ประมาณ 200-300 Mbps รวมถึงให้สังเกตในส่วนของการเขียนข้อมูลแบบสุ่ม (Random Write) ในรุ่น UFS 2.1 จะอยู่ที่ 17-20 Mbps ส่วนรุ่นอื่นๆจะไม่เกิน 15 Mbps

ทั้งนี้ ในการทดสอบดังกล่าวควรมีการปิดโปรแกรมที่เปิดใช้งาน หรือถ้าให้ดีควรล้างเครื่องให้กลับเป็นค่าโรงงานก่อนทำการทดสอบเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด เนื่องมาจากในการทดสอบถ้าตัวเครื่องมีการใช้งานแอปพลิเคชั่นอื่นๆ อยู่ในเบื้องหลัง ผลที่ได้อาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริง

ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ใช้งาน Huawei Mate 9 ที่เป็นรุ่นเรือธงในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ได้นำเครื่องที่ซื้อมาทดสอบ และพบว่า มีบางเครื่องไม่ได้ใช้งานหน่วยความจำแบบ UFS 2.1 ตามที่ทางหัวเว่ยได้ทำการโฆษณาไว้ จึงได้เกิดการนัดรวมตัวกันเพื่อไปร้องเรียนแก่ สคบ. ในวันพุธที่ 26 เมษายน 2560 เวลา 08.00 น

โดยผู้ใช้นามแฝงที่ชื่อ พาเรโต ได้โพสต์กระทู้เชิญชวนกลุ่มผู้ใช้งาน Huawei Mate 9 ในประเทศไทย ให้มารวมตัวกัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดผ่านกระบวนการคุ้มครองของทางภาครัฐในกระทู้พันทิป https://pantip.com/topic/36371262

หน้าเว็บไซต์ในปัจจุบัน
หน้าเว็บไซต์ในปัจจุบัน
หน้าเว็บไซต์ก่อนการแก้ไขข้อมูล
หน้าเว็บไซต์ก่อนการแก้ไขข้อมูล

พร้อมกับการที่ล่าสุด หัวเว่ย มีการถอดข้อมูลหน่วยความจำเกี่ยวกับ UFS 2.1 ออกจากหน้าเว็บไซต์ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ผู้บริโภคเกิความไม่พอใจ และมองว่าทางหัวเว่ยต้องการให้เรื่องเงียบไปโดยไม่รับผิดชอบ และยังมองว่า หัวเว่ย ทำการสอดแทรกสินค้าที่ไม่มีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค โดยที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ในลักษณะของการขายสินค้าไม่ตรงสเปก และถูกเอารัดเอาเปรียบ

อย่างไรก็ตาม เมื่อประสานไปยังทีมงานของหัวเว่ย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ปัจจุบันทางทีมงานหัวเว่ย ประเทศไทย กำลังอยู่ในช่วงประสานงานกับบริษัทแม่ในต่างประเทศ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะมีการแจ้งข้อมูลอย่างเป็นทางการให้แก่ลูกค้าอย่างแน่นอน

ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000040925