ไม่มีฮีโร่ฉายเดี่ยว

ปกติเคยทำหนังโฆษณาแบบเวิลด์ไวด์ ออนแอร์เหมือนกันทั่วโลก แต่หลังจากพบว่า “คนเอเชียยังไม่อินเท่าที่ควร” มาคราวนี้ “จอห์นนี่ วอล์คเกอร์” จึงต้องหันผลิตมาหนังโฆษณาเอาใจคนเอเชียโดยเฉพาะ และเป็นครั้งแรกที่ไม่มี “ฮีโร่ฉายเดี่ยว” ในหนังโฆษณาเหล้ายี่ห้อนี้

หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาจอห์นนี่ วอล์คเกอร์ สร้างความฮือฮาด้วยภาพยนตร์โฆษณา “Android” จนเป็นที่จดจำไปแล้ว แต่ผลตอบรับของคนไทยปรากฏว่า “คนเข้าใจ แต่ไม่อินมากนัก” วรรัตย์ จรูญสมิทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ให้รายละเอียด

โฆษณาชุดใหม่จึงมีเป้าหมายต้องการให้เข้าถึงคนมากขึ้น และลอยัลตี้มากขึ้น แม้ยังคงนำเรื่องของการสร้างแรงบันดาลใจมาเป็นธีมหลักเช่นเคย แต่เพื่อต้องการสร้างความแปลกใหม่ และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น และดูยิ่งใหญ่ ผู้ผลิตเหล้ารายนี้จึงทำเป็นภาพยนตร์โฆษณาซีรี่ส์ 5 ตอน

“การทำเป็นซีรี่ส์ช่วยสร้าง Engagement ให้ผู้บริโภคได้ดีกว่า มีเรื่องราวถ่ายทอดได้มากกว่าหนัง 30 หรือ 45 วินาที ซึ่งไม่เพียงพอที่จะสร้าง Bonding กับผู้บริโภคซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชายอายุ 25-34 ปีได้”

แม้จะเป็นการต่อยอดสโลแกน Keep Walking แต่หนังชุดนี้ พยายามนำเสนอมุมมองใหม่ ด้วยเนื้อหาที่ต้องการสะท้อนเรื่องของ ไม่มีฮีโร่ฉายเดี่ยวอีกต่อไป เพราะความสำเร็จของการทำงานไม่ได้ก่อเกิดมาจากคนเพียงคนเดียว ขณะนี้ได้ออนแอร์แล้วใน จีน ไต้หวัน และไทยเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชีย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศต่างได้รับผลตอบรับที่ดี

วรรัตย์อธิบายถึงผลวิจัยดังกล่าวอีกว่า เนื่องจากคนเอเชียและคนยุโรปมีวัฒนธรรมและวิธีการคิดไม่เหมือนกัน คนเอเชียจะมีความรู้สึกของการเป็นพวกพ้องน้องพี่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพของเพื่อนฝูงมาก

ขณะที่วัฒนธรรมตะวันตกจะชื่นชมความสำเร็จแบบ Individual หรือ One man show ซึ่งสะท้อนผ่านภาพยนตร์โฆษณาของจอห์นนี่ วอล์คเกอร์ แบล็ค ในหลายชุดที่ผ่านมา เช่น การซื้อเกาะทำโรงเรียน การเซ็นอนุมัติงบโครงการพื้นฟูพื้นที่ประสบภัยพิบัติแห้งแล้ง

เขามั่นใจว่า ภายใต้หัวใจสำคัญของการสื่อสารที่ชัดเจนในเรื่อง “ความก้าวหน้า” ที่ถูกถ่ายทอดผ่าน “กระบวนการ” ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ โดยมีเพื่อนคอยสนับสนุนและเป็นกำลังให้นั้น จะทำให้ผู้บริโภคคนไทยอินมากขึ้น เพราะตรงกับ Consumer Insight ของพวกเขา

หนังโฆษณาทั้ง 5 ซีรี่ส์ ใช้งบ 100 ล้านบาท จะถูกใช้แบบ 360 องศา ทั้งภาพยนตร์โฆษณา วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อดิจิตอล และสื่อบิลบอร์ด เพื่อให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ทุกด้านของกลุ่มเป้าหมาย

Production

ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ใช้เวลาถ่ายทำที่ฮ่องกงเป็นระยะเวลานานถึง 6 เดือน Mood & Tone ออกมาในสไตล์หนังฮ่องกง ดูสนุกและทิ้งปมให้ติดตามต่อเนื่องจนจบซีรี่ส์

โดยเป็นเรื่องราวชีวิตชายหนุ่มที่ชื่อ เจสัน และเพื่อนพ้อง เขาเป็นสถาปนิกหนุ่มที่มีความฝันที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเหมือนเช่นคนหนุ่มสาวยุคใหม่ วัยแห่งการเริ่มต้นที่จะสร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ให้กับตนเอง เขาร่วมหุ้นกับเพื่อนเพื่อเปิดบริษัทสถาปนิกที่ยิ่งใหญ่ เวลาผ่านไป 3 ปี ชีวิตเขาเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน

เป็นจุดเปลี่ยนที่เกิดมาจากแรงผลักดันของเพื่อน เมื่อเพื่อนๆ ของเขาให้เขาออกจากบริษัทเพื่อไล่ล่าความฝันกับการเป็นผู้กำกับระดับโลก แต่เพื่อนๆ ของเขาให้คำมั่นสัญญาว่าเขาจะไม่เดินคนเดียว

เจสันคร่ำเคร่งกับการเขียนบทหนัง แต่กลับโชคร้ายบทหนังโดยขโมยไป เขารู้สึกท้อแท้มากเพราะถ้าไม่มีบทหนังเขาก็ไม่สามารถหานายทุนมาสร้างหนังได้ แต่บรรดาเพื่อนต่างตกปากรับคำที่จะช่วยเหลือเขาเพื่อให้ฝันของเขาเป็นจริงให้ได้ รวมถึงการให้กำลังใจอยู่เสมอ

สุดท้ายหนังของเจสันได้ฉายในรอบพรีเมียร์ของงานเทศกาลภาพยนตร์แห่งหนึ่ง ฝันของเขาเป็นจริงได้เพราะมีเพื่อนร่วมก้าวไปด้วย พร้อมกับตอกย้ำว่า “ความสำเร็จจะยิ่งใหญ่กว่า ถ้าก้าวไปด้วยกัน ก้าวต่อไป…Keep Walking

www.keepwalking.asia

Advertiser บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ ประเทศไทย จำกัด
Campaign Keep Walking
Title จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ “Pact between men”
Length ภาพยนตร์โฆษณาชุดต่อเนื่อง (Series) ทั้งหมด 5 ตอน (ความยาว 5 x 45 วินาที และ 5 x 30 วินาที)
Campaign Duration 5 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2551
Advertising Agency Bartle Bogle Hegarty (BBH) China
Creative Team Johny Tan
Director David Tsui
Production Company Moviola, Touches HK and Black Magic HK
Exposure Across Greater China and South East Asia