“ดิสนีย์” ตั้งผู้จัดการประจำ “ไทย -อินโดฯ -ฟิลิปปินส์”หวังโกยลูกค้ารุ่นใหม่ ในตลาดดิจิทัล มือถือ-โซเชียลมีเดีย

นับเป็นการรุกคืบไปในอีกระดับของ “ดิสนีย์” ผู้ผลิตคอนเทนต์การ์ตูนรายใหญ่ของโลก ที่ได้ประกาศแต่งตั้งผู้จัดการประจำ 3 ประเทศ ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เพื่อเร่งใส่เกียร์ขยายตลาดดิจิตอลในลูกค้ามือถือและโซเชียล ซึ่งเป็น 3 ตลาดใหญ่ที่สุดในโลกของดิสนีย์ 

โดย “เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ คอมปานี สตูดิโอ เซาท์อีสต์ เอเชีย” ประกาศแต่งตั้งผู้จัดการประจำประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย เพื่อเป็นการขยายความแข็งแกร่งในตลาดที่เจริญเติบโตสูง โดยมี “เฮอร์รี ซาลิม เวโรนิกา”, “เอสปิโนซ่า-คาบาลินาน” และ “สุภอร รัตนมงคลมาศ” (ซุปปี้) ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ตามลำดับ โดยขึ้นตรงกับ “โรเบิร์ต กิลบี” กรรมการผู้จัดการ “เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ คอมปานี สตูดิโอ เซาท์อีสต์”

การดูแลตลาดระดับประเทศจะเป็นการช่วยสนับสนุนการสร้างพันธมิตรในตลาดของ “ดิสนีย์” รวมถึงส่งเสริมการสร้างสรรค์เนื้อหาที่เหมาะกับตลาดในประเทศ พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้เทรนด์และโอกาสภายในประเทศได้อย่างรวดเร็ว เพื่อตอบโจทย์ความสนใจของแฟนๆ ของดิสนีย์, มาร์เวล, สตาร์ วอร์ส และพิกซาร์ โดยผู้บริหารระดับประเทศจะเน้นสร้างความใกล้ชิดกับแบรนด์ผ่านการสร้างความสัมพันธ์กับแฟนๆ และผลักดันการสร้างรายได้ด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจของธุรกิจดิสนีย์ทั้งหมด

“โรเบิร์ต กิลบี” กล่าวถึงการแต่งตั้งครั้งนี้ว่า องค์กรใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยตลาดจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับตลาดท้องถิ่นให้แข็งแกร่ง กระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรสำคัญให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และเร่งขยายการบริการทางดิจิตอลกับตลาดลูกค้ามือถือและโซเชียลที่ใหญ่ที่สุดในโลกใน 3 ประเทศนี้

“เฮอร์รี เวโรนิกา และซุปปี้ นำความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับตลาดสำคัญๆ ที่กำลังเติบโตในภูมิภาคนี้ใช้ในการบริหารงาน โดยทั้งประสบการณ์และความเป็นผู้นำของพวกเขาจะช่วยยกระดับการสร้างความสัมพันธ์กับแฟนๆ ของดิสนีย์ ผ่านเรื่องราว แบรนด์ และตัวละคร อีกทั้งยังจะช่วยผลักดันการเติบโตให้แก่ธุรกิจต่างๆ ของเรา” 

ทีมผู้จัดการประจำประเทศที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งนี้จะทำงานร่วมกับหัวหน้าธุรกิจประจำภูมิภาค โดยจะช่วยผนึกความแข็งแกร่งกับพันธมิตรในประเทศ ทั้งผู้แพร่ภาพ ผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคม ผู้ถือลิขสิทธิ์ ผู้ค้าปลีก และแบรนด์สื่อดิจิทัล เพื่อมอบเนื้อหาที่ดีที่สุดที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาเฉพาะสำหรับผู้ชม รวมทั้งเพิ่มโอกาสทางธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มมือถือและโซเชียลมีเดีย

ก่อนที่จะมาร่วมงานกับดิสนีย์ เฮอร์รี”เคยดำรงตำแหน่งรองประธานเฮ้าส์โฮลด์ แคร์ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ของ “ยูนิลีเวอร์” โดยทำงานกับยูนิลีเวอร์มา 24 ปี โดยได้สั่งสมความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาแบรนด์ การตลาดและการบริหารจัดการทั่วไป การบริหารจัดการโครงการระดับโลก และความเป็นผู้นำด้านธุรกิจ

ผมยินดีที่ได้มีโอกาสนำทีมที่มีพลังในอินโดนีเชีย ผมมั่นใจว่าความแข็งแกร่งของแบรนด์ดิสนีย์ ทั้งในด้านคน เรื่องราว และตัวละคร จะสามารถสร้างแฟนๆ เจนเนอเรชั่นใหม่ ในกลุ่มลูกค้าครอบครัวและธุรกิจชาวอินโดนีเชีย

เฮอร์รี กล่าว

สำหรับ “เอสปิโนซ่า-คาบาลินาน” เธอมีประสบการณ์นานกว่าสองทศวรรษทางธุรกิจด้านลิขสิทธิ์และค้าปลีก โดยได้ร่วมงานกับดิสนีย์เมื่อปี 2556 ในตำแหน่งหัวหน้าธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้านอุปโภคบริโภคในประเทศฟิลิปปินส์ และนำทีมในการสร้างความเติบโตอย่างยอดเยี่ยมทางธุรกิจด้านลิขสิทธิ์ของดิสนีย์ รวมทั้งสร้างพันธมิตรด้านค้าปลีกที่สำคัญๆ ก่อนหน้านั้นเธอได้ทำงานกับแปซิฟิก ไลเซนซิ่ง สตูดิโอ โดยเป็นผู้นำทีมด้านลิขสิทธิ์สินค้าอุปโภคบริโภคที่สร้างหลักทรัพย์ให้แก่แบรนด์ลิขสิทธิ์ในประเทศฟิลิปปินส์

“แฟนๆ ชาวประเทศฟิลิปปินส์มีความสัมพันธ์ที่พิเศษกับแบรนด์ดิสนีย์ โดยเฉพาะมาร์เวล และเราจะเดินหน้ายกระดับความสัมพันธ์นี้ด้วยผลิตภัณฑ์ด้านดิจิตอลที่ทันสมัยผ่านสื่อโซเชียล” 

ส่วน “ซุปปี้” เป็นผู้บริหารระดับอาวุโสในธุรกิจด้านความบันเทิงระดับสตูดิโอ โดยมีประสบการณ์มายาวนานกว่าสองทศวรรษทั้งในประเทศไทย เวียดนาม เมียนมา กัมพูชา และลาว ก่อนหน้าที่จะมารับตำแหน่งนี้ เธอดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการขององค์กรที่ร่วมลงทุนกันระหว่าง “วอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอ โมชัน พิคเจอร์ส” และ “โซนี่ พิคเจอร์ส รีลิสซิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล” ในประเทศไทย ซึ่งรับบทบาทที่หลากหลายนับตั้งแต่เข้ามาร่วมงานในปี 2546

ฉันมีความสุขที่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางดิสนีย์ในกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา และรู้สึกภูมิใจที่จะได้บริหารทีมงานที่ครบด้านความสามารถในประเทศไทย เราจะเดินหน้ารับใช้แฟนๆ คนไทย ผ่านแรงบันดาลใจและประสบการณ์ที่สร้างสรรค์และเป็นเอกลักษณ์ของมาร์เวล, สตาร์ วอร์ส, พิกซาร์ และที่สำคัญที่สุดคือดิสนีย์

 ซุปปี้ กล่าว

ที่มา : http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9600000045994