กล้ามจงมา ! ตลาดไฮโปรตีนเดือด ทิปโก้ปั้น “ทิปโก้ บีท” ลงตลาดอีกราย

เทรนด์เรื่องการออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพของคนไทยยังคงเป็นที่นิยม และเติบโตสูงขึ้นในประเทศไทย เรียกว่าเป็นการสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสินค้าที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ด้วย

จึงได้เห็นตลาดเครื่องดื่มไฮโปรตีนเป็นอีกหนึ่งตลาดดาวรุ่ง ออกมาจับกลุ่มหนุ่มสาวนักกล้ามที่เล่นฟิตเนสมากขึ้น ในปี 2559 มีมูลค่าตลาด 360 ล้านบาท มีการคาดการณ์จะเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 15-20%

โดยแบรนด์ผู้เล่นใหญ่ในตลาดคือเมจิส่งเครื่องดื่มไฮโปรตีนมาได้ 1-2 ปีแล้ว และมีแบรนด์ย่อยๆ ในตลาดอีก ทำให้ในปีนี้มีผู้เล่นเพิ่มมากขึ้นทั้งดัชมิลล์และดีน่า

รวมทั้งทิปโก้เองก็ได้แตกพอร์ตมายังเครื่องดื่มไฮโปรตีน ปั้นแบรนด์ทิปโก้ บีท” ลงตลาด ได้ใช้จุดเด่นเป็นสกัดโปรตีนจากถั่วพีสีเหลือง หรือถั่วลันเตา เป็นการสร้างความแตกต่างจากเครื่องดื่มไฮโปรตีนอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่จะใช้นมวัวเป็นวัตถุดิบหลัก และผสมเวย์โปรตีน จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบออกกำลังกาย ผู้เล่นฟิตเนสจะนิยมดื่มเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ อายุ 20-45 ปี

เป็นการแตกไลน์มายังเครื่องดื่มสุขภาพมากขึ้น หลังจากเมื่อต้นปีได้เปิดตัวทิปโก้ เวฟ เครื่องดื่มเกลือแร่ จับกลุ่มคนออกกำลังกายเช่นกัน โดยขยายฐานสินค้าให้มากกว่าแค่น้ำผลไม้ที่เป็นรายได้หลัก

ทิปโก้มองว่ายุคนี้เป็นยุคสำหรับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะเครื่องดื่มไฮโปรตีน เพราะคนดูแลสุขภาพมากขึ้น ออกกำลังกายมากขึ้น และมีการคาดการณ์ว่าตลาดเครื่องดื่มไฮโปรตีนในระดับทั่วโลกมีการเติบโต 10.56% ในช่วงปี 2560-2564

แต่เทรนด์โลกก็มีการเปลี่ยนแปลง แหล่งโปรตีนในอาหารเริ่มมีการสกัดจากพืชมากขึ้น เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา มีสัดส่วน 20% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมี 18% โดยส่วนใหญ่โปรตีนจะมาจากเนื้อสัตว์ นม ไข่ ราว 80% ทิปโก้จึงเลือกเครื่องดื่มไฮโปรตันที่สกัดจากถั่วลันเตา เพราะเป็นเทรนด์ที่มีการเติบโต

เอกพล พงศ์สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าด้วยเทรนด์การดูแลสุขภาพของผู้บริโภคมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ทำให้ต้องมีสินค้าใหม่ๆ ออกมาเพื่อตอบโจทย์ เครื่องดื่มไฮโปรตีนกำลังเป็นที่ต้องการในตลาด เพราะคนออกกำลังกายเพิ่มขึ้น และต้องการทางเลือกแทนการดื่มเวย์โปรตีน

ได้ใช้งบลงทุน 50 ล้านบาทในการทำการตลาด และได้เลือกน้ำตาลชลิตา ส่วนเสน่ห์มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปี 2016 เป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะไม่ใช่แค่ความสวยอย่างเดียว แต่มีคาแร็กเตอร์ ความมั่นใจ และทัศนคติในการใช้ชีวิต และการออกกำลังกาย เป็นตัวแทนสาวไทยที่ต้องสวย และแข็งแกร่งด้วย

สาเหตุที่ใช้พรีเซ็นเตอร์ผู้หญิงเพราะต้องการจับกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น ยุคนี้ผู้หญิงก็ออกกำลังกายมากขึ้น ส่วนผู้ชายมีความรู้ความเข้าใจเรื่องเครื่องดื่มไฮโปรตีนอยู่แล้ว หรือปกติดื่มเวย์โปรตีนอยู่แล้ว อาจจะเอาตรงนี้มาเป็นทางเลือกมากขึ้น

ตั้งเป้ารายได้ 250 ล้านบาท ภายใน 3 ปี และมีส่วนแบ่งตลาด 30% ในตลาดเครื่องดื่มไฮโปรตีน