ไขรหัสลับ เทสโต

หลังจากใช้เวลาร่วม 2 ปี มันฝรั่งทอดกรอบเทสโตก็ได้ฤกษ์เปิดตัวการปรับ Brand Essence ใหม่ ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2539 เป็น “เทสโต เผยรหัสลับแห่งรส” จากเดิม “ความอร่อยเฉพาะตัวที่พลาดไม่ได้” โดย Positioning ของแบรนด์ใหม่ให้เป็นขนมสำหรับ Gen I (Idea-Innovation-Inspiration) ที่ชื่นชอบการแสวงหาเพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับชีวิต โดยหยิบยกเอาจุดกำเนิด เส้นทางการสร้างสรรค์แต่ละรสชาติมานำเสนอผ่านแพ็กเกจจิ้งซึ่งเป็นจุดที่ผู้บริโภคใกล้ชิดมากที่สุด

เพื่อแสดงให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ถึงการทุ่มเทมาถ่ายทอดผ่านทุกมิติการสื่อสาร ตั้งแต่ลวดลายและข้อความบนแพ็กเกจจิ้งที่ดูพรีเมียมขึ้น เช่น รสบาร์บีคิว มีรูปของคาวบอยเท็กซัสประกอบซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ขณะที่ลวดลายบนแพ็กเกจจิ้งจะมีแผนที่ทวีปอเมริกาใต้โดยโฟกัสที่ประเทศเปรู ซึ่งว่ากันว่า เป็นประเทศแรกที่นำมันฝรั่งมาทอดกรอบ

“การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ได้ลดอายุกลุ่มเป้าหมายลงมาจากที่เริ่มต้น 15 ปี มาตั้งต้นที่ 13 ปี และขยายขอบเขตอายุของเป้าหมายจากสิ้นสุดที่ 25 ปี เพิ่มเป็น 35 ปี ขณะที่เลย์พยายามทำตัวเด็กลง” ปฐพงศ์ เอี่ยมสุโร รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) บอก

ทั้งนี้การสื่อสารผ่านทาง TVC โดยใช้ฟิล์ม รัฐภูมิ เป็นพรีเซ็นเตอร์เช่นเคย มุ่งเจาะกลุ่มวัยรุ่นอายุ 19-23 ปี ซึ่งเป็น Core Target โดยพยายามบาลานซ์ภาพลักษณ์ไม่ให้ดูเด็กหรือแก่จนเกินไป ขณะที่การสนับสนุนรายการทีวีและสื่อดิจิตอลยังคงให้ความสำคัญกับกลุ่มเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาเป็นหลัก เช่น สนับสนุนรายการรถโรงเรียน โฆษณาออนไลน์ใน Dek-d, Sanook และ Exteen

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมลุ้นโชคไปทัวร์ไร่มันสำปะหลังของเทสโต ที่เชียงรายด้วย โดยใช้งบในการรื้อแบรนด์ครั้งนี้ 50 ล้านบาท

ปฐพงศ์ตั้งเป้าไว้ว่า ภายในพฤษภาคม 2552 ส่วนแบ่งการตลาดของเทสโตจะเพิ่มขึ้นจาก 26% เป็น 30% จากการยกเครื่องครั้งใหญ่นี้

ปัจจุบันเทสโตจำหน่าย 3 ขนาด คือ 15 กรัม ราคา 5 บาท ซึ่งเป็นขนาดที่ขายดีที่สุด โดยส่วนใหญ่ยอดขายจะมาจากช่องทาง TT เนื่องจากราคาเพียง 5 บาท เป็น Convenience Coin

ขณะที่รสชาติที่ขายดีที่สุดคือ ปูผัดผงกระหรี่ ตามด้วยสาหร่ายญี่ปุ่น และบาร์บีคิว แมกซ์ โดย 3 รสชาติหลักทำยอดขายให้กับเทสโตกว่า 70% ส่วนอีก 8 รสชาติที่เหลือทำยอดขาย 30%

“มันฝรั่งทอดกรอบมีแฟนประจำของใครของมันชัดเจน” ดังนั้นการแย่งลูกค้าของคู่แข่งจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

แม้ตลาดมันฝรั่งจะเติบโต 7% ลดลงจากเดิมที่เคยเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก แต่ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจและการเมืองเช่นนี้ ก็ถือว่ายังไปได้สวย เพราะขนมขบเคี้ยวเป็นรายจ่ายเพื่อความสุขเล็กๆ น้อยๆ

ตลาดขนมขบเคี้ยวปี 2551 มูลค่า 15,000 ล้านบาท (ประมาณการ)
ขนมขึ้นรูป 35%
มันฝรั่ง 32%
อื่นๆ 33%

ส่วนแบ่งการตลาดมันฝรั่งทอดกรอบ (by brand)
เลย์ 60%
เทสโต 26%
อื่นๆ เช่น คารามูโจ้ ก๊อบ ก๊อบ 14%

สัดส่วนยอดขายมันฝรั่งทอดกรอบ (by channel)
Traditional Trade 40%
Modern Trade 60%

Did you know?
เบอร์รี่ ยุคเกอร์ เป็นผู้วางตลาดให้เลย์ในประเทศไทย ก่อนที่จะยุติการเป็นบริษัทร่วมทุน จนกระทั่งเริ่มทำเทสโต แบรนด์ของตัวเอง เมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา