กางโรดแมปลงทุนพันล้าน ภารกิจปั้นตลาดนมให้โต MD ใหม่ โฟร์โมสต์

ดูเหมือนว่าภาพรวมของตลาดนมพร้อมดื่มในปีนี้ไม่ค่อยสู้ดีมากนัก ครึ่งปีแรกมูลค่าตลาดมีการติดลบ 3% ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ตลาดนมไม่มีการเติบโตมาจากปัจจัยหลักเรื่องเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร และในตลาดไม่ค่อยมีนวัตกรรมใหม่ๆ

ในปี 2559 มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 61,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่เลยทีเดียว การแข่งขันก็ยังคงร้อนแรงมีแบรนด์ใหญ่ในตลาดอยู่ 5-6 แบรนด์ ต่างงัดไม้เด็ดออกมาเพื่อสร้างการเติบโตให้ตนเอง

กลายเป็นความท้าทายหลักให้โฟร์โมสต์ภายใต้บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด ที่ต้องสร้างการเติบโตในตนเองด้วยเช่นกัน ในสภาวะที่ตลาดไม่มีการเติบโต

ในปีนี้ฟรีสแลนด์ฯ ได้มีการแต่งตั้งวิภาส ปวโรจน์กิจลูกหม้อเก่าที่อยู่กับบริษัทมา 12 ปี ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการคนไทยคนใหม่ ถือเป็นคนไทยคนที่ 2 ที่ขึ้นตำแหน่งนี้ ภารกิจแรกได้เผยโรดแมปแผนธุรกิจสู่ปี 2020 ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท

ภายใต้งบลงทุนนี้ขยายกำลังการผลิตให้กับโรงงานทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ โรงงานสำโรง สมุทรปราการ ไลน์ผลิตนมยูเอชที นมข้น และโยเกิร์ตพร้อมดื่ม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 360,000 ตันต่อปี และโรงงานหลักสี่ กรุงเทพฯ ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ โยเกิร์ตแบบถ้วย และพร้อมดื่ม มีกำลังการผลิต 87,000 ตันต่อปี ซึ่งทั้ง 2 แห่งมีอัตราการผลิตที่ 70-80% แล้วต้องทำการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

การลงทุนใหม่คาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้ 30-40% จะแบ่งเป็น 3 เฟสใหม่ เน้นที่ไลน์ผลิตนมยูเอชที และนมข้น รวมถึงมีการปรับปรุงไลน์ผลิตเดิมให้ทันสมัยด้วย

นอกจากเรื่องการลงทุนเรื่องการผลิต ความท้าทายสำคัญของโฟร์โมสต์ก็คือการสรรหาสินค้าใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนตลาด ต้องมีสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้ เพราะผู้บริโภคยุคนี้ต้องการทดลองสินค้าใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่ด้วยความเป็นบริษัทต่างชาติอาจจะต้องรอการอนุมัติสินค้าจากบริษัทแม่ก่อน

ที่ตลาดไม่เติบโตหลายคนมองว่าเป็นเพราะตลาดอิ่มตัว แต่จริงๆ แล้วคนที่อิ่มตัวคือนักการตลาด ต้องมีสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็จะไม่ซื้อ ปัจจุบันตลาดนมยังติดอยู่ที่กลุ่มคนดื่มคือกลุ่มเด็ก และกลุ่มครอบครัวเป็นหลัก ตอนนี้กำลังตกผลึกอยู่ว่าจะแตกไปกลุ่มอื่นอย่างไรได้บ้าง กลุ่มที่น่าสนใจคือกลุ่มสปอร์ต และผู้สูงอายุวิภาสได้ฉายภาพตลาดให้ฟัง

กลุ่มสินค้าที่ทางฟรีสแลนด์ฯ สนใจมากที่สุดในตอนนี้เป็นกลุ่มสปอร์ต และกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นเทรนด์ในระดับโกลบอล กลุ่มสปอร์ตจะเป็นนมที่มีโปรตีนสูงสำหรับผู้ออกกำลังกาย ตอนนี้ได้ทดลองตลาดด้วยแบรนด์ V Fit เปิดตัวที่ประเทศฮอลแลนด์ไปแล้วเมื่อไม่กี่เดือน ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุจะเป็นนมเสริมแคลเซียมสำหรับผู้ใหญ่อายุ 40 ปีขึ้นไป ได้ทดลองตลาดด้วยแบรนด์ Optimel ที่ประเทศฮ่องกง ยังต้องดูผลตอบรับว่าจะขยายไปประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยหรือไม่

กะเทาะตลาดนม

วิภาส วิเคราะห์ถึงภาพรวมของตลาดนมที่แม้จะไม่เติบโต แต่กลุ่มนมสำหรับเด็กมีการเติบโตมากที่สุด มาจากพฤติกรรมของคุณแม่ยุคใหม่ที่มีการหยุดการให้ดื่มนมผงเร็ว และหันมาให้ลูกดื่มนมพร้อมดื่ม หรือนมน้ำแทน

ส่วนกลุ่มเมนสตรีมกลุ่มนมพาสเจอร์ไรส์มีการเติบโตได้ดี มีการแตกเซ็กเมนต์ย่อยเยอะ และเสริมฟังก์ชันนอล หรือคุณประโยชน์อื่นๆ เข้าไปมากขึ้น เพราะผู้บริโภคยุคนี้ต้องการทดลองสินค้าใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

ภาพรวมรายได้ครึ่งปีแรกของฟรีสแลนด์ฯ มีการเติบโต 3% ตั้งเป้าทั้งปีเติบโต 5% รวมถึงอีก 3 ปีข้างหน้าด้วย และรายได้จากส่งออกโต 20%

ปัจจุบันฟรีสแลนด์ฯ ประเทศไทยมีสินค้า 4 กลุ่ม ได้แก่ นมเมนสตรีม นมยูเอชทีรสชาติต่างๆ มีสัดส่วนรายได้ 45% นมสำหรับเด็ก 20% นมข้น 20% และนมพาสเจอร์ไรส์ 15%