ได้เวลาบุกตลาดเมือง

สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น และสิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ

ทั้งกลยุทธ์ “ปากว่า” ที่ให้พนักงานมายืนอธิบายตามจุดต่างๆ “ตาเห็น” ที่ปักป้ายแสดงรายละเอียดบริเวณแปลงผักและดอกไม้แต่ละชนิด และ “มือคลำ” ที่มีแปลงผักให้ทดลองตัดได้จริง ล้วนถูกนำมาใช้ในงานเจียไต๋แฟร์เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภค

งานเจียไต๋แฟร์เป็นงานท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ 2 ปี ตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา โดยปีนี้เจียไต๋รุกไปข้างหน้าอีกหนึ่งสเต็ปด้วยการดึงพันธมิตรอย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและไปรษณีย์ไทยเข้ามาร่วมด้วย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยช่วยสนับสนุนทางด้านการประชาสัมพันธ์ ด้วยการลงโฆษณาผ่านเว็บไซต์ ลงประชาสัมพันธ์ในนิตยสาร อสท. นำโบรชัวร์กระจายไปยังสำนักงาน ททท.ทั่วประเทศ และยังจัดแรลลี่มาแวะเยี่ยมชมงานเพื่อร่วมสร้างประสบการณ์อีกส่วนหนึ่ง
ด้านไปรษณีย์ไทยร่วมสร้างประสบการณ์ให้กับคนเมืองที่ไม่ได้มาร่วมงาน โดยอาศัยจุดแข็งคือความเชี่ยวชาญในการจัดส่งอาหารในโครงการอร่อยทั่วไทย ขันอาสาจัดส่งเมล่อนผลไม้เลื่องชื่อของเจียไต๋ในช่วงงานแฟร์ ซึ่งคาดว่าจะได้การตอบรับหลายร้อยออร์เดอร์
ทั้งยังมาร่วมตั้งบูธถ่ายภาพแสตมป์ส่วนตัวเพื่อสร้างประสบการณ์ให้คนที่มาร่วมงาน เสริมด้วยการจำหน่ายแสตมป์ที่เกี่ยวข้องกับพืชผักต่างๆ และรับจัดส่งสินค้าที่อยู่ภายในงานด้วย

“เราต้องการผู้ช่วยเพื่อสร้างความเข้มแข็งในการจัดงาน เพราะเราต้องการประชาสัมพันธ์เปิดตัวองค์กรมากขึ้น ให้คนในเมืองรู้จักว่า เราคือใคร ทำอะไร และรู้ว่าพืชผักคุณภาพที่อยู่ในท้องตลาดมีจุดกำเนิดมาจากที่นี่” วินิจ ชวนใช้ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจียไต๋ จำกัด ในฐานะประธานจัดงานเจียไต๋แฟร์ 2009 กล่าวถึงการดึงพันธมิตรทั้งสองมาร่วมงานในครั้งนี้

ส่วนเหตุผลที่ทำให้เจียไต๋เปิดตัวเข้าหาคนเมืองมากขึ้น เพราะเจียไต๋มีความเข้มแข็งในตลาดต่างจังหวัดอยู่แล้ว ครองมาร์เก็ตแชร์ของตลาดเมล็ดพันธุ์ผักได้กว่า 70% เจียไต๋จึงวางแผนรุกตลาดเมืองมากขึ้นด้วยการนำเสนอด้วยโปรดักส์ใหม่ๆ เช่น เมล็ดพันธุ์ผักที่สามารถปลูกได้ง่ายๆ ในกระถางต้นไม้ และการทำข้อตกลงร่วมกับห้างสรรพสินค้าต่างๆ เพื่อให้ห้างหาเวนเดอร์ผู้ปลูกผักขึ้นห้าง โดยมีเจียไต๋เป็นผู้ซัพพลายเมล็ดพันธุ์ผักให้ เป็นต้น

“วันหนึ่งผู้บริโภคจะมีส่วนร่วมในการเลือกสินค้ามากขึ้น คือถ้าเขากินผักเข้าไปแล้วท้องเสียก็สามารถเคลมกับแหล่งผลิตได้ เทรนด์ในประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นอย่างนั้น ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น สักวันบ้านเราก็ต้องเป็นอย่างนั้น”

เจียไต๋จึงวางแผนรุกตลาดเมืองถึงขั้นมีโฆษณาโทรทัศน์ในสักวันหนึ่ง แต่เมื่อวันนี้เทรนด์ยังไม่มา ก็รุกด้วย Experience Marketing แบบงานแฟร์ไปพลางๆ

จำนวนผู้เข้าร่วมชมงานเจียไต๋แฟร์ในแต่ละปี
ปี จำนวนผู้เข้าชมงาน
2001 10,000 คน
2003 30,000 คน
2005 60,000 คน
2007 90,000 คน
2009 120,000 คน

Did you know?
ประเทศไทยเกินดุลการค้าเมล็ดพันธุ์ผักประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี