โก๋แก่ ต้องหนุ่มขึ้น

อยู่ดีๆ แบรนด์ถั่วลิสงอบกรอบตรา “โก๋แก่” ที่หลับใหลจากการทำการตลาดมานาน ลุกขึ้นมาเปิดตัวแคมเปญล่าสุดที่เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา เพราะลงทุนเนรมิตลานหน้าห้าง Central World ให้กลายเป็นลานของวัยรุ่น พร้อมกับหอคอยสูง 15 เมตร เพื่อใช้เป็นการแข่งขัน “โดด งับ รับ ล้าน” ที่ จุมภฎ รวยเจริญทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงงานแม่รวย จำกัด บอกว่า เป็นแคมเปญแรงที่สุดของโก๋แก่เพราะทุ่มงบกว่า 40 ล้านบาท คิดเป็น 50% ของงบการตลาดทั้งปี 2552 ที่วางไว้ 80 ล้านบาท

“ทุ่มเงินเยอะขนาดนี้เชื่อว่า การทำแบบตูมเดียวจะกลายเป็น Talk of the town เป้าหมายของเราคือการเพิ่มยอดขาย 15% เพื่อทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูเด็กและทันสมัยมากขึ้น ด้วยกิจกรรมที่หวังว่าจะได้ใจกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น รวมถึงฐานลูกค้าเดิมที่เป็นผู้ใหญ่ ที่ซื้อถั่วลิสงไว้เป็นกับแกล้ม หรือติดบ้าน” จุมภฎบอกถึงเหตุผล

ช่องทางสำคัญของโก๋แก่อยู่ที่ Traditional Trade ถึง 55% ลดลงจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 60% โดยมีสินค้าราคา 5 บาท เป็นหัวหอกเจาะช่องทางนี้ ส่วนที่ลดลงนั้นเพราะการบุกตลาดด้วยสินค้าราคา 20 บาท และมีไลน์สินค้าใหม่ในเซเว่นเพิ่มขึ้นอีก 3 รสชาติ ชี้ให้เห็นว่าโก๋แก่เริ่มขยับเข้ามาอยู่ในเมือง พร้อมกับช่องทางใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม สถานบันเทิง หรือสปา ก็เป็นช่องทางให้โก๋แก่เติบโต

จุมภฎ บอกว่า จุดอ่อนของโก๋แก่คือ ความสับสนของผู้บริโภค เนื่องจากความหลากหลายในตัวสินค้าที่มีอยู่ 16 รสชาติ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะกับสินค้าได้ โดยที่ผ่านมากผู้บริโภคส่วนใหญ่จะรู้จักแค่ว่า โก๋แก่ คือถั่วเคลือบกะทิ และถั่วเคลือบรสกาแฟเท่านั้น

การจัดหมวดหมู่สินค้าใหม่ (Category) จึงเป็นทางออกที่ทำให้โก๋แก่วางจุดยืน และกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแบ่งสินค้าออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ถั่วลิสงเคลือบ เจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น 2.ถั่วเปลือย อาทิ ถั่วลิสง ถั่วปากอ้า ถั่วลันเตา เป็นกับแกล้ม จับกลุ่มเป้าหมายสถานบันเทิง ผับ บาร์ 3.ถั่วไม่เคลือบระดับพรีเมียม เช่น เม็ดอัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ และวอลนัท จับกลุ่มคนรักสุขภาพซึ่งเป็นกระแสที่มาแรงในยุคนี้และมีอัตราการเติบโตสูงถึง 49%

“แต่ก่อนคนทานสแน็คเพราะอารมณ์ แต่เดี๋ยวนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนเริ่มหันมาเน้น Function มากขึ้น ทำให้เราต้องเพิ่มฉลากที่มีส่วนผสมและประโยชน์เข้าไป และลดตัวโลโก้ของโก๋แก่ให้เล็กลงกว่ากลุ่มถั่วเคลือบ” จุมภฎบอกถึงพฤติกรรมของกลุ่มรักสุขภาพที่ไม่ได้สนใจในแบรนด์โก๋แก่แล้ว

ขณะที่ตลาดต่างประเทศก็เป็นเป้าหมายสำคัญ เพราะที่ผ่านมาสัดส่วนรายได้จากตลาดนี้มีถึง 20% และอัตราการเติบโตอยู่ที่ 15% โดยตลาดหลักอยู่ ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี แอฟริกา ฝรั่งเศส แคนาดา และเยอรมัน รวมแล้วกว่า 70 ประเทศ

จากนี้ไป โก๋แก่จะใช้งบรวม 80 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดตลอดทั้งปี เชื่อว่าจะกระตุ้นตลาดถั่วลิสงให้เติบโตและตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 ล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาดเป็น 80% จาก 73% และการไปงานสแน็คระดับโลกอย่าง Sial Snack ที่ปารีส และ Anuga Snack ที่เยอรมัน จะเป็นแหล่งที่เพิ่มพูนความรู้สู่การพัฒนารสชาติใหม่ๆ ของโก๋แก่ และทำให้เติบโตขึ้นในอนาคต

ตลาดรวมขนมขบเคี้ยว ปี 2552 มูลค่า 16,000 ล้านบาท (by segment)
มันฝรั่ง 40%
ขนมขึ้นรูป 30%
ปลาเส้น 10%
ข้าวเกรียบกุ้ง 10%
ถั่ว 10%

Profile
ถั่วลิสงอบกรอบตรา “โก๋แก่” เกิดในยุคของ “มาม่า” และ “ไวไว” เมื่อราวๆ ปี 2509 การตั้งชื่อแบรนด์ว่า “โก๋แก่” เพราะต้องการความแปลกใหม่ สั้นๆ จำง่าย ซึ่งมีความหมายว่า พี่ใหญ่ ในภาษาจีนออกเสียง “ต้า เกอ”

People
จุมภฎ รวยเจริญทรัพย์ หรือ ต้น เป็นลูกชายคนโตของ ชูเกียรติ รวยเจริญทรัพย์ ที่เข้ามารับผิดชอบบริหารงานภาพรวมของบริษัท และตลาดต่างประเทศ ตั้งแต่อายุ 24 ปี หลังจบปริญญาตรีและโทจากมหาวิทยาลัยชิลเลอร์ ประเทศอังกฤษ สาขาวิชา Inter Business แม้จะเป็นนักธุรกิจเต็มตัว แต่จุมภฎก็ชื่นชอบการวาดรูป สีน้ำมัน และสีอะคริลิก สนใจทำหนังสั้น พวกหนังอินดี้ ใช้กล้องแฮนดี้แคม เขียนสคิปต์-ตัดต่อเอง และกำลังเริ่มเขียนหนังสือ