ขยายกลุ่มเป้าหมาย

ด้วยอุณหภูมิที่สูงถึง 37 องศาเซลเซียส ส่งผลให้สงครามแป้งเย็นร้อนระอุมากกว่าปีไหนๆ เมื่อค่ายเบอร์หนึ่งอย่างโพรเทคส์ส่งหนังโฆษณานำ ป๋อ ณัฐวุฒิ เป็นพรีเซ็นเตอร์กระตุ้นยอดขายก่อนใครเพื่อนเพื่อรักษาแชมป์ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 30% ถัดมาไม่กี่สัปดาห์โอสถสภาก็ส่ง “ทเวลฟ์ พลัส แป้งเย็น เอ็กซ์ตร้า คูล” ลงทุนสร้างเวทีคอนเสิร์ต ณ ลานพาร์คพารากอน พร้อมเปิดตัว 3 หนุ่มหล่อจากแดนกิมจิพรีเซ็นเตอร์เป็นปีที่ 3 กับ พีค ภัทรศยา ซึ่งทำให้สยามพารากอน เต็มไปด้วยบรรดาแม่ยกตัวน้อยนับ 500 ชีวิต

ที่ต้องลงทุนขนาดนี้ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม คือกลุ่มวัยรุ่นอายุ 12-18 ปี และยังต้องการขยายไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ในมหาวิทยาลัย วัยทำงานอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ชาย ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของทเวลฟ์ พลัส แบรนด์ ที่มีภาพลักษณ์ แป้งของกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงมาโดยตลอด

“ตลาดแป้งเย็นสาววัยรุ่นเรากินหมดแล้ว ที่เหลือต้องขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ไปสู่กลุ่มมหาวิทยาลัยถึงวัยเริ่มทำงานอายุ 19-22 ปี รวมไปถึงกลุ่มครอบครัวและผู้ชาย” วิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการตลาด บริษัท โอสถสภา จำกัด บอกถึงการขยายกลุ่มเป้าหมายครั้งนี้

สาเหตุที่ทำให้ วิเชียร มั่นใจมากขนาดนี้ เพราะผลสำรวจของทเวลฟ์ พลัส ยืนยันว่ายังไงกลุ่มวัยรุ่นไทย 60% ชื่นชอบนักร้องชายจากแดนโสม ฟากตัวแทนผู้หญิงกลุ่มนี้ยังนิยมผู้หญิงไทยด้วยสัดส่วนเดียวกัน จึงทำให้หนังโฆษณาของทเวลฟ์ พลัส เป็นส่วนผสมที่ลงตัว และพลังของพรีเซ็นเตอร์จากเกาหลีทำให้ภาพรวมของยอดขายโต 40% และปีนี้คาดว่าน่าจะโตเหมือนปีที่ผ่านมาเช่นกัน

เมื่อโจทย์ครั้งนี้ท้าทายกว่าเก่า งานนี้จึงลงทุนภายใต้งบราว 100 ล้านบาท สร้างหนังโฆษณาให้ ซอย ซีวอน, คิม ฮีซอล และเยซอง พรีเซ็นเตอร์ทั้งสามคน เป็นผู้ใช้โปรดักส์แทนพีค ภัทรศยา เหมือนที่เคยมีมา เพื่อหวังเป็นตัวแทนของกลุ่มเป้าหมายใหม่ผู้ชาย โดยภายในปีนี้จะมีหนังโฆษณาออกมาตอกย้ำอีก 2-3 เรื่อง

เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้ดียิ่งขึ้น จึงต้องนำแป้งเย็นทเวลฟ์ พลัส เอ็กซ์ตร้า คูล สีฟ้าให้เป็นตัวแทนในการเจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัว และกลุ่มผู้ชายเป็นหลัก ส่วนแป้งเย็นทเวลฟ์ พลัส สีชมพู เจาะกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งได้เตรียมโรดโชว์แจกสินค้าตัวอย่าง และส่งเสริมภาพลักษณ์ให้แป้งสีฟ้าเป็นแป้งสำหรับผู้ชาย โดยเน้นสร้างการรับรู้ในตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก

ด้วยอากาศที่ร้อนมากขึ้นของปีนี้ ส่งผลให้ตลาดแป้งเย็นมีโอกาสเติบโตถึง 3-5% มีมูลค่า 1,300 ล้านบาทจากปีที่ผ่านมาติดลบ 4-5% ประกอบกับเศรษฐกิจที่ยังไม่นิ่ง ทำให้ต้องงัดกลยุทธ์ลดราคา แถมของพรีเมียม เพื่อช่วงชิงกำลังการซื้อของผู้บริโภคจากคู่แข่ง ที่ทำสินค้าแพ็กคู่มาตีตลาดช่วงหน้าร้อนนี้

เนื่องจากการใช้พรีเซ็นเตอร์แบบอินเตอร์ ทำให้เป็นที่รู้จักกันมากในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วิเชียร เชื่อว่าอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะพร้อมรุกตลาดนี้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้ 10% ก็มาจากตลาดนี้ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับรายได้ของกลุ่มทเวลฟ์ พลัส ปีนี้ตั้งเป้าโต 11-12% หรือมีรายได้ 1,000 ล้านบาท

มูลค่าตลาดแป้งเย็น 1,300 ล้านบาท คาดว่าโตจากปี 2552 3%
โพรเทคส์ 30%
ทเวลฟ์ พลัส 24%
ตรางู 22%
อื่นๆ 24%

มูลค่าตลาดโคโลญจ์ 400-500 ล้านบาท ไม่เติบโต
ทเวลฟ์ พลัส 60%
เอเวอร์เซนจ์ 20%
อื่นๆ 20%

มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย 1,000 ล้านบาท ไม่เติบโต
นีเวีย 40%
ทเวลฟ์ พลัส 20%
อื่นๆ 20%
ที่มา : ทเวลฟ์ พลัส