วิทวัส สุนทรวิเนตร์ Mass Guru

POSITIONING พบกับ “วิทวัส สุนทรวิเนตร์” ในตอนเย็นของวันจันทร์ที่ 27 เมษายน ที่สตูดิโอ เซ็นทรัลพระราม 2 สถานที่อัดรายการตีสิบ ออกอากาศสี่ทุ่มครึ่งทุกวันอังคาร ซึ่งได้กลายเป็น “สมรภูมิ” บนจอทีวีที่เดือดพล่านที่สุด สำหรับวิทวัสแล้ว 11 ปีของการยืนหยัด ในฐานะผู้ผลิตรายการที่มีผู้ชมมากที่สุดรายการหนึ่ง คงบอกได้ดีว่า เขาจัดเป็นทรงอิทธิพลเพียงใด

วิทวัส หรืออีกชื่อหนึ่งที่เรียกขานกันว่า “วีที” เป็นผู้ให้กำเนิด “รายการตีสิบ” ซึ่งออกอากาศทุกคืนวันอังคาร 22.30 น. ถึง 00.30 น. คำว่า ตีสิบ หรือ At Ten เป็นการตั้งชื่อรายการง่ายๆ เพราะเวลาออกอากาศเมื่อแรกเริ่มนั้นคือ 22.00 น. แม้ปัจจุบันเวลาออกอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปแต่ชื่อรายการก็ยังคงเป็นตีสิบอยู่เช่นเคย

รายการสำเร็จขนาดนี้ หากเป็นผู้ผลิตคนอื่นอาจมีรายการในมือมากมาย แต่สำหรับวิทวัสแล้ว ตีสิบ เป็นเพียงรายการเดียวของบริษัท ทเวนตี้ ทเวนตี้ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ที่อยู่มากว่าทศวรรษ แต่การจับกระแสมานำเสนอจนกลายเป็นประเด็นถกเถียงในวงกว้างหลายต่อหลายครั้ง เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความสามารถของเขาในวงการบันเทิงได้เป็นอย่างดีว่าเป็น Mass Guru ที่ทรงอิทธิพลเพียงใด

ประเด็นที่หยิบยกมาพูดคุยในช่วงสนทนาของรายการตีสิบ ดูจะไร้ขอบเขต แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ – ปัญหาครอบครัว – เรื่องคนแปลกๆ – คนดังที่หายไป – ข่าวหน้าหนึ่งที่โดนใจ “ชาวบ้าน” แม้เขาจะไม่เคยให้คำนิยามว่า กลุ่มเป้าหมายของเขาคือ “ชาวบ้าน” แบบไหนก็ตาม

“วาไรตี้” เกลื่อนจอ แต่ทำไม “ตีสิบ” ดังได้ดังนาน

ในผังรายการของทีวีทุกช่องล้วนมีรายการวาไรตี้เป็นหนึ่งในนั้น และนับเป็นรายการที่มีจำนวนมากเป็นลำดับๆ ต้น ออกอากาศทั้งช่วง Prime time และ Non-prime time แต่มีน้อยรายการที่จะทรงอิทธิพลต่อคนดู และสามารถสร้างกระแส Talk of the town ได้ทันทีหลังจากรายการออกอากาศ ทั้งในเว็บบอร์ด รวมถึงวงสนทนาทั่วไป

รายการตีสิบ คือตัวอย่างที่ชัดเจน ภายใต้การนำของวิทวัสซึ่งเป็นทั้งเจ้าของและพิธีกรซึ่งเป็นคน “เคาะ” เลือกเรื่องที่จะนำเสนอทุกครั้ง

“การเลือกประเด็นไม่ได้เล็งผลเลิศว่าจะต้องเป็น Talk of the town ขนาดนั้น เพียงแต่เรานำเสนอเรื่องที่คิดว่าคนส่วนใหญ่สนใจ”

11 ปีของรายการตีสิบในช่อง 3 เปรียบเสมือนรายการเกรด A ของช่อง 3 เป็นหนึ่งในไม่กี่รายการของช่อง 3 ที่สามารถเอาชนะรายการจากช่อง 7 ได้ ในช่วงเวลาออกอากาศเดียวกัน หากจะบอกว่าตีสิบเป็นรายการลูกรักของช่อง 3 ก็ไม่ผิดนัก และความฮอตของตีสิบที่มีต่อเนื่อง แม้จะมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ แต่ที่แน่ๆ เป็นรายการที่เอเยนซี่ชื่นชอบ ด้วยเรตติ้ง 4-5 ซึ่งเรียกได้ว่า เอาคนดูอยู่

กับอีกหลายรายการวาไรตี้ที่เกิดแล้วดับ หรือที่อยู่ก็อยู่แบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ส่วนหนึ่งวิทวัสมองว่า เป็นเพราะการตีความคำว่า ปกิณกะ หรือวาไรตี้ที่แตกต่างกัน แต่โจทย์ของตีสิบคือ นำเสนอความหลากหลายที่ “ถูกจริต” ของคนดูส่วนใหญ่ทั่วประเทศ

“ผมไม่เคยวิเคราะห์ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร หลายคนบอกว่าเป็นกลุ่มแมสซึ่งก็คงจริง แต่เราไม่ได้มานั่งแยกแยะว่าเรื่องนี้ ประเด็นนี้ รู้แต่ว่าเราทำรายการวาไรตี้แนวบันเทิง และนำเสนอความหลากหลายในประเด็นต่างๆ ที่คาดว่าจะโดนใจคนดู คาดว่าเขาอยากจะติดตาม ในขณะเดียวกันก็ให้แง่คิดด้วย”

ดันดารา…ดันตีสิบ

บทสัมภาษณ์ครั้งนั้นวิทวัสเคยบอกว่า ช่วงดันดาราเปรียบเสมือนไข่ขาวที่ล้อมรอบไข่แดง ซึ่งเขาหมายถึงช่วงสนทนา แต่ทุกวันนี้คนดูจำนวนไม่น้อยที่ติดตามชมช่วงดันดารา และกลายเป็นกิจกรรมหน้าจอของหลายครอบครัวที่มีส่วนร่วมในการทายว่าใครคือตัวจริง จนทำให้วันนี้ดันดารากลายเป็นไข่แดงที่แม้จะมีหลายรายการทำตาม แต่ก็ไม่สร้างชื่อและได้รับความนิยมเท่ากับดันดารา ซึ่งเป็นภาคบันเทิงที่มีส่วนผสมของเพลงและตลกเข้าไว้ด้วยกัน

“ปัจจุบันดันดารามีอายุ 7 ปีแล้ว ทุกวันนี้ยังได้รับความนิยมอยู่ เพราะเป็นการโชว์ของคนทางบ้านที่สนุกและได้ทาย ได้ค้นหา ซึ่งเราก็ต้องพัฒนาต่อไป”

วิทวัส ไม่ใช่เป็นเพียงเจ้าของรายการและพิธีกรในห้องส่งเท่านั้น ในบางครั้งเขาร่วมโรดโชว์กับดันดาราสัญจรในต่างจังหวัดเพื่อคัดเลือกผู้สมัครด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับการลงลึกในรายละเอียดและไม่ปล่อยให้งานที่ไม่สมบูรณ์ผ่านไปง่ายๆ หรือได้พิจารณาว่า Timing ยังไม่เหมาะสม เขาเล่าว่าบางครั้งถึงกับต้องตัดต่อรายการใหม่กลางดึกวันจันทร์ซึ่งกว่าจะเสร็จก็คือบ่ายสามของวันอังคาร และจากนั้นก็เตรียมออกอากาศคืนวันอังคารเลย

ด้าน วัชรี คุปตารักษ์ โปรดิวเซอร์รายการตีสิบ บอกว่า ทีมดันดาราจะทำหน้าที่จับจุด Audience Insight เพื่อคัดเลือกหาบรรดา Wanna be เข้าสู่ช่วงดันดารา ด้วยคอนเซ็ปต์ “เสียงดี – มีลูกเล่น – สนุกสนาน” พร้อมกับเปลี่ยนกิมมิกในแต่ละสัปดาห์เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซากจำเจ

แม้ดันดาราจะเป็นเพียงช่วงหนึ่งของรายการตีสิบ ไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนกับรายการ Britai’s Got Talent รายการ Talent Show ที่โด่งดังของเกาะอังกฤษ

กระนั้นก็มีอิทธิพลต่อความใฝ่ฝันของคนไทยอีกหลายคนไม่น้อยที่หวังว่า ดันดาราจะทำฝันของพวกเขาให้เป็นจริง แต่ที่แน่ๆ ดันดารา ได้ดันให้รายการตีสิบติดลมบนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตัวตนของวิทวัสในตีสิบ

อย่าได้แปลกใจถ้าหลายช่วงหลายตอนของรายการตีสิบมักจะนำเสนอบทเพลง หรือเรื่องราวของนักร้องลูกทุ่ง และลูกกรุง เนื่องจากเป็นความชื่นชอบส่วนตัวของวิทวัส ที่หากจะว่าไปก็ยังถูกจริตกับคนดูจำนวนไม่น้อย

“ผมคนแก่คนหนึ่งที่ชอบเพลงลูกทุ่ง ชอบเพลงลูกกรุง ในช่วงดันดาราผมก็นำเสนออยู่บ่อยๆ รวมถึงในช่วงสนทนาด้วย”

คนดู คู่แข่งตัวจริง

ปัจจุบันรายการตีสิบเป็นรายการวาไรตี้ 2 ชั่วโมงรายการเดียวของช่อง 3 ระยะเวลาออกอากาศที่ไม่รวมโฆษณาที่เป็นเนื้อหาล้วนๆ มีราว 90 นาที เป็น 90 นาทีที่ไม่ง่ายนักที่จะทำให้คนดูอยู่กับเขาได้ตลอดรายการ

วิทวัสบอกว่าการทำงาน Commercial Art เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ มีความสนุก ความท้าทาย ในทุกเทป สนุกที่จะคาดเดาประเด็นว่าจะโดนใจคนดูแค่ไหน ท้าทายที่จะทำให้ดีกว่าเทปที่แล้วมา และสุดท้ายผลจะสะท้อนมาทางเรตติ้งและเสียงตอบรับ ตลอดจนคำวิพากษ์วิจารณ์จากจากคนดู

“เราทำรายการ Late Night Show ตลอด 11 ปีที่ผ่านมาของตีสิบ ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งมาโดยตลอด ไม่เฉพาะกับช่อง 7 แต่หมายถึงรายการของทุกช่องที่ออกอากาศในช่วงเดียวกันกับเรา ไม่ว่าคู่แข่งจะเป็นใครเราก็ต้องสู้เพราะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการต่อสู้กับ “ความง่วง” ของคนดู เพราะรายการฉายดึก ออกอากาศนาน 2 ชั่วโมง ทำยังไงให้คนดูอยู่กับเราได้ ทำยังไงให้เขาไม่ง่วง ทำให้เขาชอบ ถ้าชอบเขาก็ดูจนจบ นั่นคือโจทย์คือคู่แข่งที่ยาก”

อย่างไรก็ตาม “ชิงร้อยชิงล้าน” ก็กลายเป็นคู่แข่งที่ไม่เหมือนคู่แข่งรายใดที่ผ่านมา ช่อง 7 ส่งเกมโชว์ยอดนิยมปะทะรายการวาไรตี้เรตติ้งอันดับ 1 เมื่อช้างสารชนกันหญ้าแพรกก็แหลกลาญ รายการสี่ทุ่ม วันอังคารของช่องอื่นดูแทบจะหมดความหมายไปในทันที

กระนั้นวิทวัสมองต่างมุมว่า ด้วยความที่เป็นรายการที่มีคนดูจำนวนมากทั้ง 2 รายการ ซึ่งเป็นเพื่อนคนนอนดึก จะช่วยทำให้จำนวนคนดูที่ “ไม่ง่วง” ในคืนวันอังคารมีมากขึ้น แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือคนดูซึ่งเป็นแฟนคลับของทั้ง 2 รายการ อาจเกิดการรักพี่เสียดายน้อง กดเปลี่ยนช่องไปมา แต่บางครั้งยังตัดโฆษณาตรงกันอีก และในที่สุดแล้วทั้ง 2 รายการอาจไม่มีคนติดตามตั้งแต่ต้นจนจบได้แบบเต็มๆ เหมือนเคย

แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือ การแชร์เรตติ้งของทั้ง 2 รายการ ปัจจุบันเรตติ้งของรายการตีสิบอยู่ที่ประมาณ 4-5 ซึ่งเป็นเรตติ้งที่วิทวัสพอใจ ขณะที่บางเทปเคยขึ้นสูง 6-7 ก็มี ซึ่งการวัดพลังของแชมป์ชิงแชมป์นี้อาจจะต้องดูไปอีกสักระยะว่าสุดท้ายแล้ว ใครจะเป็นฝ่ายกำชัยหรือสุดท้ายแล้วอาจจะเจ็บตัวทั้งสองฝ่าย

รายการเดียวก็เกินพอ

“คิดไม่ออกว่าถ้าไม่ทำวาไรตี้จะทำรายการอะไร มีคนเสนอเยอะมาก แต่ผมอยากทำรายการเดียวแล้วอยู่ได้นาน ถูกถามอยู่เรื่อยๆ ว่าเมื่อไหร่จะทำรายการอื่นอีก มีคนมาเสนอก็เยอะ แต่ต้องยอมรับว่าผมยังคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะทำรายการอะไร ไม่รู้สึกว่าอยากทำ ทุกวันนี้ก็ทุ่มเทกับตีสิบรายการเดียวก็เหนื่อยแล้ว เพราะตีสิบคือวาไรตี้ที่มีความหลากหลาย ไร้ขีดจำกัด คิดอะไรได้ก็ใส่ลงไปในตีสิบ ไม่อยากมีหลายรายการ แล้วทำไม่ได้ดี สุดท้ายแทนที่จะเป็นเรื่องดี กลับกลายเป็นแย่”

ดังนั้นการทำธุรกิจแบบ Diversify คงไม่เกิดขึ้นกับผู้ชายที่ชื่อวิทวัส สุนทรวิเนตร์ ในเร็ววัน ซึ่งเขาบอกว่าอย่างน้อยก็ “จนกว่าจะมี Big Ideal” ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไป

แต่เวลานี้ 11 ปีของตีสิบกับการออกอากาศมาแล้วกว่า 500 ตอน และ 20 ในฐานะคนทำรายการโทรทัศน์ของวิทวัส เขายังไม่หมดไฟ และพร้อมที่จะระเบิดไอเดียให้โดนใจคนไทยส่วนใหญ่แบบ “อยู่หมัด” ต่อไป

เปิดใจมือขวาของวิทวัส

At Ten from Positioning Magazine on Vimeo.

เกือบ 20 ปีที่ กิ้งส์-วัชรี คุปตารักษ์ ทำงานร่วมกับวิทวัสมา จนเรียกได้ว่าเป็นมือขวาที่รู้ใจวิทวัสมากที่สุด จากตำแหน่งประสานงานในรายการสี่ทุ่มสแควร์ จากนั้น 3 ปีก็ได้เลื่อนชั้นเป็นโปรดิวเซอร์เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

รายการตีสิบเป็นวาไรตี้รูปแบบง่ายๆ มีเพียง 2 ช่วงใหญ่ๆ คือ ดันดาราและสนทนา

วัชรีบอกว่าช่วงที่มีคนดูมากที่สุดคือ “ดันดารา” ซึ่งเป็นพัฒนาการจากช่วงสมัครเล่นของสี่ทุ่มสแควร์

เธอเล่าอีกว่า ดันดารา สร้างแรงบันดาลใจให้พ่อแม่ ผู้ปกครองผลักดันให้ลูกหลานฝึกทักษะความสามารถพิเศษด้านการร้องเพลง ขณะเดียวกันดันดาราก็เป็นพื้นที่ของคนทุกเพศทุกวัยได้ “ปล่อยของ” เพราะเห็นตัวอย่างของการ “เกิด” อย่างโปงลางสะออน และอีกหลายๆ คนที่มีสังกัดและรอก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง

รายการตีสิบใช้กลยุทธ์โรดโชว์ไปรับสมัครดันดาราตามหัวเมืองใหญ่ๆ เฉลี่ยแล้วจะออดิชั่นได้ประมาณแห่งละ 40-50 คนต่อวัน ขณะเดียวกันก็มีการออดิชั่นที่ออฟฟิศเป็นประจำทุกสัปดาห์ด้วย โดยมี ปุ๊ย คืนสิทธิ์ เป็นคนดูแลโปรเจกต์นี้

เธอบอกว่าในส่วนของช่วงสนทนามีโจทย์สำคัญคือ ประเด็นที่นำเสนอจะต้องเป็นประเด็นที่น่าจะได้รับความสนใจจากคนส่วนใหญ่ในสังคม

“บันเทิงได้ แต่ต้องแฝงข้อคิดให้กับคนดูด้วย และจะเลือกประเด็นที่แม้จะเป็นเรื่องเหลือเชื่อแต่ต้องพิสูจน์ได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หาพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุดทำให้มีน้ำหนัก ไม่ล่องลอย ไม่ใช่เรื่องงมงายที่หาอะไรพิสูจน์ไม่ได้เลย”

แม้รายการตีสิบจะเป็นรายการที่มีชื่อเสียง และกลายเป็น “นามสกุล” ที่ใครๆ ก็รู้จักและเรียกขาน แต่เธอบอกว่าทุกวันนี้เมื่อต้องติดต่อไปสัมภาษณ์ใคร จะต้องเริ่มจากการแนะนำและสอบถามว่ารู้จักและเคยดูรายการตีสิบหรือไม่

“วีทีบอกว่าเราไม่ใช่รายการใหญ่ เราเป็นรายการๆ หนึ่ง มีรายการเดียวด้วย เหมือนเรามีหม้อข้าวหม้อเดียว ทำยังไงให้เราอยู่ได้และอยู่ได้นาน เขาเป็นนายที่ดี ครูที่ดี ไม่สั่งให้ทำ แต่จะสอน เป็นคนละเอียดทุกเม็ด ทุกขั้นตอน เพราะการทำรายการโทรทัศน์จะพลาดไม่ได้”

วัชรีเล่าถึงบอสคนนี้อีกว่า วีทีใจกว้างรับฟังความคิดเห็นของพนักงานทุกคน ด้วยการเปิดโอกาสให้ทุกคนเสนอไอเดียได้อย่างเต็มที่ แล้วมาถกกันอย่างถึงพริกถึงขิง แม้กระทั่งไอเดียของวีทีผู้เป็นนายเองก็เคยโดนตีกลับมาหลายครั้งแล้ว

“ขายงานไม่ผ่าน ห้ามท้อแท้ ห้ามทิ้ง เก็บไอเดียไว้สามารถนำมาใช้ได้เมื่อ Timing เหมาะสม”

Profile

Name : วิทวัส สุนทรวิเนตร์
Birth Date : 30 เมษายน 2497
Education :
จบมัธยมปลายที่โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย
ปริญญาตรี ศิลปศาสตร์ จาก CURTIN UNIVERSITY OF TECHNOLOGY รัฐ WESTERN AUSTRALIA ประเทศออสเตรเลีย
Career Higlights :
ART DIRECTOR รายการ MATCH MATES สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 SYDNEY AUSTRALIA
DESIGNER ฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 SYDNEY AUSTRALIA
ผู้รายงานพยากรณ์อากาศ ข่าว ช่อง 9
พิธีกรรายการคืนนี้ที่ช่อง 9 ช่อง 9 พิธีกรรายการที่นี่กรุงเทพ ช่อง 7 พิธีกรรายการสี่ทุ่มสแควร์ช่อง 7
กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอนสแตนท์ แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด
ปัจจุบัน พิธีกรรายการตีสิบ ช่อง 3 กรุงเทพ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทเว็นตี้ ทเว็นตี้ เอ็นเทอร์เทนเมนต์ จำกัด
Status : สมรสแล้ว มีบุตรสาว 3 คน
Lifestyle : ชื่นชอบงานจิตรกรรมเป็น Art Lover ศิลปินที่ชื่นชอบ คือ ประเทือง เอมเจริญ ถวัลย์ ดัชนี เป็นแฟนการ์ตูนตัวยงของซูเปอร์แมนและแบทแมน วันว่างชอบดูหนังเพื่อเป็นการผ่อนคลายรวมถึงการอ่านนิยายเชิงสืบสวนสอบสวน ขณะที่ Patek Philippe คือนาฬิกาแบรนด์โปรด และเขายังชื่นชมในคุณภาพของรองเท้า Salvatore Ferragamo อีกด้วย วิทวัสออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ด้วยการตีเทนนิสและแบดมินตัน โดยชื่นชมยอโควิช นักเทนนิสชาวเซอร์เบีย “อีกอย่างผมชอบมือรอง ลุ้นให้เขาเป็นมือวางอันดับ 1”