บิ๊กอีเว้นท์ของ “ธนินท์”

เปิดศักราชมาแค่เดือนแรกของปีเสือ “ธนินท์ เจียรวนนท์” ซีอีโอ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ตัดสินใจออกงานใหญ่ถึง 2 งาน แต่ละงานล้วนแต่มีนัยสำคัญต่อทิศทางของเครือซีพีทั้งสิ้น

งานแรกเป็นของทรู คอร์ปอเรชั่น ธนินท์ ควงแขนบุตรชายทั้ง 3 คน “ศุภกิต และ ณรงค์” ที่บินตรงจากจีน และ ”ศุภชัย” แม่ทัพของทรูฯ มาพร้อมหน้ากันในพิธีลงนามกรอบความร่วมมือระหว่าง ”ทรูวิชั่นส์” กับ ”ฟินิกซ์ ทีวี” เครือข่ายสื่อยักษ์ใหญ่จากจีน ที่แสดงให้เห็นว่าความร่วมมือนี้ ”ธนินท์” ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง

ยิ่งจากการกล่าวของ ”ธนินท์” ระหว่างพิธีลงนาม นอกจากเจ้าสัวจะสื่อสารโดยตรงกับผู้บริหารฟินิกซ์ด้วยภาษาจีนกลางแล้ว ความหมายของแต่ละถ้อยคำยังย้ำให้เห็นว่าดีลนี้จะส่งเสริมให้ทั้งทรูวิชั่นส์และฟินิกซ์แข็งแกร่งในธุรกิจสื่อ โดยเฉพาะธุรกิจทีวี ที่เจ้าสัวมุ่งมั่นให้เป็น ”อาหารสมอง” จากเครือซีพีถึงผู้บริโภค ซึ่งเจ้าสัวธนินท์บอกว่าไม่เพียงฟินิกซ์ ทีวีทำได้เหมือนที่ซีเอ็นเอ็นทำ แต่จะดีกว่าเพราะซีเอ็นเอ็นไม่ได้เข้าใจคนจีนเหมือนที่ฟินิกซ์ ทีวีเข้าใจ

ชาวจีนในประเทศจีนกว่า 1,300-1,600 ล้านคน กับเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต คือโอกาสของธุรกิจที่ไม่อาจมองข้ามได้ ซึ่งข่าวสารเกี่ยวกับจีนคือข้อมูลสำคัญในเวลานี้ ”ฟินิกซ์ ทีวี” จึงเป็นคำตอบสำหรับทรูวิชั่นส์ ในการเพิ่มคอนเทนต์ช่องข่าวจากจีนในภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันฟินิกซ์ ทีวีไม่เพียงส่งรายการไปทั่วจีนเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมอีก 150 ประเทศทั่วโลก

ขณะเดียวกัน ”หลิว ฉางเล่อ” ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มฟินิกซ์ ทีวี มองไปถึง ความร่วมมือในครั้งนี้ว่า เป็น Strategic Corporation ไม่ใช่แค่ในตลาดจีน ยังมีตลาด “อาเซียน” ภายใต้ Asian Free Trade Agreement (AFTA)เป็นเป้าหมายสำคัญอีกด้วย

ไมกี่วันถัดมา ธนินท์ ใช้ฤกษ์ดีวันครบรอบปีที่ 89 ของเครือซีพีเป็นวันพบปะสื่อมวลชน ในเวลาเช้าตรู่ เพื่อให้วิสัยทัศน์ และทิศทางการดำเนินงานธุรกิจเครือซีพีตลอดปี 2553

แม้งานจะเริ่มตั้งแต่ 8 โมง ซึ่งค่อนข้างเช้ากว่างานแถลงข่าวทั่วไป แต่บรรดาผู้สื่อข่าวจากทุกสำนักนับร้อยต่างไม่มีใครพลาด เพราะทุกคนต่างตระหนักดีว่า การปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชนของเจ้าสัวธนินทร์ ที่มาพร้อมกับ 10 ซีอีโอของบริษัทในเครือ ย่อมมีนัยสำคัญอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ และความคิดของเจ้าสัวธนินทร์ที่กลั่นออกมาเป็นคำพูด ซึ่งในปีนี้ยังคงย้ำไปที่ “ทฤษฏีสองสูง” มักเสียงดัง และทรงพลังมากกว่านักธุรกิจคนใดในเมืองไทยตอนนี้

พร้อมระบุถึงตัวเลขการลงทุนของซีพีในปีนี้ว่าสูงถึง 40,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การลงทุนภายในประเทศ 20,000 ล้านบาท และต่างประเทศ เฉพาะจีน อินเดีย เวียดนาม และรัสเซีย อีก 20,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้ในปีที่ผ่านมา เจ้าสัวธนินทร์ได้สรุปตัวเลขคร่าวๆ ออกมาว่า ประมาณ 400,000 ล้านบาท

ปีใหม่นี้ เจ้าสัวธนินทร์ยังแถมท้ายด้วยการบอกเคล็ดลับความสำเร็จที่ช่วยให้ซีพีดำเนินธุรกิจในไทยมาได้อย่างยาวนานถึง 89 ปี ที่ใครๆ ก็นำไปทำตามได้ไม่ยากว่า

“กำไรน้อย ขายมาก เท่ากับกำไรมาก” ซึ่งเป็นหลักในการดำเนินธุรกิจของซีพีมาตลอดไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ที่ปัจจุบันกำลังไปได้สวยกับสินค้าแบบ Ready-to-Eat กลุ่มธุรกิจการตลาดและการจัดจำหน่าย ที่ก่อศักดิ์ ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ตอนนี้อัตราขยายตัวของเซเว่น อีเลฟเว่น อยู่ที่ 3 วัน 5 สาขา โดยมีเป้าหมายระยะสั้นเพิ่มจาก 5,300 สาขา เป็น 7,000 สาขา

ส่วนกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม เจ้าสัวธนินทร์ กล่าวยืนยันว่า พร้อมลุยเต็มที่กับการประมูล 3 จี ถึงแม้ตัวเลขการประมูลอาจจะสูงถึงระดับหมื่นล้านก็ตามที เพราะงานนี้เจ้าสัวธนินทร์ถึงกับออกตัวว่า ศึกครั้งนี้ไม่ใช่แค่ทรู แต่เครือซีพีทั้งหมดร่วมสู้ด้วยต่างหาก “เพราะเราแพ้ไม่เป็นอยู่แล้ว” คำยืนยันของธนินท์

รายได้หลักเครือเจริญโภคภัณฑ์
CPF 165,000 ล้านบาท
CP All 90,000 ล้านบาท
CP Inter Trade 31,000 ล้านบาท
True 60,000 ล้านบาท