แกร่งไม่พอต้องสวยด้วย

“5-6 ปีแล้ว ดูมันเก่าๆ สีเริ่มซีด ดังนั้นจึงถึงเวลาปรับปรุงให้ก้าวหน้าตามธุรกิจ เพราะอยากเป็นสาวสองพันปีไปเรื่อยๆ”

“กรรณิกา ชลิตอาภรณ์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวถึงการรีเฟรชแบรนด์ เป็นเนื้อหาปิดท้ายการแถลงประจำปีถึงทิศทางและเป้าหมายการเติบโตของแบงก์ ที่หวังว่าสินเชื่อจะเพิ่ม 7-10% ซึ่งมากกว่าจีดีพีถึง 2 เท่า ถือว่าเฟื่องฟูไม่น้อยในภาวะเศรษฐกิจที่เพิ่งเห็นสัญญาณฟื้นตัว

ตั้งแต่ปลายปี 2552 ลูกค้าแบงก์ไทยพาณิชย์เริ่มเห็นโฉมใหม่ของสาขา และโลโก้ ที่มีคอนเซ็ปต์ทันสมัยมากขึ้น และตั้งแต่ต้นปี 2553 ได้เห็นชุดใหม่ของพนักงานที่ออกแบบโดย “พิจิตรา บุณยะรัตพันธุ์” ซึ่งความใหม่ทั้งหมดตอบโจทย์ถึงการเป็นสาวสองพันปีของ “กรรณิกา” เพื่อให้ลูกค้าสดชื่นเมื่อเข้ามาใช้บริการ เบ็ดเสร็จใช้งบตั้งแต่การจ้างที่ปรึกษารีแบรนด์ ออกแบบโลโก้ จนถึงเปลี่ยนหลอดไฟในสาขารวม 300 ล้านบาท ที่ภายในสิ้นปี 2553 จะมี 1,040 สาขา และตู้เอทีเอ็ม 7,700 เครื่อง

อีก Touch Point ที่สำคัญคือโลโก้ ที่ตัดเส้นออกเพื่อให้เห็นใบโพธิ์เด่นชัดขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังตั้งสโลแกนใหม่ “ไปด้วยกัน ไปได้ไกล” จากเดิมที่เคยใช้ “บริการด้วยรากฐาน บริการด้วยน้ำใจ” ที่ “กรรณิกา” บอกว่าสโลแกนใหม่เป็นปรัชญาที่ใช้ได้ทั้งกับภายนอกที่ต้องการให้ลูกค้าและแบงก์ไปด้วยกัน ได้ดีทั้งสองฝ่าย และสร้างภายในองค์กรให้เป็นหนึ่งเดียวกัน รวมทั้งไม่ลืมที่จะนำมาใช้เป็นคอนเซ็ปต์งานเลี้ยงสื่อประจำปีอีกด้วย

รีแบรนด์รอบนี้ยังบอกทิศทางให้เห็นว่าไทยพาณิชย์ไม่อาจพอใจกับฐานลูกค้าเก่าที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ได้เท่านั้น แต่ต้องลงมาเล่นกับลูกค้าเอสเอ็มอีที่ไทยพาณิชย์ยังมีได้มาร์เก็ตแชร์ในอันดับ 5-6 เท่านั้น และที่สำคัญกับลูกค้ารายย่อยที่เป็นลูกค้าแบงก์ตั้งแต่ฝากถอน ไปจนถึงสินเชื่อเช่าซื้อทั้งรถยนต์และบ้าน เพราะกลุ่มเหล่านี้คือครีมอีกส่วนหนึ่งในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว

แบงก์ยุคใหม่สำหรับ “กรรณิกา” จึงไม่ใช่แค่ความมั่นคงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การทำให้แบรนด์สดชื่น ใหม่ สดสวย คือเสน่ห์ในยุคนี้ และที่สำคัญแสดงให้เห็นว่าแคร์ความรู้สึกของลูกค้าจริง ๆ

จุดอ่อนจุดแข็งไทยพาณิชย์
จุดแข็ง จุดอ่อน
-Human Touch ใกล้ชิดลูกค้า -Insightful การรู้ลึกในแต่ละอุตสาหกรรม
-Trusted Partner ลูกค้าไว้วางใจ -Pushing Boundary การพัฒนาไร้ขีดจำกัด
ที่มา : ไทยพาณิชย์ (จากการวิเคราะห์ของที่ปรึกษา “อินเตอร์แบรนด์”)