เอเซียซอฟท์ ขอเล่น “นอกเกม”

เวลาเปลี่ยน เกมธุรกิจเปลี่ยน ธุรกิจก็ต้องที่ Re-positioning นิยามตัวเองใหม่ เหมือนอย่างบริษัทเกมยักษ์ใหญ่อย่าง AsiaSoft ที่ไม่ขอเป็นแค่บริษัทเกม แต่เป็นธุรกิจที่ “ให้บริการกับผู้ใช้ IT โดยผ่านทางอินเทอร์เน็ต” และก้าวแรกของการ Re-positioning นี้ก็อยู่ที่บริการใหม่ “KingSoft Internet Security” ที่เอเชียซอฟท์คุยว่าจะมาเป็น “Game Changer” ที่เปลี่ยนแปลงธุรกิจซอฟต์แวร์ป้องกันกำจัดไวรัสในไทยใหม่ทั้งหมด

โอกาสทางการตลาด คือปัญหาของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ “ติดไวรัส” จนข้อมูลสูญหาย โปรแกรมใช้ไม่ได้ ต้องยกเครื่องไป “ล้าง” ที่ร้าน และหลายคนซื้อแผ่นโปรแกรมต้านไวรัสเถื่อนมาใช้ แต่อัพเดตไม่ได้ ขณะที่องค์กรก็ต้องแก้ปัญหาด้วยการจ้างมืออาชีพดูแลและอัพเดตด้วยต้นทุนเฉลี่ยเกือบ 1,000 บาทต่อเครื่อง

ช่องว่างนี้ อยู่ในสายตาของ CEO ผู้ก่อตั้งเอเชียซอฟท์อย่าง ปราโมทย์ สุดจิตพร มานาน เมื่อมีโอกาสได้รู้จักกับ KingSoft บริษัทซอฟต์แวร์จากจีน โจทย์นี้จึงถูกตอบออกมาเป็นบริการ “KingSoft Internet Security” ซึ่งเอเชียซอฟท์จะเป็นผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยทั้งแปลเมนูใช้งานเป็นไทย พร้อมตั้ง Call Center โดยตั้งตั้งราคาระดับถูกสุดที่ปีละ 189 บาทต่อเครื่องต่อปี จากจุดแข็งที่ KingSoft คือจีน แทนที่จะเป็นสหรัฐอเมริกาเหมือนซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ จึงทำให้ต้นทุนถูกเป็นพิเศษ

ด้วยกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่าง ตลาด “Anti-virus คอมฯบ้าน” ของเอเชียซอฟท์นั้นมีฐานผู้เล่นเกมของเอเชียซอฟท์เองรองรับอยู่ถึงราว 9 ล้านคน หากคิดเป็นตัวเงินก็มากถึงเกือบ 2 พันล้านบาท นับเป็น “Blue Ocean” แห่งใหม่ที่มี Market Size ใหญ่กว่า Red Ocean เดิมคือตลาดองค์กรถึงสองเท่า และเป็นตัวเลขรายได้ที่สูสีกับที่ได้จากเกมออนไลน์ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ปีละประมาณ 1,500 ล้านบาท

การขายซอฟต์แวร์ การคิดเงิน และการให้บริการนั้น เอเชียซอฟท์ทำผ่าน Channel เดิมๆ เช่นเติมเงินผ่านบัตร aCash, ดาวน์โหลดโปรแกรมผ่านเซิร์ฟเวอร์ของเอเชียซอฟท์ และโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ที่เดียวกัน นั่นทำให้ไม่ต้องมีการลงทุนใหม่มากนัก

เหตุผลทั้งหมดนี้จึงเพียงพอที่จะทำให้เอเชียซอฟท์ถึงกับขยาย Positioning ตัวเอง อย่างที่ปราโมทย์พูดไว้ว่าเป็น “ผู้ขายบริการ IT ให้คนใช้ง่ายๆ ผ่านทาง Online” แทนที่จะเป็น “ผู้ให้บริการเกมออนไลน์” เท่านั้น

Market Analysis
•ธุรกิจซอฟต์แวร์ป้องกันกำจัดไวรัสในไทยที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านบาทต่อปี แทบทั้งหมดเป็นตลาดองค์กร
•ปีแรกเอเชียซอฟท์ตั้งเป้าไว้ประมาณ 4 แสนคน คิดเป็นรายได้ราว 70 ล้านบาทหรือ 10% ของตลาดองค์กร
•แต่ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายของบริการ “KingSoft Internet Security” คือผู้ใช้ทั่วไปตามบ้าน เริ่มต้นที่นักเล่นเกมของเอเชียซอฟท์
•ทำการตลาดผ่านร้านเกม aCafe ที่เป็นพันธมิตรกับเอเชียซอฟตท์ และผ่าน Social Network โดยให้บริษัท “โชว์โนลิมิต” ของ “หนุ่ย” พงษ์สุข หิรัญพฤกษ์ ทำสปอตโฆษณาออกอากาศใน Youtube.com และรายการ “แบไต๋ไฮเทค” ทางเคเบิลทีวี จับกลุ่มเป้าหมายคนเล่นอินเทอร์เน็ตโดยตรงโดยไม่ผ่านสื่อเก่าอย่างสิ่งพิมพ์หรือฟรีทีวี