เกรย์มาร์เก็ตคึกคัก

นอกจากสงครามในสนามใหญ่ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือแล้ว ในเกรย์มาร์เก็ต ทั้งแบล็คเบอร์รี่ หรือบีบี และไอโฟนก็คึกคักไม่แพ้กัน จนทำให้ลูกค้าที่อยากใช้ทั้งสองแบรนด์หาซื้อได้ง่ายขึ้น และด้วยความสามารถของบรรดาผู้ขายทำให้เครื่องที่หิ้วเข้ามา สามารถปลดล็อกแล้วไปซื้อแพ็กเกจจากค่ายมือถือได้ หรือแม้แต่การไปซื้อต่างค่าย คือซื้อจากทรูมูฟ ไปใช้เอไอเอส ดีแทค ก็ทำได้ง่าย

นอกจากนี้ความยากของการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ซึ่งอาจจะเกินความสามารถของลูกค้าบางกลุ่ม ที่มาบุญครองก็สามารถบริการให้ได้โหลดครั้งเดียวได้แอพฯเพียบ สนนราคาประมาณ 300 บาท และยังให้บริการ Jailbreak หรือการแหกออกจากกรอบเทคนิคที่แอปเปิลล็อกไว้ เพื่อให้ผู้ถือไอโฟนสามารถโหลดแอพฯได้มากมาย นอกเหนือจากที่อยู่ในร้าน App Store แม้จะอันตรายสำหรับเครื่องไอโฟนของเรา เช่นเครื่องอาจจะแฮงก์ ค้าง จนต้องลงโปรแกรมใหม่หมด แต่ลูกค้าก็ไม่หวั่น เพราะจ่ายอีก 300 บาท ที่มาบุญครองก็ทำให้ไอโฟนกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม

จากการที่ทั้งหาซื้อง่าย และทรูมูฟเลิกล็อกเครื่อง ให้ลูกค้าสามารถซื้อเครื่องเปล่าไปใช้บริการต่างค่ายได้ ทำให้ทั้งดีแทคมีผู้ถือไอโฟนถึงกว่า 88,000 เครื่องก่อนที่จะขายไอโฟนเอง และเอไอเอสมีลูกค้าประมาณ 1 แสนเครื่องในเครือข่าย

“ไอโฟน” สามารถก้าวข้ามความเสียเปรียบด้านราคาในเกรย์มาร์เก็ตได้เมื่อเทียบกับบีบี ทั้งที่ในเกรย์มาร์เก็ต ”ไอโฟน” เฉลี่ยขายถูกกว่าซื้อจากค่ายมือถือเพียง 1,000-2,000 บาทเท่านั้น เช่น รุ่น 3GS 32 GBถ้าซื้อจากค่ายมือถือเครื่องเปล่าอยู่ที่ 28,500 บาท หรือซื้อพร้อมแพ็กเกจ 26,400 บาท แต่ที่มาบุญครองขาย 26,000 บาท หรือรุ่น 3 GS 16 GB เครื่องเปล่า 24,500 บาท มาบุญครอง ขาย 22,500 บาท

ตลาดเกรย์มาร์เก็ตนี้ผู้ชายจะซื้อมากกว่า เพราะกล้าเสี่ยงกว่าผู้หญิง เมื่อค่ายมือถือมาขายเอง มีทั้งแพ็กเกจ พนักงานบริการ ไอโฟนจึงลงมาถึงกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น

สำหรับบีบี ตลาดนี้มีเกือบครึ่งที่หิ้วจากมาบุญครอง เพราะราคาถูกกว่ามาก เช่น บีบี Curve 8520 ค่ายมือถือขายอยู่ที่ 13,900 บาท แต่มาบุญครองขายอยู่ที่ 9,700-10,100 บาท จะเห็นได้ว่า ราคาที่ซื้อโอเปอเรเตอร์สูงกว่าในตลาดเครื่องหิ้ว 3,000-4,000 บาท หรือบีบี 9700 ล่าสุด ราคาจากค่ายมือถือ 22,900 บาท แต่มาบุญครองซื้อได้ในราคาเพียง 16,500 บาท

แต่ดูเหมือนว่า โอเปอเรเตอร์เองไม่ได้เดือดร้อนมากนัก เพราะในท้ายที่สุดแล้ว เครื่องหิ้วเหล่านี้ต้องมาเลือกใช้แพ็กเกจบริการจากโอเปอเรเตอร์ แต่ละรายจึงมีการจัดแพ็กเกจสำหรับเครื่องหิ้วเหล่านี้ เพราะอย่างไรเสีย รายได้สำคัญของโอเปอเรเตอร์มาจากค่าบริการและแอร์ไทม์เป็นหลักอยู่ดี ส่วนการหันมาขายเครื่องสมาร์ทโฟนเอง เพราะสมาร์ทโฟนเป็นตลาดใหม่ของมือถือ ที่ก้าวไปสู่บริการดาต้าเซอร์วิส ที่ต้องสร้างการเรียนรู้ใหม่ และยังมีเรื่องของ OS และแอพพลิเคชั่น แต่เอาเข้าจริงแล้ว จะเครื่องหิ้วหรือขายเอง โอเปอเรเตอร์ก็ยินดีทั้งนั้น

หิ้วง่าย ถูกกว่า บริการเพียบ ที่เกรย์มาร์เก็ต จึงทำให้สมาร์ทโฟนไฮเอนด์ทั้งสองตามกันทำสงครามกันอย่างคึกคัก