ล้มดีลเป๊ปซี่ซี้อ “เสริมสุข”

หลังจากที่ เป๊ปซี่ ได้เปิดดีลกิจการเสริมสุขแบบปัจจุบันทันด่วน โดยหวังว่าการซื้อกิจการเสริมสุข
ซึ่งเป็น Bottler ที่ผูกสัมพันธ์กันมานานถึง 57 ปี จะช่วยให้การดำเนินงานของเป๊ปซี่คล่องตัวขึ้น แต่แล้ว ดีลการซื้อกิจการในครั้งนี้ก็ต้องจบลง หลังจากที่บริษัทสตาทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศยกเลิกคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของกิจการเสริมสุข จำกัด

ดีลครั้งนี่เกิดขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อเป๊ปซี่ โคล่า ประเทศไทย ได้จัดตั้งบริษัทสตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส (ประเทศไทย) ขึ้น เพื่อซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ บริษัท เสริมสุข จำกัด โดยราคาเสนอซื้ออยู่ที่ 29 บาทต่อหุ้น

หลังจากได้รับข้อเสนอดังกล่าว ทางด้านเสริมสุข ได้จัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเป็นที่ปรึกษาของบริษัทเกี่ยวกับการถูกเสนอขายหุ้นดังกล่าว และให้บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยนายสมชาย บุลสุข ประธานคณะกรรมการบริหาร เสริมสุข แจ้งกับผู้ถือหุ้นว่า ยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่ทราบเรื่องมาก่อน

จากนั้นไม่นาน เป๊ปซี่ ได้ออก press release ชี้แจงว่าราคา 29 บาท ที่เสนอขายให้กับเสริมสุขนั้น เป็นราคาเหมาะสมที่สุด แต่ปรากฎว่า วันนี้ (11 มิถุนายน) เป๊ปซี่ ได้ ประกาศยกเลิกคำเสนอซื้อหุ้นของเสริมสุข โดยมีสาเหตุมาจาก จำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นของเสริมสุขนำมาเสนอขายต่อบริษัท สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส มีจำนวนทั้งสิ้น 23,056,996 หุ้น หรือ 8.67 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด จำนวนดังกล่าวเป็นจำนวนที่ต่ำกว่าที่ระบุไว้ในเงื่อนไขในการยกเลิกคำเสนอซื้อซึ่งได้แจ้งไว้เมื่อมีการ ทำคำเสนอซื้อหุ้นว่าจะต้องปรากฏว่าจำนวนหุ้นที่นำมาเสนอขายต่อบริษัทจะต้องไม่น้อยกว่า 25,147,287 หุ้น หรือ 9.46% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดในบริษัทเสริมสุข

สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจสกล่าวว่า “การซื้อขายหุ้นของบริษัทเสริมสุขในตลาดหลักทรัพย์ในราคาที่สูงกว่าราคาเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของกิจการเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ต้องยกเลิกคำเสนอซื้อหุ้นในครั้งนี้

โฆษกของเป๊ปซี่โค กล่าวว่าผลของการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของกิจการจะไม่ส่งผลกระทบต่อความตั้งใจของบริษัทในการดำเนินธุรกิจระยะยาวในประเทศไทยต่อไป

“เป๊ปซี่รู้จักบริษัทเสริมสุขเป็นอย่างดี ด้วยเราเป็นผู้ลงทุนระยะยาวมาเป็นเวลาหลายปี การทำคำเสนอซื้อหุ้นในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินธุรกิจระยะยาวกับบริษัทเสริมสุขและกับประเทศไทย แน่นอนว่าเราต้องรู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายของเราได้ ทั้งนี้ราคาเสนอซื้อหุ้นที่ 29 บาทนั้น เป็นราคาที่สูงสุดในรอบเกือบสิบปี และเราเชื่อว่าเป็นราคาที่ยุติธรรม ต่อผู้ถือหุ้นทุกท่าน”

แหล่งข่าวทางด้านการเงิน ให้ความเห็นถึงการที่ดีลครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จ ปัญหามาจาก “ราคาหุ้น” โดยราคาหุ้นที่ผู้ถือหุ้นเสริมสุข ต้องการอยู่ที่ 49 บาทต่อหุ้น ในขณะที่เป๊ปซี่เสนอซื้อหุ้นในราคา 29 บาท ทำให้ดีลครั้งนี้ต้องยุติลง

อ่านเพิ่มเติม

ผ่ายุทธศาสตร์ เป๊ปซี่เทกโอเวอร์เสริมสุข ฉบับเดือน พฤษภาคม 2553