บทเรียนนี้ “เอเซอร์” พร้อมเปิดเกมอีกครั้ง

บางครั้ง ”สินค้า” สักตัวเมื่อลงไปในตลาดแล้วไม่สำเร็จในแง่ยอดขาย แต่สิ่งที่ได้คือ ”บทเรียน” ที่มีค่าเมื่อต้องการกลับมาใหม่ เหมือนอย่างที่ ”เอเซอร์” ซึมซับเต็มๆ กับ ”สมาร์ทโฟน”

ผ่านไปเกือบปีหลังการเปิดตัวสมาร์ทโฟนครั้งแรกเมื่อกลางปี 2009 ”เอเซอร์” กลับมาอีกครั้งเมื่อเดือนมิถุนายน 2010 ที่ปรับเปลี่ยนหลายอย่าง ตั้งแต่หน้าตาของโปรดักต์ ระบบปฎิบัติการ (Operating System : OS) ที่เอเซอร์เลือกแล้วว่ามาแรงอย่าง ”แอนดรอยด์” จนถึงการเพิ่มช่องระบบการจัดจำหน่าย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Positioning ที่ปรับเข้ามาสู่การเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับ Mass

ยุทธศาสตร์ของเอเซอร์ในการกลับมาอีกครั้งจึงเริ่มดึงความสนใจด้วยการทำตลาด 2 เซ็กเมนต์ที่สู้ด้วยราคา คือสมาร์ทโฟนระดับล่าง รุ่น beTouch E10 แอนดรอย์ด 1.5 ราคา 5,990 บาท และระดับกลาง E400 แอนดรอยด์ 2.1 ที่ 12,900 บาท จากราคาเฉลี่ยทั่วไปจะอยู่ที่ 7,000 และ 15,000 บาท

“อลัน เจียง” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ บอกว่า ”ไม่ถือว่าเอเซอร์ช้าเกินไปสำหรับการบุกสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ เพียงแต่ว่าเราต้องหาเวลาที่ใช่ สิ่งที่เอเซอร์เห็นคือแอนดรอยด์กำลังมาแรง ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว”

ปีที่แล้วเอเซอร์มียอดขายประมาณ 10,000 ตัว แทบจะไม่มีแชร์ในตลาด แต่ปีนี้หวังไว้ที่ 9-10% หรือยอดขายมูลค่า 300 ล้านบาท หรือประมาณ 1.5 แสนเครื่อง จากประมาณ 10 รุ่นที่ส่วนใหญ่เป็นแอนดรอยด์ จากตลาดรวมประมาณ 1.6 ล้านเครื่อง สำหรับโอกาสของเอเซอร์นั้น ”อลัน เจียง” ย้ำว่าอยู่ที่แบรนด์เอเซอร์ที่มีจุดแข็งด้านเทคโนโลยีและราคาที่ผู้บริโภคซื้อได้ ซึ่งสมาร์ทโฟนเป็นสินค้าใกล้เคียงกับสินค้าไอที เพราะเน้นการสื่อสารข้อมูล และคอนเทนต์ต่างๆ จึงเชื่อว่าผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนเอเซอร์ด้วยเหตุผลเดียวกับที่ซื้อคอมพิวเตอร์ของเอเซอร์

ส่วนไอโฟน 4 ที่กำลังมายังไม่ทำให้เอเซอร์หวั่นไหว เพราะเขายังมองว่าไอโฟนเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม ขณะที่แอนดรอยด์กำลังโตเร็วและเข้าถึงคนทั่วไปมากกว่า แบรนด์ที่ ”อลัน เจียง” มองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงคือเอชทีซี สัญชาติไต้หวันเช่นกัน และบุกตลาดในระดับเดียวกัน ด้วยแอนดรอยด์เหมือนกัน เหมือนอย่างที่เอเซอร์คอมพิวเตอร์มีคู่แข่งตรงคืออัสซุส

เวลาผ่านไป ทำให้ ”อลัน เจียง” เห็นภาพการแข่งขันชัดขึ้น เขามั่นใจว่าเกมในธุรกิจนี้กำลังเปลี่ยนเพราะแอนดรอยด์ที่เป็น OS เปิดที่ทำให้เอเซอร์บริหารจัดการตัวโปรดักต์ได้ตั้งแต่ต้น และนี่เองคือจุดเริ่มเอเซอร์มองว่าคือความสำเร็จตั้งแต่ต้น

เอเซอร์ beTtouch E10 /E400
Launched 22 มิถุนายน 2553 เอสพละนาด นักข่าวไอทีประมาณ 50 คน
Positioning E10 สมาร์ทโฟนระดับล่าง E400 ระดับกลาง
Product detail E10 เน้นการใช้โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค จอ 2.8 นิ้ว
แอนดรอย์ด 1.5 / E400 เพิ่มเติมเช่น แอนดรอย์ด 2.1 หน้ากากเปลี่ยนสี จอ 3.2 นิ้ว
Target กลุ่มที่อยากใช้แอนดรอยด์ เป้าหมายยอดขายเดือนละ1,000-1,500 เครื่อง
Market Analysis กระแสกลุ่มธุรกิจไอทีเริ่มเข้าสู่ธุรกิจสมาร์ทโฟนแรงขึ้น มีเดลล์ เอเซอร์ และล่าสุดข่าวเอชพีซื้อธุรกิจปาล์ม ขณะที่แอนดรอยด์กำลังมีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นจาก 2% ปีที่แล้วมา เป็น 1% หากเอเซอร์ดึงดูดได้ด้วยราคาที่ถูกกว่า ในสเปกเทียบเท่ากัน ก็เป็นโอกาสอีกครั้งของเอเซอร์

เกมใหม่ใน 4P
Product ดีไซน์กะทัดรัดมากขึ้น เน้น OS แอนดรอยด์มากขึ้น
Price ราคาถูกกว่าคู่แข่ง
Place จัดจำหน่ายถึง Mass ด้วยโมเดิร์นเทรด และช็อปมือถือและไอที รวมกว่า 600 จุด จากเดิมเน้นเฉพาะช็อปไอที
Promotion งบสื่อสาร 20 ล้านบาทสำหรับ 2 รุ่น ไม่ทำตลาดกับผู้ให้บริการมือถือ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกค่าย