เมื่อสองปีที่แล้ว ผลสำรวจ CEO Survey ของไอบีเอ็ม อาจเผยความในใจเบื้องลึกของซีอีโอกับการรับมือสถานการณ์ในอนาคตว่า พวกเขากังวลเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น
แต่หลังจากทำการสำรวจอีกครั้งในปี 2010 นี้ ความกังวลของซีอีโอเปลี่ยนไปจากเดิม โดยพวกเขาคาดว่า ในอนาคตสิ่งที่รับมือด้วยยากที่สุด คือ Complexity หรือความซับซ้อน ยุ่งเหยิง
สืบเนื่องจากจากการเปลี่ยนแปลงของศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ย้ายจากประเทศกำลังพัฒนา มาสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ข้อบังคับและกฎต่างๆ จากรัฐบาลที่เข้มงวดมากขึ้น
ซีอีโอ บอกกับไอบีเอ็ม ด้วยวิธีการสำรวจแบบ Face-to-face interview ว่า พวกเขากำลังบริหารงานในโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง ไม่แน่นอน และยุ่งยากซับซ้อน โดยส่วนใหญ่คาดว่ามีเพียงแค่ Complexity เท่านั้นที่จะส่งผลต่อการบริหารมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต และมากกว่าครึ่งของซีอีโอที่ทำการสำรวจทั้งหมด 1,500 คนจากทั่วทั้งโลก บอกอย่างตรงไปตรงมาว่า
พวกเขาสงสัยในความสามารถของตัวเองว่าจะจัดการปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้หรือไม่
แต่ทั้ง 1,500 ซีอีโอที่ทำการสำรวจ ไอบีเอ็มได้คัดบริษัทที่มีผลงานทางการเงินดีตลอด 5 ปีที่ผ่านมาจากทุกอุตสาหกราม ในทุกภูมิภาค และเรียกกลุ่มนี้ว่า “Standouts” พร้อมกับวิเคราะห์ความสามารถ และศักยภาพของพวกเขาว่า ฝ่าฟันสถานการณ์ต่างๆ มาได้อย่างไร
คำตอบที่ได้รับ ไม่ใช่ในสิ่งที่หลักสูตรเอ็มบีเอคอยพร่ำบอก แต่เป็น “ความคิดสร้างสรรค์” ที่ช่วยทำให้พวกเขารู้สึกว่า พร้อมสำหรับการรับมือกับความซับซ้อน
เช่นเดียวกับซีอีโออื่นๆ พวกเขาเองก็ตระหนักว่า ความซับซ้อนที่รออยู่ข้างหน้าท้าทายมากเพียงไหน แต่พวกเขาก็มั่นใจว่าจะผ่านไปได้ เหมือนอย่างที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งบททดสอบของซีอีโอ ที่ต้องพาองค์กรให้รอดพ้นภาวะเศรษฐกิจตกต่ำไปให้ได้ โดยพวกเขาให้ความสำคัญใน 3 ส่วนด้วยกัน
Embodying Creative Leadership ผู้บริหารซีอีโอระบุว่าตนเองกำลังเรียนรู้ที่จะตอบสนองต่อแนวคิดใหม่ๆ อย่างฉับไว เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงเชิงลึกที่ส่งผลกระทบต่อองค์กร
Reinventing Customer Relationships อินเทอร์เน็ต ช่องทางใหม่ และลูกค้าที่กระจายอยู่ทั่วโลก ส่งผลให้องค์กรต้องกลับมาคิดใหม่ว่าจะเข้าหาลูกค้าอย่างไร เพื่อที่จะเข้าใจ สื่อสาร และตอบความต้องการของพวกเขาได้ดีขึ้น
Building Operating Dexterity ขณะที่ความซับซ้อน ยุ่งยาก อาจฟังดูน่ากลัวในตอนแรก แต่ปฏิกิริยาตอบกลับแรกเป็นสิ่งสำคัญพื้นฐาน ซีอีโอที่ประสบความสำเร็จ พวกเขาปรับองค์กรเสียใหม่ ตัดสินใจรวดเร็วขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถเปลี่ยนความยุ่งยาก ซับซ้อน ให้กลายเป็นข้อได้เปรียบขององค์กรได้
เพื่อเข้าใจความหมาย ”ผู้นำที่มีความคิดสร้างสรรค์” มากขึ้น ทางไอบีเอ็มจึงตีกรอบแคบไปที่ซีอีโอซึ่งเลือกความคิดสร้างสรรค์ เป็นหนึ่งในสามลำดับแรกที่ซีอีโอจำเป็นต้องมี โดยส่วนใหญ่พวกเขาเตรียมพร้อมสำหรับนวัตกรรม และระหว่าง 10 – 20% ของซีอีโอ มีความเป็นไปได้มากที่พวกเขาจะใช้นวัตกรรมเพื่อนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงใน Business Model
ในอดีต Business Model ได้มีการเปลี่ยนอยู่แล้วตลอดเวลา แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งซีอีโอจากญี่ปุ่นคนหนึ่งก็ยังต้องยอมรับว่า
“โมเดลธุรกิจไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ต้องปรับให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป”
เพื่อให้การบริหารมีประสิทธิภาพมากขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนแบบนี้ ผู้นำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ต้องสนับสนุน และทดลองในทุกนวัตกรรมโมเดลธุรกิจที่มีอยู่
นวัตกรรมโมเดลธุรกิจก็ไม่ต่างจากการที่ดีไซเนอร์พัฒนาสินค้าของพวกเขาให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การทดลองโมเดลธุรกิจอยู่ตลอดจะก่อให้เกิดนวัตกรรม ซึ่งรวมถึงความสัมพันธ์ และพันธมิตรใหม่ๆ ซึ่งมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในตลาด ไม่ใช่จากห้องประชุม
ซีอีโอมองว่า จำเป็นที่จะต้องปลูกฝังความคิดสร้างสรรค์ในทุกส่วนขององค์กร ไม่ใช่แค่เฉพาะส่วนที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์อยู่แล้ว อย่างเช่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบสินค้า
เพื่อการทำงานแบบเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพภายใต้การนำของซีอีโอ ที่มีความคิดสร้างสรรค์เป็นหลักยึดสำคัญในการบริหารงานอีก 5 ปีข้างหน้าจากนี้
| Top Leadership Qualities | |
| Creativity | 60% |
| Integrity | 52% |
| Global Thinking | 35% |
| Influence | 30% |
| Openness | 28% |
| Dedication | 26% |
| Focus on Sustainability | 26% |
| Humility | 12% |
| Fairness | 12% |
| ที่มา : ไอบีเอ็ม | |
