Studio นะไม่ใช่ iStudio

หน้าช็อปโนเกียชั้น 3 ของสยามพารากอน เวลานี้มีสีสันกว่าเดิมด้วย Nokia Experience Studio ใหญ่ขนาดประมาณครึ่งสนามบาสเกตบอล จุดที่ตั้งนี้ไม่เพียงแค่หวังดึงลูกค้าให้เข้ามาสัมผัสแบรนด์ และบริการของโนเกียแล้วตัดสินใจเดินเข้าร้านเพื่อช้อปมือถือสักเครื่องเท่านั้น แต่ยังประกาศศึกชัดๆ กับไอโฟน เพราะประจันหน้าชนิดหายใจรดต้นคอกับ iStudio ที่อยู่ตรงข้ามร้านโนเกียอีกด้วย

ตั้งแต่ การเติมคำว่า Studio เข้าไป ก็ดูเหมือนจงใจจนทำให้ใครๆ ต้องสะดุดตา ซึ่ง ”นนทวัน สินธวานนท์” หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัทโนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ไม่ได้เลียนแบบ iStudio เพราะโนเกียเองเคยมี Experience Studio เมื่อหลายปีก่อน และปัจจุบันมีในหลายประเทศ ส่วนในไทยตอนนี้ถึงเวลานำมาใช้อีกครั้ง เพราะต้องการใช้เป็นจุดให้ลูกค้าได้สัมผัสบริการ ตามเทรนด์การเติบโตของสมาร์ทโฟน ที่ลูกค้าต้องการคำแนะนำเพื่อใช้บริการต่างๆ มากขึ้น

ไม่เพียง Nokia Experience Studio ที่สยามพารากอนเท่านั้น แต่โนเกียยังมีแผนปรับโฉมโนเกียช็อปอีกหลายแห่งให้มีสีสันมากขึ้น ซึ่งเบื้องหลังของแผนนี้ ”ชูมิท คาพูร์” ผู้จัดการทั่วไป โนเกีย ประเทศไทย บอกว่า เพราะสมาร์ทโฟนในปี 2011 เติบโตสูง จำนวนจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ของตลาดรวม (ซึ่งมีประมาณ 9 ล้านเครื่อง) จากปี 2010 มีสัดส่วน 18% ดังนั้นหากอยู่ในจุดที่ต้องลำดับความสำคัญ แน่นอนโนเกียต้องทุ่มพละกำลังไปที่ตลาดสมาร์ทโฟน

Nokia Experience Studio เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่โนเกียพยายามบอกว่าแบรนด์โนเกียยังสดใส และหนุ่มสาว ไม่แก่อย่างที่หลายคนบอก เป็นช่องทางให้ลูกค้าเข้าใจสินค้าโนเกียมากขึ้น นอกเหนือจากปฏิบัติการที่โนเกียต้องดึงพันธมิตรธุรกิจและนักพัฒนามากขึ้นเพื่อให้โนเกียยังคงมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ภายใต้ Positioning ที่ไม่ใช่ผู้ขายเครื่องเพียงอย่างเดียว แต่คือผู้ขายบริการ Solution ตั้งแต่แอพพิเคชั่นใน Ovi Store ไปจนถึงการเข้าถึงโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค

อย่างไรก็ตาม แม้ Nokia Experience Studio จะเป็นเครื่องมือหนึ่ง แต่โนเกียยังต้องรอประเมินว่าจะมีพลังแค่ไหน การเปิดตัว Studio จึงพ่วงไปกับการเปิดโนเกีย C7 ที่ ”นนทวัน” บอกว่าเป็นอีเวนต์ที่ลงตัวเพราะ C7 เน้นกลุ่มเป้าหมาย Stylish ที่ชอบเครื่องบาง และราคาไม่สูงเท่า N8 แต่ใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ปัจจุบันคือแชต โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค และแอพพลิเคชั่นที่โนเกียจับมือกับคอนเทนต์ข่าวค่ายเนชั่น และสนุกดอทคอม ซึ่งทั้งหมดต้องอาศัยบรรยากาศของ Studio ดึงลูกค้ามาฟังว่า C7 มีอะไรบ้าง

แถลงข่าวจบลง แต่ C7 ไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่คิดเพราะสเปกและราคาไม่แรงพอ เบื้องหลังของ Studio แห่งนี้จึงเป็นที่สนใจมากกว่า เพราะนี่คือการขยับที่โนเกียคาดหวังไว้มาก ท่ามกลางความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าอีกมาก

Nokia Experience Studio
Launched 4 พฤศจิกายน 2553 สยามพารากอนชั้น 3 พร้อมกับการเปิดตัวสมาร์ทโฟน C7 นักข่าวประมาณ 30 คน
Positioning Brand Touch Point&Engagement
Place Detail พื้นที่สร้างประสบการณ์ลูกค้าให้รู้จักบริการของโนเกียจาก Solution ต่างๆ จากแอพพลิเคชั่น Ovi Store และแนะนำลูกค้าตั้งแต่การติดตั้งเครื่องและการใช้งานต่างๆ
Target ลูกค้าเก่าและใหม่ของโนเกียในกลุ่มสมาร์ทโฟน
Market Analysis ตลาดสมาร์ทโฟนเติบโต ขยายไปยังกลุ่มกลางมากขึ้น หากลูกค้าเข้าใจการใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น โอกาสในการตัดสินใจซื้อก็มากขึ้น