แกรมมี่ ยิงประตูบอลยูโร ด้วย Sportainment

เมื่อ “ฟุตบอล” กลายเป็นความบันเทิงยอดฮิตติดอันดับต้นๆ ของคนไทย ไม่น่าแปลกที่ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกลูกหนังฟุตบอลยูโรจะตกอยู่ในมือ 2 ค่ายเพลงใหญ่ของเมืองไทย ที่ต้องเร่งเพิ่มพอร์ตรายได้ใหม่ๆ ชดเชยรายได้จากธุรกิจเพลงที่ไม่หอมหวานเหมือนในอดีต

ค่ายอาร์เอส เป็นค่ายเพลงแรกที่ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรครั้งที่แล้ว ปี 2008ล่าสุดลิขสิทธิ์ตกมาอยู่ในมือของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ที่ยอมควักกระเป๋า 400 ล้านบาท ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลจากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป ทั้งฟุตบอลยูโร 2012 ปีหน้า ฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปหญิง เป็นเวลา 3 ปี และฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปหรือ ยูโร 21 ซึ่งจะประเดิมในเดือนมิถุนายนนี้

แม้คู่แข่งอย่างอาร์เอสจะเคยบาดเจ็บจากฟุตบอลยูโรมาแล้ว แต่ “อากู๋” ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เชื่อมั่นว่า หากนำความบันเทิงที่จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ถนัดมาผสมผสานเข้ากับรายการฟุตบอล เพิ่มกิมมิกรสชาติการรับชม รวมถึงโอกาสต่อยอดรายได้ย่อมมีมากขึ้น

โมเดลการหารายได้ที่อากู๋มองไว้ ไม่ใช่แค่สปอนเซอร์ เก็บลิขสิทธิ์จากผับ บาร์ ร้านอาหารเท่านั้น แต่มองไปถึงการเพิ่มมูลค่าด้วยการขาย Content บนโทรศัพท์มือถือ การตระเวนเดินสายจัดอีเวนต์ทั่วประเทศ ผลิตรายการพิเศษ และการต่อยอดไปยังธุรกิจทีวีดาวเทียม

วิธีคิดแบบนี้ ทำให้แพ็กเกจการขายสปอนเซอร์ โฆษณาช่วงออกอากาศบนฟรีทีวีเท่านั้น แต่ยังร่วมกันเดินสายจัดอีเวนต์แข่งฟุตบอล หรือ อีเวนต์ออนกราวด์ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง โดยมีเหล่านักร้อง ดารา ดีเจ เซเลบริตี้ ในสังกัดแกรมมี่ มาเพิ่มรสชาติ ทำให้เกมกีฬากลายเป็น “สปอร์ตเทนเม้นท์” หรือกีฬาผสมความบันเทิง ดึงคนมาร่วมงาน ไม่ใช่แค่แฟนบอลอย่างเดียว แต่ยังได้ตลาดแมส ประเภทขาบันเทิงที่ชอบดารามาร่วมด้วย ประกวดเพลง แถมยังมีช่องรายการในทีวีดาวเทียมมารองรับการถ่ายทอดกิจกรรมเหล่านี้

นี่คือความหมายของการคัสโตไมซ์แพ็กเกจตามที่สปอนเซอร์ต้องการ ขณะเดียวกันเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจในเครือข่าย บันเทิง ท่องเที่ยว โดยเฉพาะทีวีดาวเทียม

ทุกวันนี้ ธุรกิจ “ทีวีดาวเทียม” ที่แกรมมี่ลงทุนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีช่องรายการบันเทิง โดนใจตลาดวัยรุ่นต่างจังหวัด ความแรงของแกรมมี่ทำให้ค่ายเจเอสแอลเข้าร่วมลงขันเป็นพันธมิตรเปิดช่องทีวีดาวเทียม ภายใต้เครือข่ายแกรมมี่

เมื่อมีช่องรายการในมือที่มีอยู่มากมาย คราวนี้ “อากู๋” ก็เลยจับมือกับกลุ่มสามารถฯ ผลิตอุปกรณ์รับชมรายการ “Set top box” โดยรวบรวมรายการทั้งหมดในเครือข่ายแกรมมี่ และพันธมิตร ซึ่งมี 9 ช่องรายการในปัจจุบันในกล่องนี้กล่องเดียวออกขาย ใครที่อยากดูรายการของค่าย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่อย่างเดียวก็มาซื้อ Set top box ไปติดตั้ง

วิธีนี้จะทำให้อากู๋กลายเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มเน็ตเวิร์คที่มีอำนาจต่อรองมากขึ้น ทั้งการจัดแพ็กเกจโฆษณา รวมถึงการซื้อลิขสิทธิ์รายการใหม่ๆ

ตามแผนที่วางไว้ รายการใหม่บทีวีดาวเทียม จึงน้นน้ำหนักไปที่รายการกีฬา 3 ช่อง อากู๋บอกว่า ได้เตรียมซื้อลิขสิทธิ์รายการกีฬาประเภทอื่นๆ มาเสริมอีก รวมถึงขยายธุรกิจ ปั้นนักฟุตบอล ที่กำลังมาแรงมีแฟนคลับไม่แพ้ดารา โดยเปิดเวทีเฟ้นหาดาวรุ่ง เหมือนอย่างที่ทำสำเร็จมาแล้วกับเดอะสตาร์ เรื่องแบบนี้แกรมมี่ถนัดอยู่แล้ว

ตามสไตล์ของอากู๋ แกรมมี่ ที่เมื่อทำอะไรแล้วไม่คิดชั้นเดียว หาก Sportainment ไปได้สวย จะเพิ่มพอร์ตรายได้ให้กับแกรมมี่ แม้จะยังไม่เท่ากับธุรกิจบันเทิง แต่ในยามที่ธุรกิจเพลงอยู่ในช่วงขาลง สปอร์ตเทนเมนต์จึงเป็นความหวังที่อากู๋ไม่ยอมพลาด!

เทียบฟอร์มกีฬา-ทีวีดาวเทียม แกรมมี่-อาร์เอส
  Positioning ทีวีดาวเทียม กีฬา
แกรมมี่ Content Provider & Network (แตกเป็น 10 กลุ่มธุรกิจ) เปิดแล้ว 8 ช่อง เตรียมเปิดอีก 5 ช่อง ผลิตSet top box ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2012 และอีก 3 ทัวร์นาเมนต์
อาร์เอส Entertainment Network เปิดดัว เคเบิลทีวี ปี 2552 ปัจจุบันมี 3 ช่อง เตรียมเปิดอีก 1ช่อง • ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอล ยูโร 2008 แต่ขาดทุน
• ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก2010 ทำรายได้ 600 ล้าน
• ได้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2014