เจาะดวงเมือง ปี 55 ระวัง!น้ำท่วม แผ่นดินถล่ม เผาเมือง โรคระบาด มาครบ

โหรภิญโญ พงศ์เจริญ ให้จับตา “อุปราคา” 4 ครั้งส่งผลสะเทือนดวงเมือง ตั้งแต่ปลายธันวาคม 54 เกิดการสูญเสียคนสำคัญ ระวัง! ปัญหาดินถล่ม น้ำหลาก หนักสุดเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน 55 มีทั้งแผ่นดินไหว ดินถล่ม และไฟอันเกิดจากฝีมือมนุษย์ ปัญหาแย่งอาณาเขตอาจถึงขั้นสู้รบ วิกฤตเศรษฐกิจ โครงการลงทุนขนาดใหญ่รัฐบาลวุ่น ประชาชนเดือนร้อนไปทั่ว ทั้งปัญหาปากท้อง โรคระบาด ครอบครัวแตกแยก จะส่งผลยาวข้ามปี 56 

 

– เกิดอุปราคา 4 ครั้ง สะเทือนดวงเมือง

ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ทำนายดวงเมืองในปี 2555 สัมพันธ์กับปรากฏการณ์ “อุปราคา” ที่จะมีขึ้นถึง 4 ครั้ง และเคลื่อนย้ายของดวงดาวสำคัญที่มีผลต่อดวงเมืองไว้อย่างน่าสนใจ 

 

– จับตาตั้งแต่ 25 พฤศจิกายน 54 

การเกิดขึ้นของอุปราคาในปี 2554 ยังคงส่งผลต่อดวงเมือง โดยในวันที่ 25 พฤศจิกายน จะเป็นวันที่เกิด “สุริยุปราคา” ในช่วงเวลา 13.10 น. ที่ตำแหน่ง 8 องศา 15 ลิปดา ในราศี “พฤศจิก” ซึ่งเป็น “ราศีน้ำ” ปัญหาน้ำท่วมยังมี และค่อนข้างรุนแรง ภาคกลางยังมีปัญหาน้ำท่วมขัง ภาคใต้จะเจอพายุและปัญหาน้ำท่วม และยังส่งผลต่อเหตุการณ์ทาง “การเมือง” ผู้นำและผู้ปกครองจะเกิดความยุ่งยาก เนื่องจากการเกิดอุปราคาครั้งนี้เกิดขึ้นใน “ราชาฤกษ์” หมายถึง ผู้นำหรือผู้ปกครองจะมีปัญหา เกิดความเสื่อมศรัธาต่อผู้นำ ความเชื่อเถือในตัวผู้นำ และผู้นำเจ็บป่วย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการย้ายของดาวเสาร์จะเกิดขึ้นชัดเจนในวันที่ 7 ธันวาคม 2554 

นอกจากนี้ต้องจับตาการเดินทางของดวงดาวมาชุมนุมกันในภพมรณะเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงที่ดาวบาปพระเคราะห์ทำมุมกัน ส่งผลให้เกิดการแปรสภาพ การสูญเสีย การล้มตายของผู้คน และเกิดในช่วง “สถิรราศี” เหตุการณ์เหล่านี้จะคงอยู่นานเกิดกว่าจะแก้ไขได้ทัน  แต่ยังโชคดีที่ “สุริยุปราคา” ครั้งนี้ไม่ได้เกิดเต็มดวง เป็นแค่บางสวน ดีกรีความรุนแรงลดลง 

แต่ที่น่าเป็นห่วง การเกิดของสุริยุปราคาเกิดขึ้นในแนวราศีพิจิกและราศีพฤษภทำมุมกัน  ซึ่งราศีพฤษภเป็นฤกษ์แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม มักจะตามมาด้วยเหตุการณ์ ภูเขาไฟระเบิด และยังมาเจอกับราศีธาตุน้ำ ดังนั้นผลของแผ่นดินไหวจะกระทบเรื่องน้ำ 

 

-7 ธันวาคม 54  “ดาวเสาร์” ย้าย 

จุดเปลี่ยนการเมือง

เหตุการณ์ที่ต้องจับตาอีกครั้ง คือ วันที่ 7 ธันวาคม 2554  ดาวเสาร์จะเคลื่อนย้ายและมาหยุดนิ่งในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ จากนั้นเดินหน้าต่อไปถอยหลังอีกครั้งในเดือนเมษายน 2555  การเดินทางของดาวเสาร์ ที่เป็นการเดินหน้าและหยุดนิ่งและถอยเช่นนี้  ถือว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญเนื่องจากดาวเสาร์ไปเล็งลัคนาดวงเมือง คือ ดาวอาทิตย์ และดาวพฤหัส ซึ่งเป็นดาวประจำดวงเมือง โดยเฉพาะจุดที่ดาวเสาร์เดินถอยหลังจะส่งผลต่อ “เรือนปัตนิ” โดยมีดาวคู่ที่ต้องจับตา คือ ดาวพฤหัส (ดาวเจ้าเรือนแห่งสงคราม ดาวผู้รู้ และดาวเสาร์ (ดาวมหาชน) ซึ่งเป็นดาวคู่แห่งการเปลี่ยนแปลงมาทำมุมกัน จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนทางการเมือง และสภาพบ้านเมือง แต่การเปลี่ยนแปลงนี้อาจจะเกิดได้ทันทีเกิดก่อนและหลัง

 

– 10 ธันวาคม 54 

ปัญหาขัดแย้งการเมืองปะทุ

นอกจากนี้ หลังจากดาวเสาร์ย้ายได้ 3 วัน จะเกิดอุปราคาขึ้นอีกครั้งในวันที่ 10 ธันวาคม 2554  เกิดขึ้นราศีพฤษก  ตำแหน่ง24 องศา 10 ลิปดา อุปราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในห้วงเวลาสำคัญ เนื่องจากการเคลื่อนย้ายของดาวเสาร์เมาอยู่ในราศีตุลย์ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงจะเริ่มตั้งแต่ 7 ธันวาคมเป็นต้นไป จะส่งผลต่อเรื่องการเมือง อารมณ์ของคนทั่วไปจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งความชอบและความเกลียดจะทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากเดินทางของดาวพุธ สังเกตได้ว่าดาวพุธเดินถอยหลังในช่วงใกล้ๆ วันที่มีประชุมเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม สำหรับดาวพุธเป็นเรื่องของความคิด เรื่องของสื่อสารมวลชน ประชาชนจะรับรู้ข้อมูลความจริงจากสื่อมวลชน โดยในเดือนธันวาคมเมื่อ “ราหู” มาพุ่งชนดาวพุธ จะเกิดการปะทะคารม วิวาทะรุนแรงมาก แต่ละฝ่ายจะมีผู้สนับสนุน โดยมีดาวพระเกตุเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้เหตุการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น 

การเกิดอุปราคาในวันที่ 10 ธันวาคม เป็น “จันทรคาส” จะส่งผลต่อเรื่องการเงิน เศรษฐกิจ เพราะพระจันทร์เป็นดาวกู้หนี้ยืมสิน เมื่อราหูเข้ามาวิวาทกับพระจันทร์ โดยมีพระพุธ ซึ่งหมายถึง สื่อสารมวลชนเข้ามาช่วย โดยจะยืนข้างประชาชน 

 

– 21 พฤษภาคม 55

อุปราคาครั้งแรก

สำหรับการเกิดอุปราคาของปี 2555 จะเกิดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 เป็น “สุรุยุปราคาวงแหวน” เกิดในเวลา 6.48 น. อยู่ราศีธาตุดิน ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะมีเรื่องของอุบัติภัยที่เกิดจากแผ่นดิน จะเกิดแผ่นดินทรุด แผ่นดินไหว จนส่งผลต่อตึกรามบ้านช่องพังทลาย โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนต้องระวังเป็นพิเศษ จะเกิดความรุนแรง และผลกระทบจะกินเวลานาน  

 

ระวัง !วิกฤติหนัก แผ่นดินไหว เศรษฐกิจพัง

การเกิดของอุปราคาครั้งแรกนี้ยังเกิดในเรือนการเมืองของประเทศ ส่งผลกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง การคลังของรัฐบาลจะเกิดปัญหา และปัญหาจะเรื้อรังกินเวลานาน ส่งกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน เกิดความยากลำบาก ยากแค้น เกิดปัญหาเกี่ยวกับคดีฉ้อโกง และยักยอกทรัพย์ขึ้นมากมาย ประชาชนจะมีความสุขน้อยลง เกิดปัญหาครอบครัว แนวโน้มปัญหาหย่าร้างสูงมาก  

 

– 24 มิถุนายน อุปราคาครั้งที่ 2 

จับตา ปัญหาขัดแย้งน่านน้ำ 

อุปราคาครั้งที่ 2 ของปี 2555 เกิดขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายน เป็นจันทรุปราคา เกิดในราศีธาตุน้ำ จะเกิดผลกระทบเกี่ยวกับเรื่องน้ำ อุบัติเหตุเกี่ยวกับเรื่องน้ำ ทรัพยากรน้ำมีปัญหามาก และเป็นเรื่องเกี่ยวกับคู่สัญญา อาจเกิดปัญหาถึงเรื่องความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ความขัดแย้งเกี่ยวกับน่านน้ำ การแบ่งอาณาเขต ทรัพยากรทางทะเล รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับเรื่องน้ำมัน  ขณะเดียวกันส่งผลถึงเรืองจิตใจ อารมณ์ความรู้สึกของประชาชนรู้ยังคงหดหู่เศร้าหมอง

 

อุบัติภัยรุนแรงตั้งแต่ กรกฎาคม 

สำหรับปัญหาอุบัติภัยเกี่ยวกับแผ่นดินไหว ในปี 2555 โดยจะเกิดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตุลาคม ไปจนถึงพฤศจิกายน กินเวลายาวหลายเดือนมาก ขณะเดียวกัน จะเกิดปัญหาเรื่องการคมนาคม ปัญหาโรคภัยไข้เจ็บ เรื่องของการสาธารณสุข การป้องกันประเทศ

 

พฤศจิกายน ระวังพายุซัด-น้ำถล่ม

การเกิดอุปราคาครั้งที่ 3 ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 55 ในเวลา 05.09 ผลกระทบกับอุปราคาจึงมีไม่มาก แต่ที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ คือ การเกิดอุปราคาใน “ราศีธาตุลม” และยังถูกเล็งด้วยดาวพระเกตุ ส่งผลให้เกิดเรื่องของวาตภัย เกี่ยวกับลม จะเกิดพายุลมแรงถี่มาก และการเกิดวาตภัยมักจะตามมาด้วยอุทกภัยเสมอ การเกิดส่งผลรุนแรงมาก จะเกิดความสูญเสียเกิดขึ้นจนส่งผลกระทบต่อประเทศชาติ และการเมือง  โดยช่วงเวลาที่ต้องระวัง ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน 

 

– 28 พฤศจิกายน อุปราคาครั้งที่ 4  

เกิดขึ้นในวันลอยกระทง ของวันที่ 28 พฤศจิกายน เวลา 21.46  เป็นวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง ทำมุม 45 องศา จะเกิดเป็นเงามัว ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้คน ประชาชนจะมีความวิตกกังวล เกี่ยวกับความเป็นอยู่ เรื่องการเงินเป็นผลมาจากปัญหาเศรษฐกิจ  

 

– สิ้นปี 55 ระวัง โครงการใหญ่ของรัฐ ก่อปัญหาหนัก

ช่วงเวลาที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เป็นช่วงสิ้นปี 2555 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2556 เนื่องจากดวงดาวที่ถูกกระทบมากคืออาทิตย์ ซึ่งเป็นดาวในดวงเมือง จะเกิดปัญหาจากดาวเสาร์และราหู ส่งผลให้เกิดปัญหาความยุ่งยาก จากโครงการขนาดใหญ่ที่รัฐบาลลงทุนไป ไม่ว่าจะเป็น โครงการสร้างเมืองใหม่ จะก่อให้เกิดปัญหา จากการลงทุนเกินตัว ก่อให้เกิดหนี้สิน นำมาซึ่งความทุกข์ยาก และปัญหาร้ายแรงที่จะตามมาในอนาคต และจะกินเวลานานนับปี ขณะเดียวกันสถาบันเบื้องสูงต่างๆ จะถูกบีบคั้น เป็นจุดอันตราย และอาจเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ 

 

– ปัญหาน้ำท่วมเริ่มตั้งแต่สิงหาคม

รุนแรงกันยายน-พฤศจิกายน

ปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมในปีหน้า จะเริ่มขึ้นตั้งแต่สิงหาคม กันยายน พฤศจิกายน โดยจะรุนแรงมากระหว่างเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน เนื่องจากดาวอังคารสวนกับราหูตรงธาตุน้ำ ดาวพฤหัสซึ่งคุ้มครองชะตาเมืองก็เดินถอยหลัง ทำให้ปัญหาอุทกภัยเกิดขึ้นรุนแรง รวมถึงปัญหาเรื่องไฟที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์มีโอกาสเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน 

แต่สำหรับเรื่อง “อุทกภัย” เนื่องจากดาวมฤตยูอยู่ในราศีธาตุน้ำกินเวลาถึง 7 ปีเต็ม ปัญหาอุทกภัยเกิดขึ้นมาแล้ว 3 ปี และยังคงในอนาคตอีก4 ปี

 

– ระวัง ขัดแย้งต่างประเทศรุนแรง

ผลจากดาวอังคารโคจรผิดปกติ  

สำหรับเหตุการณ์ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ การเดินทางของดาวอังคาร ซึ่งเป็นเรื่องของอุบัติภัย อุบัติเหตุ ความขัดแย้ง และหมายถึง ผู้มีอำนาจทั้งทางกฎหมายและนอกกฎหมาย เนื่องจากปี 54 ดาวอังคารโคจรวิปริตค่อนข้างมาก โดยจะอยู่ในราศีสิงห์ถึง 8 เดือน จากปกติจะอยู่แค่ 45 วัน จะส่งผลให้เกิด 

1.ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศรุนแรงถึงขั้นต้องเกิดการต่อสู้กันขึ้น 

2.ปัญหาเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ โรคระบาด ความรุนแรงเทียบได้กับการเกิดของไข้ทรพิษในอดีต 3.ปัญหาความแตกแยกในประเทศ ปัญหาการแบ่งแยกดินแดนจะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ  ต้องระวังปัญหาชายแดนภาคใต้ ปัญหาปราสาทเขาพระวิหาร แนวชายแดนอาณาเขต รวมถึงปัญหาน่านน้ำทางทะเล ขณะเดียวกันอาจเกิดปัญหาความแย้งทางการเมืองระหว่างกลุ่มต่างๆ จนเกิดเป็นปัญหาการเมืองรุนแรง

4.เรื่องของไฟ ทั้งจากธรรมชาติ และเกิดจากฝีมือมนุษย์

5.จะปัญหาที่เกิดขึ้นจะส่งผลรุนแรงต่อเจ้าเรือน หรือผู้สืบสันติวงศ์ 

6.เยาวชนจะหันมาสนใจการเมืองมากขึ้น แต่ก็จะถูกปลุกระดมและชักจูงไปได้ง่าย 

cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

บทสรุป ปัญหาการเมือง
รุนแรง ดุเดือด กว่าปี 54 เหตุการณ์ทางการเมืองในปี 2555
จะเกิดความรุนแรงกว่าปี 2554 เนื่องจากอุทกภัยผ่านพ้นไป ประชาชนได้คิด
เรื่องของสถาบันชั้นสูงยังคงได้รับความคุ้มครอง
เนื่องจากดาวพฤหัสโคจรเดินหน้า คุ้มครอบบ้านเมืองให้พ้นเพศภัย
แต่จะมาเจอกับดาวเสาร์ที่เล็งทับลัคนาเมือง
จะส่งผลให้การเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลง ในเดือนกรกฎาคม 2555
แต่ก็อาจไม่รุนแรงมาก เศรษฐกิจ รัฐบาลใช้งบประมาณสิ้นเปลือง
จนก่อให้เกิดหนี้สิน เกิดการสูญเสีย ปัญหาคอรัปชั่นแก้ไม่หมด
และรุนแรงขึ้น ปัญหาจะรุมเร้าหนักในช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไป
ส่งผลกระทบให้ประชาชน การดำเนินชีวิตด้วยความอัตคัด
ช่วยเหลือตัวเองในการดำรงชีพ เพื่อเอาตัวรอด ความสุขลดน้อยลง

เกี่ยวกับภิญโญ พงศ์เจริญ

โหรภิญโญ พงศ์เจริญ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ทำนายดวงเมือง เชี่ยวชาญเรื่องการทำนายเกี่ยวกับเกิดอุปราคาและการเดินทางของดวงดาวที่มีผลกระทบต่อดวงเมือง จบนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ประกอบอาชีพทนายความ ต่อมาได้ศึกษาตำราโหรจากเจ้าคุณอุดม ศีลคุณ วัดบุรณศิริมาตยาราม เป็นอาจารย์พิเศษทางด้านโหราศาสตร์ ในสถาบันการศึกษา

ตรวจสอบคำทำนาย 

ปี 2554 โหรภิญญา เคยทำนายไว้ว่า บ้านเมืองจะเข้าสู่ภาวะปกติในเดือนพฤษภาคม แต่จะกินเวลาสั้นๆ 4 เดือน มิถุนายนถึงสิงหาคม จากนั้นในเดือนตุลาคมจะกิดปัญหาภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่จะมีความรุนแรงมาก โดยในเดือนตุลาคมจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ หนักกว่าปี 2553 มาก พอเข้าสู่เดือนพฤศจิกายนเหตุการณ์น้ำทวมยังคงอยู่และจะท่วมหนักกว่าเดิม 

ยังได้ทำนายถึงอุบัติภัยทางทะเลและทางอากาศ อากาศยานตกได้รับความเสียหาย จะเกิดความยุ่งยากเรื่องดินแดนอาณาเขต 

รัฐบาลและผู้นำระดับสูงจะออกมาแสดงบทบาทให้ความช่วยเหลือประชาชนไม่เช่นนั้นจะถูกชุมนุมกดดันอย่างหนัก