มิสทิน “ขาว” แล้วค่ะ

ทนกับกระแสความนิยมของเครื่องสำอางจากเกาหลี ญี่ปุ่นที่ดาหน้าเข้าไทยไม่ไหว แถมสาวไทยมากกว่า 80% ยังหันนิยมผลิตภัณฑ์ที่ให้เรื่องความขาวใส ตามเทรนด์ศิลปินเกาหลีและญี่ปุ่น  มิสทินจึงต้องเดินเกม “ชอตคัต สตราทิจี้” ด้วยการจับมือกับ “วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก” ร่วมผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาวออกวางตลาด 

วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก นั้นขึ้นชื่อว่าคลินิกเสริมความงามที่เน้นการทำให้ผิวขาวใส แถมช่วงหลังยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม “กลูตาเฮลติ” ซึ่งมีส่วนผสมของสารกลูตาไธโอนออกสู่ตลาด การร่วมมือกันรอบนี้ มิสทินจะอาศัยวุฒิ-ศักดิ์คลินิกทำหน้าที่คิดค้นสูตรสินค้าเพื่อนำมาผลิตและติดแบรนด์มิสทิน โดยไม่ต้องลงทุนวิจัยและพัฒนาสินค้าขึ้นเอง ซึ่งต้องใช้เงินทุนและเวลา

สินค้าตัวแรกที่เกิดจากความร่วมมือในครั้งนี้ คือโลชั่นมิสทิน ไวท์ สปา กลูตาไธโอน ยูวี ไวท์ โดยมิสทินใช้ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต เป็นพรีเซ็นเตอร์ ตัวแทนสาวผิวขาว ผ่านโฆษณาในทุกรูปแบบทั้งโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ ควบคู่กับกิจกรรมทางการตลาดหลากหลาย ด้วยงบตลาดรวมกว่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 6 ล้านขวดภายในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ ทั้งสองจะใช้ ช่องทางจัดจำหน่ายร่วมกัน โดยมิสทินจะนำสินค้าไปวางขายวางขายอยู่ในคลินิกความงามวุฒิ-ศักดิ์ ที่มีฐานลูกค้ามากนับแสนราย ใน 115 สาขาทั่วประเทศ โดยจัดทำเป็นคอร์เนอร์มิสทินวางสินค้าในทุกกลุ่มของมิสทิน ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ เมกอัพ และน้ำหอม  ซึ่งวุฒิ-ศักดิ์มีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 1หมื่นคนต่อวันในทุกสาขา มิสทินมองว่า เห็นผลิตภัณฑ์มิสทินก็อาจเกิดการตัดสินใจซื้อและกลายเป็นฐานลูกค้าให้กับมิสทินเช่นกัน ส่วนวุฒิ-ศักดิ์ จะนำผลิตภัณฑ์ความงามเข้าไปอยู่ในแค็ตตาล็อกของมิสทินเพื่อให้สาวมิสทิน ตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 1ล้านคน และมีลูกค้าประมาณ5ล้านคน

ดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทเบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารแบรนด์มิสทิน บอกว่า การร่วมมือครั้งนี้ถือว่า Win Win ทั้งคู่ เพราะเป็นการนำจุดเด่นของกันและกันมาผนวกรวมกันจะสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ ซึ่งมิสทินมองว่า ธุรกิจขายตรงต้องขยับและอยู่แบบเดิมไม่ได้แล้ว แม้กระทั่งวุฒิ-ศักดิ์ คลินิก เอง ก็ต้องหาพันธมิตรคู่ค้าเพิ่มสร้างความแข็งแกร่ง 

“ต้องยอมรับว่าแบรนด์ใหม่จากเกาหลีและญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดจำนวนมาก และเป็นคู่แข่งที่น่าจับตา ซึ่งมิสทินมั่นใจวุฒิ-ศักดิ์ คลินิกมีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาสูตรเพื่อความขาวสำหรับสาวไทย ทั้งใบหน้าและร่างกาย”

สำหรับแผนงานในอนาคตอันใกล้นี้เตรียมให้วุฒิ-ศักดิ์ คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาวเพิ่มขึ้นอีกเพื่อจะสร้างความหลากหลายและทางเลือกให้สาวไทยอยากมีผิวขาวมากขึ้น รวมทั้งในอนาคต มิสทินนำกลยุทธ์ “สตาร์ มิกซ์” คือการใช้ดารา นักร้องจากเกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่นิยมในหลายประเทศ มาทำตลาดในไทยเพื่อรับมือกับกระแสเกาหลีฟีเวอร์ 

ก่อนจะมาจับมือกับวุฒิ-ศักดิ์ มิสทินเคยนำเข้า บีบี พาวเดอร์ ครีม ตั้งแต่ปลายปี 2551จากเกาหลี และตามมาด้วยแป้งมิสทิน นัมเบอร์วัน ไดมอนด์ ในปี 2552 มาแล้ว 

 

Profile 

– จับมือสหพัฒน์ ลงทุน 2,000 ล้าน สร้างโรงงานแห่งที่ 2 ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า 

– โรงงานแห่งที่ 2 แล้วเสร็จปี 2558 รองรับการผลิตเมกอัพและสกินแคร์ 

– มิสทินใช้เกาหลี ฟีเวอร์สร้างอิมเมจความขาว

– มิสทินเห็นเทรนด์ สตาร์ มิกซ์ เตรียมลิงค์กระแสดารา-นักร้องจากเกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกา 

– ตลาดในประเทศ 90 % ต่างประเทศ 10% 

– ตั้งเป้า12,000 ล้านบาท เติบโต 13% ในปีนี้

– ตั้งเป้า 20,000 ล้านบาท อีก5 ปีข้างหน้า (2555-2559)