ดีแทคยื่นหนังสือวอนวุฒิสภาเร่งลงมติ ประกาศรายชื่อ กทช. ให้ทันสมัยประชุมนี้

เช้าวันนี้ (19 มี.ค.) ที่อาคารรัฐสภา นายวิชัย เบญจรงคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) พร้อมคณะฯ ได้เดินทางเข้าพบนายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา และ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไผ่นวล ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติและความประพฤติของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องและขอความกรุณา เร่งรัดกระบวนการคัดเลือกบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ให้เสร็จสิ้นภายในสมัยประชุมนี้ เพื่อให้ประเทศไทยมีหน่วยงานกลางทำหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินงานของผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมตามนโยบายเปิดการแข่งขันเสรี ให้เกิดความเท่าเทียม เป็นธรรม รวมทั้งให้ความคุ้มครองประชาชนและผู้บริโภค

เนื่องจาก กทช. เป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ ทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่และกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม ให้เป็นประโยชน์สูงสุดของประชาชน ในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ทั้งในด้านการศึกษา วัฒนธรรม ความมั่นคงของรัฐ และประโยชน์สาธารณะอื่น ๆ รวมทั้งการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม ตลอดจนส่งเสริมและพัฒนากิจการโทรคมนาคมของประเทศไทย และที่สำคัญ คือเป็นหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม ในสภาวการณ์ที่ประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงสภาพขององค์การรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเคยเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ กำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมมาเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ดำเนินธุรกิจแข่งขันกับภาคเอกชนอย่าง เช่น องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย และการสื่อสารแห่งประเทศไทย

ดังนั้น ความล่าช้าในกระบวนการคัดเลือกและสรรหาบุคคล เพื่อทำหน้าที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติดังที่ผ่านมานั้น ทำให้เกิดความชะงักงัน ประเทศไทยต้องสูญเสียโอกาสในการพัฒนาทางธุรกิจโทรคมนาคม และเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ในระหว่างผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม ซึ่งปัจจุบันอยู่บนพื้นฐานที่แตกต่างกัน ไม่เท่าเทียมและไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่กฎหมายกำหนด

ดีแทคเห็นว่าวุฒิสภาเป็นองค์กรซึ่งจะสร้างความเป็นธรรมและขจัดปัญหาที่ทับซ้อนอยู่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในเวลานี้ได้ ด้วยการเร่งรัดกระบวนการคัดเลือกบุคคล ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ให้แล้วเสร็จภายในสมัยประชุมนี้ เพื่อให้กิจการโทรคมนาคมของประเทศไทยได้มีหน่วยงานกลางกำกับดูแลเหมือนแบบอย่างสากลและยังประโยชน์แก่ส่วนรวมตลอดจนประเทศชาติต่อไป