รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 22 มีนาคม 2547

ประเด็นตลาดวันนี้

ดัชนีตลาดหุ้น SET วันจันทร์ปิดบวกร้อยละ 0.01 สวนทางกับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่
โดยมาปิดที่ระดับ 681.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 10,260.08 ล้านบาท
ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และลดลง 5,241.84 ล้านบาท เทียบกับวันศุกร์ที่ผ่านมา

– เงินบาท และเงินยูโร อ่อนค่าลงในวันนี้ มาอยู่ที่ระดับ 39.470 บาท/ดอลลาร์ และ 1.2288 ดอลลาร์/ยูโร ตามลำดับ ในขณะที่ เงินเยนแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 107.02 เยน/ดอลลาร์

– ดัชนีตลาดหุ้น Nikkei วันจันทร์ปรับลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยปิดลบร้อยละ 0.88 สู่ระดับ 11,318.51 จุด

– ดัชนีตลาดหุ้น Hang Sang วันจันทร์ปิดลบร้อยละ 1.87 มาอยู่ที่ระดับ 12,550.91 จุด

ผลการประมูลตั๋วเงินคลัง

TB04421C ประเภทอายุ 28 วัน วงเงิน 1,000 ล้านบาท ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.00% Bid Coverage Ratio 6.11
TB04623B ประเภทอายุ 91 วัน วงเงิน 2,000 ล้านบาท ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.04% Bid Coverage Ratio 3.88

– รมว.คลัง กล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทุกแห่ง จะร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชนทั้งในและนอกระบบราว 6 แสนล้านบาท ให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ ด้วยการซื้อหนี้มาบริหาร ทั้งนี้เป็นไปตามแผนแก้ปัญหาความยากจนของรัฐบาลที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้า

– ธปท. มั่นใจว่า แม้จะมีปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก และปัญหาราคาน้ำมันขยับสูงขึ้น แต่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะยังขยายตัวได้ดี จากการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชน และการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ ธปท. ได้ระบุว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศของไทย ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.26 หมื่นล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 12 มี.ค. 2547 มีความแข็งแกร่งเพียงพอสำหรับการที่รัฐวิสาหกิจจะทยอยชำระคืนหนี้ต่างประเทศก่อนกำหนด

– รัฐบาลฮ่องกงเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ลดลง 2% ในเดือนกุมภาพันธ์ จากปีที่แล้ว มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ลดลง 1.3%

ภาวะตลาดหุ้น

Japan Nikkei-225
ดัชนีตลาดหุ้น Nikkei วันจันทร์ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังจากที่ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 21 เดือน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยมาปิดลบ 0.88% ที่ระดับ 11,318.51 จุด จาก การอ่อนแรงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และความผันผวนของค่าเงินเยน ได้กดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนลง โดยเฉพาะต่อหุ้นกลุ่มส่งออก นอกจากนี้ คำเตือนเกี่ยวกับผลกำไรจากบริษัทซันโย ยังได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ ทัศนคติบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร

Hong Kong’s Hang Sang
ตลาดหุ้นฮั่งเส็งวันจันทร์ร่วงลง 1.87% มาปิดที่ 12,550.91 จุด เนื่องจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมืองของไต้หวันหลังการประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งได้ส่งผลทางจิตวิทยาต่อนักลงทุน ในขณะที่ การอ่อนแรงลงของหุ้นสหรัฐฯ ช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ทำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการซื้อขายมากขึ้น

Thailand’s SET
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันจันทร์ปิดแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางมากที่สุดในรอบ 9 เดือน โดยปรับขึ้น 0.01% สู่ระดับ 681.34 จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร สื่อสาร และพลังงาน ขณะที่ ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง

จากการวิเคราะห์ทางด้านเทคนิค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ดัชนีหุ้นไทยวันอังคาร คงจะแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบๆ โดยมีแนวรับที่ระดับ 670 และ 675 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ระดับ 685 และ 690 ขณะที่ ตลาดยังไม่มั่นใจว่าการกลับเข้ามาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ประกอบกับ ทิศทางการอ่อนค่าลงของตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ และการขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นการซื้อขาย คาดว่าจะยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และทำให้มูลค่าการซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาทอ่อนค่าลง ในขณะที่เงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้น หลังข่าวปากีสถานปิดล้อมกลุ่มนักรบ ซึ่งอาจรวมถึงผู้นำอันดับ 2 ของกลุ่ม อัล เคดา โดยในช่วงเช้า ธุรกรรมการซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง จากที่ตลาดยังคงไม่แน่ใจทิศทาง เงินเยน/ดอลลาร์

Yen/USD
เงินเยนปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นส่งสัญญาณการผ่อนคลายการแทรกแซงค่าเงินเยน อย่างไรก็ดี ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ได้ออกมากล่าวว่า ทางการญี่ปุ่นยังคงดูการเคลื่อนไหวของเงินเยนอย่างใกล้ชิด โดยทางการอาจจะเข้าไปมีบทบาทหากจำเป็น เพื่อไม่ให้เงินเยนเคลื่อนไหวผันผวนเกินไป

USD/Euro
เงินยูโรอ่อนค่าลง ในขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ที่จะสามารถกระตุ้นค่าเงินยูโร โดยล่าสุด มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีอาจเติบโตน้อยกว่าที่คาด หลังดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมันเดือนมีนาคมลดลงเป็นเดือนที่ 3 โดยนักวิเคราะห์บางรายมองว่า ภาพรวมเศรษฐกิจยุโรปที่ยังคงอ่อนแอ ทำให้เกิดความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคราวหน้า

จากการวิเคราะห์ทางด้านเทคนิค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประมาณว่า ค่าเงินบาทในวันอังคารนี้ คงจะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 39.40-39.45 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเงินบาทอาจจะอ่อนค่าลงเล็กน้อย ตามทิศทางค่าเงินเยน ในขณะที่ตลาดหุ้นนิกเกอิในวันนี้มีการปรับตัวลดลง

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond 1 Year * / Thai Gov. Bond 5 Years * / Thai Gov. Bond 10 Years * / Thailand Bond Volume (MB)

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย ปรับตัวแคบๆ ในช่วง 0 ถึง –3 bps. โดยสเปรดระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 2 และ 10 ปี อยู่ที่ 2.58% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ขณะที่มูลค่าการซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ไทย ลดลง 21.07% จากปลายสัปดาห์ก่อน ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ประเภทอายุ 10 ปี ค่อนข้างทรงตัว ท่ามกลางความกังวลต่อเหตุการณ์การก่อการร้าย ในขณะที่ตลาดจับตาการรายงานตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ประจำเดือนมีนาคม ซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยออกมาในวันที่ 2 เม.ย. นี้