ไมโครซอฟท์เปิดตัวบิสิเนสโซลูชั่น CRM จับตลาดธุรกิจขนาดกลางครั้งแรกในเมืองไทย

กรุงเทพฯ – 5 เมษายน 2547 – บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว CRM ไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไมโครซอฟท์ บิสิเนส โซลูชั่น ด้านการบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ หรือ CRM (Customer Relation Management) เพื่อสนองความต้องการขององค์กรธุรกิจขนาดกลางในประเทศไทย

วัตถุประสงค์หลักของการแนะนำไมโครซอฟท์ CRM ในประเทศไทย ก็เพื่อเป็นการขยายโอกาสให้กับองค์กรธุรกิจขนาดกลางในประเทศได้ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและบริการใหม่ๆ ด้าน CRM ซึ่งก่อนหน้านี้สามารถรองรับได้เฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น” นายชาญชัย พันธุ์โสภา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการตลาด บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

“ไมโครซอฟท์ ตระหนักดีว่า ธุรกิจขนาดกลางต้องการโซลูชั่นที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมีการตัดสินใจที่ตรงเป้าหมาย ฉับไว และมีประสิทธิภาพ รวมถึงความสัมพันธ์กับลูกค้าที่ยั่งยืน ซึ่งจะช่วยสร้างผลกำไรและความได้เปรียบทางธุรกิจในที่สุด โดยไมโครซอฟท์มีความมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ธุรกิจต่างๆ บรรลุศักยภาพสูงสุดของตนเอง โดยใช้บิสิเนสโซลูชั่นทีเข้าถึงลูกค้าแต่ละราย โดยเฉพาะ” นายชาญชัยกล่าว

นายชายชัยกล่าวต่อไปว่า “CRM มีความสำคัญอย่างยิ่งในการแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบัน เนื่องจากมีผลโดยตรงต่อสิ่งที่สำคัญที่สุดของธุรกิจ นั่นก็คือ ลูกค้าโดย CRM จะให้ข้อมูลในเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้า ตลอดจนพนักงานและการดำเนินงานของธุรกิจ ดังนั้น องค์กรจึงสามารถบริหารจัดการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”

จากการศึกษาวิจัยขอ IDC เมื่อเดือนธันวาคม 2545 พบว่า ตลาดแอพพลิเคชั่นด้าน CRM ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (ยกเว้นญี่ปุ่น) ในปี 2545 มีมูลค่ารวม 8,456 ล้านบาท (211.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 21,580 ล้านบาท (539.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในปี 2550

“ประเทศไทย จะเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงสุดแห่งหนึ่งสำหรับแอพลิเคชั่นด้าน CRM ในภูมิภาคอาเซียน ด้วยอัตราเติบโต 32% (ในช่วงระยะเวลา 5 ปี จากปี 2545 ถึง ปี 2550 เราคาดว่ามูลค่าตลาดแอพพลิเคชั่น CRM ในประเทศไทย จะพุ่งสูงขึ้นเป็น 187.2 ล้านบาท (4.68 ล้านเหรียญสหรัฐ) ภายในสิ้นปี 2547 และด้วยฐานข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่ 140 ราย และการสนับสนุนอย่างดีจากคู่ค้า 16 ราย ของไมโครซอฟท์บิสิเนสโซลูชั่น เราจะแนะนำโซลูชั่นใหม่ๆ ภายใต้ไมโครซอฟท์ CRM เพื่อสนองตอบความต้องการเฉพาะของธุรกิจในด้านการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ” นายชาญชัยกล่าว

มร.ไซมอน รอยล์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ไฮโร คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์ CRM เป็นโซลูชั่นที่สามารถทำงานเข้ากันได้อย่างดีกับโซลูชั่นของไมโครซอฟท์อื่นๆ ที่มีอยู่ เช่น Microsoft Office และ Microsoft Exchange Server ดังนั้นลูกค้าไมโครซอฟท์จึงสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากโครงสร้างด้านไอทีที่มีอยู่ได้ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและการจัดการด้านไอทีได้อย่างมาก”

นายชาญชัยกล่าวว่า “โดยปกติแล้ว เทคโนโลยี CRM จะมีความสำคัญกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการให้บริการลูกค้า เช่น ธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ การจัดจำหน่าย และธุรกิจการเงิน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตลาด CRM กำลังขยายตัวเข้าไปในตลาดอุตสาหกรรมการผลิต ภาครัฐ และภาคการศึกษามากขึ้น เนื่องจากผู้บริหารได้ตระหนักถึงความสำคัญของการนำกลยุทธ์ด้าน CRM มาใช้ในการจัดการมากขึ้น”

ไมโครซอฟท์ CRM ช่วยเพิ่มรายได้ของธุรกิจ ผ่านระบบการรายงานผลและการตัดสินใจที่รวดเร็ว เพิ่มความสำคัญกับลูกค้า ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดต้นทุน และสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจ

ไมโครซอฟท์ CRM เป็นแอพลิเคชั่นทางธุรกิจแรกที่พัฒนาบนเทคโนโลยี .NET ซึ่งง่ายต่อการใช้งาน และการปรับแต่งให้เข้ากับลักษณะงาน เนื่องจากสามารถเรียกใช้งานจาก Microsoft Outlook หรือจากอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ CRM มีคุณสมบัติที่โดดเด่น 4 ด้านได้แก่ ประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น การทำงานเข้ากันได้ดีกับข้อมูลและแอพพลิเคชั่นธุรกิจอื่นๆ รวมถึงเว็บเซอร์วิส ความง่ายในการปรับแต่งการใช้งานของธุรกิจ และค่าใช้จ่ายในการบริหารรวมที่ต่ำกว่าโซลูชั่น CRM ทั่วไป