รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2547

ประเด็นตลาดวันนี้

ดัชนีตลาดหุ้น SET วันพุธที่ 16 มิ.ย. ปิดตลาดที่ 624.36 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ นับจากวันที่ 7 มิ.ย. เป็นต้นมา โดยเพิ่มขึ้น10.6 จุด หรือ ร้อยละ 1.73 ทั้งนี้เป็นการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ซึ่งได้ปัจจัยบวกจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯที่จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

– เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงไปเมี่อเทียบกับเงินเยน,เงินยูโร และเงินบาทในวันนี้ โดยอยู่ที่ระดับ 109.6 เยน/ดอลลาร์ฯ, 1.2115 ดอลลาร์ฯ/ยูโร และที่ 40.887 บาท/ดอลลาร์ฯ ตามลำดับ

– ดัชนีNikkei ในวันพุธปรับตัวเพิ่มขึ้นไปปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยเพิ่มถึง 254.02 จุด หรือ ร้อยละ 2.23 ไปปิดที่ระดับ 11,641.72 จุด โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงของสหรัฐฯสิ้นเดือนนี้

– ตลาดหุ้นDow Jones ในวันอังคารที่ผ่านมา ปิดตลาดที่ระดับ 10,380.43 จุด เพิ่มขึ้น 45.7 จุด หรือ ร้อยละ0.44 โดยนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแรงของสหรัฐฯ หลังจากการเปิดเผยดัชนี Core CPI ของเดือน พ.ค. ที่เป็นไปตามความคาดหมาย

– รัฐบาลสหรัฐฯรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือน พ.ค. ได้เพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.4% อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นตัวแปรสำคัญที่ธนาคารกลางสหรัฐฯใช้บ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ ได้เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมาย

– หัวหน้าฝ่ายของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์จีดีพี ในปีนี้ของประเทศไทยลงจาก 7% เหลือ 6.5% พร้อมกล่าวว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี แต่การใช้นโยบายการคลังของรัฐควรจะเน้นไปในกิจการสาธารณูปโภคให้มากขึ้น ส่วนปัจจัยเสี่ยงภายนอกประเทศที่จะมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ได้แก่ การก่อการร้าย ราคาน้ำมัน และ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ส่วนปัจจัยเสี่ยงในประเทศได้แก่ ปัญหาภาคใต้

ภาวะตลาดหุ้น

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นในวันพุธ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.เป็นต้นมา โดยปิดที่ 11,641.72 จุด เพิ่มขึ้นถึง 254.02 จุด หรือ ร้อยละ2.23 ทั้งนี้หุ้นในเกือบทุกกลุ่มได้ปรับตัวสูงขึ้น จากการที่นักลงทุนได้คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างมากของสหรัฐฯ เนื่องจากมีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเดือน พ.ค. ที่เป็นไปตามคาด ประกอบกับคำกล่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ว่าอัตราเงินเฟ้อยังไม่อยู่ในภาวะที่น่าวิตก ทำให้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแรง

US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาปิดตลาดที่ระดับ 10,380.43 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 45.7 จุด หรือร้อยละ 0.44 ทั้งนี้นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงแรง ถึงแม้ว่าตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือน พ.ค. จะเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้เดิมที่ 0.4% แต่ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นตัวเลขสำคัญในการบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อได้เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมาย นอกจากนั้นคำแถลงของนายอลัน กรีนสแปน ต่อคณะกรรมาธิการธนาคารประจำวุฒิสภา ที่ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้การซื้อขายเป็นไปอย่างคับคั่งที่ 1.35 พันล้านหุ้นในวันนี้

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ในวันอังคาร เพิ่มขึ้นไป 25.61 จุด หรือ ร้อยละ 1.3% โดยปิดตลาดอยู่ที่ 1,995.6 จุด ทั้งนี้ตลาดได้ปัจจัยบวกจากการที่คำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับได้แรงหนุนจากราคาหุ้นออราเคิล คอร์ป ที่ปรับขึ้นอย่างมาก

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดเพิ่มขึ้นจากวันอังคารที่ผ่านมาถึง 10.6 จุด หรือ ร้อยละ 1.73 มาอยู่ที่ระดับ 624.36 จุด ซึงเป็นระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์นับจาก 7 มิ.ย. ทั้งนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ที่ปรับขึ้น หลังนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงของสหรัฐฯ โดยมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มของหุ้นไฟแนนซ์,สื่อสาร และเคมีภัณฑ์

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาท/เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนเมื่อวานนี้ เป็นการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่ปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ จากการลดการคาดการณ์เกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแรงของสหรัฐฯสิ้นเดือนนี้ หลังจากปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวแปรสำคัญที่กดดันค่าเงินในภูมิภาคมาตลอดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับเงินเยน หลัง