รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 19 กรกฎาคม 2547

ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้

– ตลาดหุ้นไทยในวันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม ปรับตัวลดลงไปอีก 3.99 จุด หรือร้อยละ 0.75 ไปปิดที่ระดับ
642.12 จุด จากความวิตกกังวลในเรื่องของราคาน้ำมันที่ได้ปรับสูงขึ้นอีกครั้ง และทิศทางอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับข่าวการลดค่ากลั่นของโรงกลั่น ทำให้มีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมาอย่างมากในวันนี้

– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเพิ่มขึ้นในวันนี้ โดยเพิ่มขึ้นไป 107.75 จุด หรือร้อยละ 0.89 ไปปิดที่ระดับ 12,166.95 จุด โดยได้รับแรงบวกจากการปรับขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และราคาหุ้นบริษัทจีนจากความคาดการณ์ที่ว่าจีนได้ประสบความสำเร็จในนโยบายชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจทำให้มีความเป็นไปได้น้อยที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีก
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการในวันนี้เนื่องในวันหยุดประจำชาติ

– ตลาดหุ้น Dow Jones วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม ปิดตลาดลดลงเป็นวันที่สามที่ระดับ 10,139.78 จุด ลดลงไป 23.38 จุด หรือร้อยละ 0.23 จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯและผลกำไรของภาคเอกชน ประกอบกับการปรับตัวลงของราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี

– เงินดอลลาร์สหรัฐฯยังอ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับเงินเยน เงินบาท และยูโรในวันนี้โดยอยู่ที่ระดับ 108.22 เยน/ดอลลาร์ฯ 40.77 บาท/ดอลลาร์ฯ และที่ 1.2438 ดอลลาร์ฯ/ยูโร ตามลำดับ

ภาวะตลาดหุ้น

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ปิดตลาดลดลงไปอีก 3.99 จุด หรือร้อยละ 0.75 ไปปิดที่ 642.12 จุด โดยนักลงทุนได้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ได้ปรับขึ้นไปสู่ระดับ 41 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรลในวันนี้ ประกอบกับข่าวการลดค่ากลั่นของโรงกลั่นทำให้มีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานออกมา นอกจากนั้นนักลงทุนจะยังรอดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยในวันพุธนี้

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการในวันนี้เนื่องจากเป็นวันหยุดประจำชาติ

Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดในวันนี้เพิ่มขึ้นไป 107.75 จุด หรือร้อยละ 0.89 ไปปิดที่ระดับ 12,166.95 จุด โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และราคาหุ้นบริษัทจีน จากการที่นักลงทุนเชื่อว่ารัฐบาลจีนประสบความสำเร็จในการชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจ และอาจมีความเป็นไปได้น้อยที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีก ประกอบกับการคาดการณ์ถึงผลประกอบการที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกนี้

US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯในศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม ปิดตลาดลดลงเป็นวันที่สามติดต่อกัน โดยลดลงไป 23.38 จุด หรือร้อยละ 0.23 ไปปิดที่ระดับ 10,139.78 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและผลกำไรของภาคเอกชนที่อาจลดลง หลังจากการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคที่ลดลงจากเดือนก่อน และตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าระดับที่คาดไว้ นอกจากนั้นการที่ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันการซื้อขาย โดยนักลงทุนกังวลว่าอาจจะเกิดการก่อวินาศกรรมในอิรักในช่วงสุดสัปดาห์

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ได้ลดลงไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.เป็นต้นมา โดยปิดที่ระดับ 1,883.15 จุด ลดลงไป 29.56 จุด หรือร้อยละ 1.55 โดยได้รับแรงกดดันจากการลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ จากการที่หลายบริษัทได้ปรับลดการคาดการณ์รายได้ลงไป

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาท/เงินดอลลาร์สหรัฐฯในวันนี้แข็งค่าขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯได้ประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคที่ต่ำกว่าความคาดหมายของตลาด ทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เงินบาทไม่ได้ปรับแข็งค่าขึ้นมากนักโดยนักลงทุนจะรอฟังการแถลงการณ์ของนาย อลัน กรีนสแปน ต่อวุฒิสภาสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้ และการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยในวันพุธนี้

Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับเงินเยนในวันนี้ จากการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคที่ลดลง โดยถึงแม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.3 มากกว่าที่คาดไว้ที่ร้อยละ 0.2 แต่ก็ยังคงต่ำกว่าเดือน พ.ค.ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 0.6 และตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเพียงร้อยละ 0.1 เท่านั้น ประกอบกับการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีก และ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมาได้ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯจะถูกปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปที่ร้อยละ 0.25 ในการประชุมครั้งหน้าในเดือน ส.ค. นี้

USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยได้อ่อนค่าลงไปถึงระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนในวันนี้ที่ 1.246 ดอลลาร์ฯ/ยูโร ก่อนที่จะแข็งค่าขึ้นมาเล็กน้อย โดยเงินดอลลาร์ฯถูกกดดันจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวที่ทำให้นักลงทุนเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯได้เติบโตขึ้นในอัตราที่ช้าลง ได้แก่ ตัวเลขเงินทุนไหลเข้า ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค และตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯไม่น่าที่จะถูกปรับขึ้นอย่างมาก

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 14,093.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นไปเล็กน้อยจากวันก่อนเพียงร้อยละ 0.63 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นได้ปรับเพิ่มขึ้นไปตั้งแต่ 2 ถึง 4 bps. ในขณะที่อัตราผผลตอบแทนของพันธบัตรระยะกลางและระยะยาวได้ลดลง ตั้งแต่ –1 ถึง –4 bps.

Us Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯในวันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม ได้ปรับตัวสูงขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของดัชนีเงินเฟ้อขั้นพื้นฐานในเดือน มิ.ย.ที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยตัวเลขดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.1 จากที่คาดไว้ที่ร้อยละ 0.2 ประกอบกับตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ก.ค. ที่เพิ่มขึ้นเพียง 96 จากที่คาดไว้ที่ 97 ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าไม่มีความจำเป็นที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแรง โดยนักลงทุนจะให้ความสนใจไปที่แถลงการณ์ของนายอลัน กรีนสแปน ต่อวุฒิสมาชิกในวันพรุ่งนี้