ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้
ตลาดหุ้นไทยในวันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม ปรับตัวลดลงจากวันก่อน 5.7 จุด หรือร้อยละ 0.87 ไปปิดที่ระดับ 650.12 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากการอ่อนตัวลงของตลาดหุ้นทั่วโลก ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับการที่มีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคาร สื่อสาร และ พลังงาน
– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลงในวันนี้ โดยลดลงไป 74.9 จุด หรือร้อยละ 0.6 ไปปิดที่ระดับ 12,320.21 จุด โดยนักลงทุนส่วนใหญ่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการลดลงของผลประกอบการบริษัทเอกชนในสหรัฐฯ โดยเฉพาะบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี เช่นเดียวกันกับในตลาดหุ้นญี่ปุ่นทำให้ราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวปรับลดลงในวันนี้
– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงในวันนี้ไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. โดยลดลงไป 148.82 จุด หรือร้อยละ 1.3 ไปปิดที่ 11,285 จุด โดยได้แรงกดดันจากการปรับลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี จากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของธุรกิจกลุ่มดังกล่าวในสหรัฐฯ
– ตลาดหุ้น Dow Jones วันพุธที่ 21 กรกฎาคม ปิดตลาดลดลงในวันนี้ที่ระดับ 10,046.13 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.เป็นต้นมา โดยลดลงไป 102.94 จุด หรือร้อยละ 1.01 จากการลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ตามความกังวลเกี่ยวกับผลกำไรในหุ้นกลุ่มดังกล่าวที่คาดว่าจะลดลง
-เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นไปเมื่อเทียบกับค่าเงินส่วนใหญ่ในวันนี้ โดยอยู่ที่ระดับ 109.74 เยน/ดอลลาร์ฯ, 40.99 บาท/ดอลลาร์ฯ และที่1.2249 ดอลลาร์ฯ/ยูโร ตามลำดับ
ภาวะตลาดหุ้น
Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ปิดตลาดลดลงไป 5.7 จุด หรือร้อยละ 0.87 ไปปิดที่ 650.12จุด โดยตลาดได้รับปัจจัยลบจากการที่ตลาดหุ้นทั่วโลกมีการปรับตัวลดลงในวันนี้ ตามการคาดการณ์ในแง่ลบเกี่ยวกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี นอกจากนั้นตลาดยังได้แรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และได้มีแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงาน สื่อสาร และ ธนาคารออกมา ทำให้ตลาดปรับตัวลงในวันนี้
Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงไปสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. โดยปิดที่ระดับ 11,285 จุด ลดลง 148.82 จุด หรือร้อยละ 1.3 ทั้งนี้ตลาดได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นของบริษัทชาร์ป ทั้งนี้เป็นการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันกับราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ที่ได้ปรับลดลง เนื่องจากความวิตกกังวลถึงอนาคตของอุตสาหกรรมดังกล่าวที่อุปสงค์ได้ลดลงและมีการแข่งขันทางด้านราคามากขึ้น
Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลง 74.9 จุด หรือร้อยละ 0.6 ไปปิดที่ระดับ 12,320.21 จุด โดยตลาดได้รับปัจจัยลบเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในญี่ปุ่น และสหรัฐฯที่ได้ปรับลดลงไปจากการคาดการณ์ในเชิงลบเกี่ยวกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ทำให้ราคาหุ้นบลูชิพส่วนใหญ่ และ ราคาหุ้นบริษัทจีนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมดังกล่าวปรับตัวลดลง ตามหุ้นกลุ่มเดียวกันในสหรัฐฯ
US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธที่ 21 กรกฎาคม ปิดตลาดลดลงไป 102.94 จุด หรือร้อยละ 1.01 ไปปิดที่ระดับ 10,046.13 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.เป็นต้นมา จากการลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทกลุ่มดังกล่าวในอนาคต ที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันทางด้านราคามากขึ้น จากการที่อุปสงค์ลดลงไป ในขณะที่อุปทานเพิ่มมากขึ้น ทำให้ถึงแม้ว่าบางบริษัทจะได้มีการประกาศผลประกอบการไตรมาส2/2547 ที่ดีขึ้น เช่น บริษัทโมโตโรลา แต่ราคาหุ้นยังคงมีการปรับตัวลดลง
US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ลดลงไปอย่างมากในวันนี้ โดยได้ปิดตลาดที่ระดับ 1,874.37จุด ลดลงไป 42.7 จุด หรือ 2.23 ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. 2003 จากการคาดการณ์ในเชิงลบเกี่ยวกับอนาคตของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี
สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
Baht/USD
เงินบาท/เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อ่อนค่าลงไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนในวันนี้ที่ 41.08 บาท/ดอลลาร์ฯ ก่อนที่จะได้กลับแข็งค่าขึ้นมาเล็กน้อย โดยความคิดเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯในวันอังคารที่ผ่านมาทำให้เงินดอลลาร์ฯแข็งค่าขึ้น นอกจากนั้นเงินบาทยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ความรุนแรงทางภาคใต้ การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกอีกครั้ง และการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังคงไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย R/P 14 วันได้ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มขายเงินบาทออกมา
Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่สอง ซึ่งยังได้กล่าวถึง เศรษฐกิจสหรัฐฯว่ายังคงมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่าแนวโน้มการขยายตัวดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปในปีนี้ และในปีหน้า โดยไม่มีความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของราคา ในขณะเดียวกันนักลงทุนจะยังรอดูตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ โดยคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงจากสัปดาห์ก่อน
USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโรเช่นเดียวกัน หลังจากการแถลงการณ์นโยบายการเงินรอบครึ่งปี ของนาย อลัน กรีนสแปน ที่ยังคงเชื่อมั่นในการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ การที่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอในช่วงที่ผ่านมาก็ เป็นการแสดงว่าเศรษฐกิจอ่อนแอลงเพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวต่อไปในปีนี้ และ ปีหน้า
สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้
Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 8,018.24 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนร้อยละ 10 โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะกลาง และระยะยาวยังคงปรับขึ้นไปจากวันก่อนตั้งแต่ 1 ถึง 3 bps. ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นแทบไม่เปลี่ยนแปลง
Us Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯในวันพุธที่ 21 กรกฎาคม ยังคงปรับตัวลดลง จากแถลงการณ์ของนาย อลัน กรีนสแปน ในวันที่สองที่ยังคงย้ำถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งได้ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง และได้คาดว่าในสิ้นปีนี้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯอาจจะขึ้นไปถึงร้อยละ 2.25