รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 23 กรกฎาคม 2547

ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้

ตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม ปิดที่ระดับ 648.47 จุด ปรับตัวลดลงจากวันก่อน 1.65 จุด หรือร้อยละ 0.25 โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะหุ้นกรุงไทย หลังการประกาศตัวเลข NPL ณ.สิ้นเดือน มิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเลข NPL ของธนาคารอื่นๆตามมา

• ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเพิ่มขึ้นในวันนี้ โดยเพิ่มไป 32.78 จุด หรือร้อยละ 0.27 ไปปิดที่ระดับ 12,352.99 จุด จากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จากการคาดการณ์ผลประกอบการของธุรกิจดังกล่าวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น

• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงเป็นวันที่สอง ไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยลดลงไป 97.71 จุด หรือร้อยละ 0.87 ไปปิดที่ระดับ 11,187.33 จุด จากการปรับลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ หลังจากการประกาศการคาดการณ์ผลกำไรที่ลดลงของบริษัท ไมโครซอฟท์

• ตลาดหุ้น Dow Jones วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ไปอยู่ที่ระดับ 10,050.33 จุด โดยเพิ่มขึ้น 4.2 จุด หรือร้อยละ 0.04 จากการประกาศตัวเลขผลประกอบการไตรมาส2/2547 ที่เพิ่มขึ้น และการคาดการณ์ผลกำไรที่ดีขึ้นของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีบางบริษัท

• เงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าขึ้นไปเมื่อเทียบกับค่าเงินส่วนใหญ่ในวันนี้ โดยอยู่ที่ระดับ 109.94 เยน/ดอลลาร์ฯ, 41.032 บาท/ดอลลาร์ฯ และที่1.222 ดอลลาร์ฯ/ยูโร ตามลำดับ

ภาวะตลาดหุ้น

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ปิดตลาดที่ระดับ 648.47 จุด ลดลงไป 1.65 จุด หรือร้อยละ 0.25 โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ โดยหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะหุ้นกรุงไทยได้ถูกขายออกมาอย่างมากในวันนี้ หลังจากมีการประกาศตัวเลข NPL ณ. สิ้นเดือน มิ.ย. ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นก็ได้ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในทิศทางตลาด

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยปิดที่ระดับ 11,187.33 จุด ลดลง 97.71 จุด หรือร้อยละ 0.87 ทั้งนี้ตลาดได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องจากวันก่อน หลังจากที่บริษัท ไมโครซอฟท์ ได้ประกาศการคาดการณ์ผลกำไรที่ลดลง นอกจากนั้นนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงชะลอการซื้อขายก่อนการรายงานผลประกอบการไตรมาส2/2547 ของบริษัทบลูชิพหลายบริษัทในสัปดาห์หน้า ได้แก่ บริษัท โซนี่ คอร์ป , บริษัทเอ็นทีที โดโคโม และ ชาร์ป คอร์ป

Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเพิ่มขึ้น 32.78 จุด หรือร้อยละ 0.27 ไปปิดที่ระดับ 12,352.99 จุด โดยตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จากการคาดการณ์ถึงผลประกอบการไตรมาส2/2547 ของธุรกิจดังกล่าวที่จะเพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนได้ลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในจีน และได้คาดการณ์ถึงการขาดแคลนที่อยู่อาศัยที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2005

US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นไปเล็กน้อยที่ 4.2 จุด หรือร้อยละ 0.04 ไปปิดที่ระดับ 10,050.33 จุด โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากการประกาศผลประกอบการไตรมาส2/2547 ที่ดีขึ้น และการคาดการณ์ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีบางแห่ง ซึ่งได้ช่วยลดความวิตกกังวลของนักลงทุนในตลาด ได้แก่ บริษัท ควอลคอมม์ อิงค์ และ บริษัท แลม รีเสิร์ช อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการลดลงอย่างมากของหุ้นบริษัท แคเทอร์พิลลาร์ อิงค์ และ อีเบย์ ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้นไปเช่นเดียวกัน โดยได้ปิดตลาดที่ระดับ 1,889.06จุด เพิ่มขึ้นไป 14.69 จุด หรือ ร้อยละ 0.78 โดยได้รับแรงบวกจากการเข้าช้อนซื้อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี เพื่อเก็งกำไรหลังจากที่ราคาได้ปรับลดลงอย่างมากเมื่อวานนี้

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาท/เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอยู่ใกล้กับระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนที่ 41.08 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยความคิดเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น นอกจากนั้นเงินบาทยังได้รับแรงกดดันจากการอ่อนค่าของค่าเงินเยน ซึ่งทำให้การซื้อขายในวันนี้อยู๋ในกรอบแคบๆที่ประมาณ 41 บาท/ดอลลาร์ฯ

Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากแถลงการณ์ของนาย อลัน กรีนสแปน ในเชิงบวกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในขณะที่เงินเยนได้รับแรงกดดันจากการที่ตลาดหุ้นในญี่ปุ่นปิดตลาดลดลง ประกอบกับการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ได้ลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ได้แก่ ตัวเลขดัชนีภาคบริการเดือน พ.ค.ที่ลดลงร้อยละ 1 จากเดือนก่อน และ ดัชนีอุตสาหกรรมทุกประเภทที่ได้ลดลงร้อยละ 0.7 จากที่นักลงทุนได้คาดว่าตัวเลขทั้งสองจะเพิ่มขึ้นไปร้อยละ 0.1

USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินยูโรในวันนี้ โดยเงินยูโรได้อยู่ใกล้กับระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 1.221 ดอลลาร์ฯ/ยูโร ที่ทำไว้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเงินดอลลาร์ฯยังคงได้รับแรงบวกจากแถลงการณ์นโยบายการเงินรอบครึ่งปี ของนาย อลัน กรีนสแปน ประกอบกับได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลง แต่การที่ตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. ของ Conference Board ได้ปรับลดลงจากที่คาดไว้ ทำให้เงินดอลลาร์ฯไม่ได้แข็งค่าขึ้นไปมากนัก

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 11,608.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนร้อยละ 44 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลได้ปรับเพิ่มขึ้นไปในทุกช่วงอายุ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตั้งแต่ 0-1bps. ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะกลาง และระยะยาวได้ปรับขึ้นไปตั้งแต่ 2 – 6 bps.

Us Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯในวันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนได้ปรับลดลงเล็กน้อยจากการเปิดเผยตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. ของ Conference Board ที่ลดลงจากที่คาดไว้ ประกอบกับการที่อัตราผลตอบแทนได้สะท้อน ถึงการคาดการณ์ของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ไปเรียบร้อยแล้ว