ไมโครซอฟท์ประกาศตัวโครงการนำร่อง Windows XP Starter Editio

กรุงเทพฯ 11 สิงหาคม 2547 – ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศตัวโครงการนำร่อง Microsoft Windows XP Starter Edition ใน 5 ประเทศ ซึ่งจะทำการแนะนำผลิตภัณฑ์วินโดวส์เวอร์ชั่นพิเศษที่ได้รับการออกแบบสำหรับผู้เริ่มใช้คอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปในตลาดประเทศกำลังพัฒนา โดย Windows XP Starter Edition นี้เป็นผลมาจากการความร่วมมืออย่างต่อเนื่องระหว่างไมโครซอฟท์และรัฐบาลในประเทศต่างๆ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ในการส่งเสริมให้ประชาชนทั้งในระดับบุคคล ระดับชุมชน และระดับประเทศ

มีความสามารถในการเข้าถึงทูลและนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีอย่างทั่วถึง ซึ่งจะทำให้พวกเขาได้ตระหนักถึงศักยภาพของตนเอง Windows XP Starter Edition เป็นผลิตภัณฑ์ขั้นต้นของตระกูลวินโดวส์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับตลาดท้องถิ่นแต่ละแห่งโดยเฉพาะ ในราคาย่อมเยา ใช้งานง่ายด้วยภาษาท้องถิ่น และสามารถทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นและอุปกรณ์บนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ได้มากมาย

เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2547 เป็นต้นไป Windows XP Starter Edition จะถูกวางจำหน่ายพร้อมกับพีซีเดสก์ท้อปใหม่ราคาพิเศษของบริษัทตัวแทนจำหน่าย OEM และบริษัทผู้ประกอบเครื่องใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ในรูปแบบของภาษาไทยภาษามาเลย์ และภาษาอินโดนีเซีย

Windows XP Starter Edition จะกลายเป็นระบบปฏิบัติการวินโดวส์ที่มีราคาย่อมเยาที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งทางบริษัทตัวแทนจำหน่าย OEM ของไมโครซอฟท์ จะได้รับทราบรายละเอียดของราคาผลิตภัณฑ์วินโดวส์ใหม่นี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งนี้ รายชื่อของอีก 2 ประเทศจาก 5 ประเทศที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะมีการเปิดเผยภายหลังในปีนี้หลังจากการเจรจาขั้นสุดท้ายกับทางรัฐบาลและพันธมิตรในประเทศนั้นๆ

ไมโครซอฟท์จะยังคงทำงานร่วมกับรัฐบาลของแต่ละประเทศที่เข้าร่วมโครงการนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจว่าโครงการนำร่องดังกล่าวจะประสบความสำเร็จตามที่คาดหมายไว้ ไมโครซอฟท์จะทำการศึกษาและประเมินคุณประโยชน์ต่างๆ ของโครงการนี้เป็นเวลา
12 เดือน ทั้งในกลุ่มผู้เริ่มหัดใช้พีซี พันธมิตรอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ภาครัฐ และตัวบริษัทไมโครซอฟท์เอง ซึ่งหลังจากระยะเวลา 12 เดือนดังกล่าว ก็จะมีการพิจารณาศักยภาพของตลาดกำลังพัฒนาอื่นๆ อีกหลายตลาดในการแนะนำ Window Starter Edition สำหรับประเทศนั้นๆ โดยความร่วมมือของรัฐบาลในแต่ละประเทศที่มีนโยบายในการสร้างการเข้าถึงเทคโนโลยีของประชาชน

น.พ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า “Microsoft Windows XP Starter Edition แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ในการร่วมมือกับรัฐบาลไทยเพื่อมอบคุณประโยชน์ให้กับประชาชนและอนาคตของสังคมไทย การพัฒนา Windows XP Starter Edition แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่สำคัญที่จะช่วยลดช่องว่างทางดิจิทัลในประเทศของเรา โดยการทำให้เกิดการใช้ซอฟต์แวร์ได้มากขึ้นง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับ ผู้เริ่มใช้พีซี”

ประโยชน์ของวินโดวส์ในราคาที่ย่อมเยากว่า

Windows XP Starter Edition เป็นการนำเสนอวิธีการใช้ซอฟต์แวร์ขั้นต้นอย่างง่ายๆ สำหรับผู้เพิ่งซื้อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาใช้เป็นครั้งแรกที่บ้าน คุณสมบัติหลักๆ ทางเทคโนโลยีได้แก่

• ซัพพอร์ตที่ปรับให้เข้ากับผู้บริโภคท้องถิ่น (Localized and tailored support) Windows XP Starter Edition มีระบบความช่วยเหลือที่ออกแบบใหม่อย่างสมบูรณ์ เรียกว่า ‘My Support’ ซึ่งรวมถึงรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ‘Getting Started Guide’ นอกจากนี้ Windows XP Starter Edition ยังมาพร้อมกับซีดีพิเศษที่มีวีดีโอคำแนะนำเป็นภาษาท้องถิ่นออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผู้ใช้พีซีครั้งแรก

• การปรับตามความต้องการของผู้บริโภคในท้องถิ่น (Localized customization) ด้วย Windows XP Starter Edition ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกวอลเปเปอร์และสกรีนเซฟเวอร์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเฉพาะในแต่ละประเทศได้ โดยมีภาพภูมิทัศน์ที่รู้จักกันดี ธงชาติ และภาพสถานที่ต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศ

• การตั้งค่าที่ปรับมาให้เรียบร้อยแล้ว (Pre-configured settings) Windows XP Starter Edition จะช่วยลดความสับสนของผู้ใช้ในระดับเริ่มต้นในการตั้งค่าตัวเลือก โดยมีการตั้งค่าแบบแอ๊ดวานซ์ที่ปรับมาให้เรียบร้อยแล้วและยังมี Windows Firewall อีกด้วย

• การจัดการงานต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น (Simplified task management) Windows XP Starter Edition ช่วยให้ผู้เริ่มใช้พีซีสามารถทำงานบน 3 โปรแกรมพร้อมกันได้ ด้วยการแสดงผลหน้าจอความละเอียด 800×600 พิกเซล แต่ไม่มีซัพพอร์ตสำหรับโฮมเน็ตเวิร์กกิ้งแบบพีซีต่อพีซี การแชร์พริ้นเตอร์ข้ามเน็ตเวิร์ค หรือการใช้งาน multiple user accounts ในพีซีเครื่องเดียวกัน

Windows XP Starter Edition ยังมีคุณสมบัติพื้นฐานทั่วไปของ Windows XP มากมายที่ผู้เริ่มใช้พีซีส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์ ได้แก่

• การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต (Internet connectivity) เพื่อเข้าอินเตอร์เน็ตและท่องเว็บ

• การปรับใช้งานซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ (software and hardware compatibility) พร้อมกับแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ เช่น พริ้นเตอร์ ลำโพง และกล้องถ่ายรูป

• อินเตอร์เฟซผู้ใช้วินโดวส์ที่สามารถรับรู้ได้เอง (The intuitive Windows user interface) ที่ผู้ใช้คุ้นเคยและสามารถทำงานได้อย่างสะดวกและง่ายดาย

• เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยที่ล้ำหน้า (advanced security technologies) ใน Windows XP Service Pack 2 ที่จะช่วยให้ผู้ใช้เกาะติดกับเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัยและปลอดภัยกว่าเสมอ

• Windows Messenger เพื่อการสื่อสารกับเพื่อนและครอบครัวผ่านการส่งข้อความแบบเรียลไทม์อย่างง่ายดาย

• การถ่ายภาพดิจิทัลด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ง่าย (digital photography support) เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บและแบ่งปันภาพดูกันในครอบครัวและกับเพื่อนฝูง หรือแม้แต่พริ้นท์ภาพออกมาด้วยเครื่องพิมพ์รุ่นใดรุ่นหนึ่งที่สนับสนุน Windows XP ในปัจจุบัน

• Windows Media Player 9 Series ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถฟังเพลงและดูวีดีโอได้

โอกาสที่เกิดจาก Windows Ecosystem

นอกจากประโยชน์ต่อสังคมในการช่วยลดช่องว่างทางดิจิทัลแล้ว Windows XP Starter Edition ยังได้สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับบริษัทผู้ประกอบเครื่องและผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลท้องถิ่นในการจำหน่ายโซลูชั่นที่ปรับแต่งตามความต้องการของท้องถิ่นบนแพล็ตฟอร์มของวินโดวส์

สร้างโอกาสสำหรับบุคคลทั่วไปและชุมชน

โครงการนำร่อง Microsoft Windows XP Starter Edition เกิดจากความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของไมโครซอฟท์ในการนำเสนอโปรแกรมนวัตกรรมที่ช่วยให้บุคคลทั่วไป ชุมชน และประเทศ บรรลุสู่ศักยภาพที่ควรจะเป็น ด้วยการสนับสนุนทางเทคโนโลยีและการศึกษา นอกจาก Microsoft Windows XP Starter Edition แล้ว เมื่อเร็วๆ นี้ ไมโครซอฟท์ยังได้ประกาศเปิดตัวโครงการ Local Language Program ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มในระดับโลกในการเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลเพื่อพัฒนาวินโดวส์ภาษาท้องถิ่นจำนวน 40 ภาษาให้เสร็จสิ้นภายในปีหน้า ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของจำนวนภาษาที่วินโดวส์สนับสนุนอยู่

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Partners in Learning (PiL) และ Unlimited Potential (UP) ที่ก่อให้เกิดการพัฒนาหลักสูตรไอทีครบวงจร การฝึกอบรม การเข้าถึงเทคโนโลยีในโรงเรียน และช่วยพัฒนาผลงานที่ได้ด้วยการมอบทักษะการฝึกอบรมทางเทคโนโลยีผ่านชุมชนและศูนย์การเรียนรู้ โดยทั้งโครงการ Partners in Learning และ Unlimited Potential ต่างก็มีเป้าหมายที่จะฝึกอบรมทักษะด้านไอทีแก่กลุ่มคนที่ด้อยโอกาส ทั่วโลก

แมกกี้ วิลเดอรอตเตอร์ รองประธานอาวุโสด้าน Worldwide Public Sector ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “เทคโนโลยีทำหน้าที่เสมือนตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับความเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก แต่มีประเทศหลายประเทศเหลือเกินที่ยังขาดทักษะด้านดิจิทัลขั้นพื้นฐานรวมทั้งการเข้าถึงเทคโนโลยี เราคาดหวังว่าการนำเสนอโซลูชั่นเทคโนโลยีในราคาย่อมเยา โดยได้ออกแบบมาเฉพาะสำหรับท้องถิ่น และสามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะในประเทศนั้นๆ ได้ จะช่วยสร้างโอกาสสำหรับชุมชนโลกมากขึ้น ในการก้าวไปสู่ศักยภาพที่ไร้ขีด จำกัดของเศรษฐกิจดิจิทัล”

แอนดรูว์ แม็คบีน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ประกาศเปิดตัว Windows XP Starter Edition ในประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยในการนำเสนอผลิตภัณฑ์วินโดวส์ที่ปรับเข้ากับตลาดผู้เริ่มใช้พีซี ความพยายามดังกล่าวทั้งหมดนี้เกิดจากความร่วมมืออย่างต่อเนื่องและการตอบสนองความต้องการของทั้งอุตสาหกรรม ภาครัฐ และผู้บริโภค”

ข้อมูลเกี่ยวกับไมโครซอฟท์

ไมโครซอฟท์ (หรือ MSFT ในตลาด Nasdaq) ก่อตั้งเมื่อปี 2518 เป็นผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์ การบริการ และโซลูชั่นส์ ซึ่งช่วยเหลือผู้คนและธุรกิจต่างๆ ตระหนักถึงศักยภาพที่มีอยู่เต็มเปี่ยม

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 บริษัทฯ เสนอซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกที่ใช้งานง่าย
และเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้คนไทย ตลอดจนแพลตฟอร์มที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจพัฒนาโซลูชั่นที่ตรงตาม
ความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับได้ตั้งแต่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไปจนถึงเครื่องขนาดใหญ่ระดับเมนเฟรม เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของจำนวนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในประเทศไทย

สำหรับสกรีนชอตและกราฟฟิกอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ Windows XP Starter Edition สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ www.microsoft.com/presspass