เทรนด์ ไมโคร ปลื้มติดกลุ่มดัชนีวัดความมั่นคงของดาว โจนส์ 2004 ชี้เป็นตัวช่วยสะท้อนผลตอบแทนในระยะยาวของผู้ถือหุ้น

กรุงเทพฯ – 28 กันยายน 2547 – บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ ผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์และการบริการด้านการป้องกันไวรัสบนเครือข่าย และการรักษาความปลอดภัยข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ประกาศว่า ทางบริษัทได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มดัชนีวัดความมั่นคงดาวโจนส์ (the Dow Jones Sustainability Indexes) 2004 โดยเทรนด์ ไมโคร เป็นผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัย และป้องกันไวรัสชั้นนำเพียงรายเดียว ที่ได้รับการรวมไว้ในดัชนีโลก (World Index) ของปีนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทกว่า 300 บริษัทจาก 24 ประเทศ และคิดเป็นสัดส่วน 10% ของบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก

ดัชนีวัดความมั่นคงดาวโจนส์ เป็นดัชนีตัวแรก ที่ติดตามผลประกอบการทางการเงินของบริษัทชั้นนำทั่วโลก จากแซม กรุ๊ป (Sustainable Asset Management) ซึ่งเป็นพันธมิตรของดัชนีดาว โจนส์ เพื่อกำหนดมาตรฐานในการวัดในครั้งนี้ ระบุว่า การตรวจสอบประจำปีที่ว่านี้ อิงอยู่กับการประเมินผลประกอบการ ความรับผิดชอบต่อสังคม และสภาพแวดล้อมของบริษัทต่างๆ การประเมินเหล่านี้ ยังให้ความสำคัญกับทิศทางผลประกอบการในปัจจุบันของบริษัท ที่จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับตัวเองได้

องค์กร ที่ได้รับการคัดเลือกให้รวมอยู่ในดัชนีนี้ จะถูกประเมินตามเงื่อนไขต่างๆ อาทิ การบริหารองค์กร, การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า, การวางแผนกลยุทธ์, การบริหารวิกฤต และความเสี่ยง และการรักษาพนักงานที่มีความสามารถให้ทำงานกับบริษัทนานๆ ปัจจัยเหล่านี้ สะท้อนสภาพความมั่นคงทางการเงินโดยรวมของบริษัท รวมถึงผลตอบแทนในระยะยาวของผู้ถือหุ้น

มาเฮนดรา เนกิ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ กล่าวว่า “เทรนด์ ไมโคร ภูมิใจมากที่ได้รับการจดจำในฐานะหนึ่งในบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก ทางเรามุ่งมั่นสร้างความพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าและผู้ถือหุ้น ไม่เฉพาะด้วยนวัตกรรมใหม่ทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงระบบบริหารจัดการทรัพยากรทางธุรกิจ และการพัฒนากลยุทธ์ที่คำนึงถึงอนาคต”

นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2531 เทรนด์ ไมโคร ได้เปิดตัวเทคโนโลยี บริการ และผลิตภัณฑ์ป้องกันไวรัส ซึ่งช่วยเปลี่ยนวิธีการรักษาความปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ทุกวันนี้ เทรนด์ ไมโคร ให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่ระบาด และจัดหาวิธีการที่ครอบคลุมเพื่อจัดการวงจรการแพร่ระบาด และความเสียหายจากการโจมตีของไวรัสและเวิร์มเครือข่าย ที่เกิดขึ้นกับความสามารถในการผลิต และข้อมูล ด้วยหลายโครงการ อาทิ เทรนด์ ไมโคร เอ็นเตอร์ไพร้ซ์ โปรเทคชั่น สเตรททีจี้ เป็นต้น

ที่ผ่านมา เทรนด์ ไมโคร ได้รับการยอมรับจากฟรอสต์ แอนด์ ซุลลิแวน (Frost and Sullivan) , แอคเซนเจอร์ (Accenture) รวมถึงนิตยสารคอมมอนเวลธ์ (Commonweath) และนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes)ได้รับรางวัลพอร์ตเตอร์ในปี 2546 และรักษาความสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม อย่าง ซิสโก้ ซิสเต็มส์ ไว้ได้อย่างใกล้ชิด บริษัทไอดีซี ระบุว่า เทรนด์ ไมโคร เป็นผู้นำในตลาดป้องกันไวรัสบนเครื่องแม่ข่าย ซึ่งประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์ป้องกันไวรัสที่เกตเวย์ อินเทอร์เน็ต, เมล์ เซิร์ฟเวอร์ และไฟล์ เซิร์ฟเวอร์ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคของทางบริษัท ยังได้รับการรับรองจากพีซี แมกกาซีน, ซีเน็ต และพีซี เวิลด์

ช่วงปลายปี 2546 เทรนด์ ไมโคร เติบโตเป็นบริษัทมูลค่า 48,090 ล้านเยน (หรือประมาณ 454 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราการแลกเปลี่ยน 106 เยน เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ) ปัจจุบัน บริษัท มีพนักงานทั้งสิ้นกว่า 2,000 คน และมีแผนกปฏิบัติการ และสำนักงานสาขากระจายอยู่ในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก

ข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์

บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ เป็นผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์และการบริการด้านการป้องกันไวรัสบนเครือข่าย และการรักษาความปลอดภัยข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และมีหน่วยธุรกิจอยู่ทั่วโลก สำหรับผลิตภัณฑ์ของเทรนด์ ไมโคร ได้จำหน่ายไปยังองค์กรธุรกิจ ตัวแทนจำหน่ายแบบมูลค่าเพิ่ม และผู้ให้บริการสนใจข้อมูลและชุดทดลองใช้งานผลิตภัณฑ์จากเทรนด์ ไมโครได้ที่ เว็บไซต์ www.trendmicro.com

เทรนด์ ไมโคร และโลโก้ที-บอลล์ เป็นเครื่องหมายการค้า หรือจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของบริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ ส่วนบริษัทอื่นหรือชื่อผลิตภัณฑ์ เป็นเครื่องหมายการค้า หรือชื่อจดทะเบียนของบริษัทนั้นๆ